1. ผู้ชายบ้ากาม
"ว้ายแฟรงค์! ยูใจเย็น ๆ สิ รอไปห้องก่อน บ้าจริง ๆ ฮิฮิ"
เสียงแหลมมีจริตของหญิงโต๊ะด้านหลังทำให้วาวีอดที่จะหันไปมองไม่ได้ แล้วเธอก็ได้เห็นวัยรุ่นหญิงชาวต่างชาติในชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงอกสะบึ้ม กำลังโดนชายใบหน้าไปทางโซนยุโรปซึ่งคาดว่าจะเป็นแฟนของเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยง มองดูแล้วผู้ชายน่าจะอายุมากกว่าฝ่ายหญิงหลายปีแต่วุฒิภาวะเหมือนจะเท่ากับแฟนวัยรุ่น เพราะไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเอาไว้บ้างเสียเลย ชายคนนั้นก้มลงไปหาซอกคอของผู้หญิงซุกไซ้อย่างเมามัน มือข้างหนึ่งของผู้ชายกำลังบีบเต้าอวบข้างหนึ่งของเธอจนเนินเนื้อปลิ้นขึ้นมาเหนือชายคอเสื้อ ก่อนชายมากตัณหาจะก้มลงไปหาเนินเนื้อหยุ่นนั้นแล้วเกลือกกลั้วใบหน้าใส่แรง ๆ อย่างไม่เกรงกลัวว่าจะโดนคนอื่นมองไม่ดีที่กระทำเรื่องลามกในที่โจ่งแจ้ง พวกนั้นทำเหมือนกับว่าอยู่ในห้องส่วนตัว
"ฮิฮิ แฟรงค์อย่าสิ" หญิงที่ปากห้ามแต่การการทำกลับตรงกันข้าม เธอแหงนหน้าเพื่อให้ผู้ชายบ้ากามไซ้ซอกคอถนัดถนี่ สองมือของเธอก็โอบไหล่ลูบไล้ยั่วยุอารมณ์ของคู่ขาไม่หยุด
"น่ารังเกียจ" วาวีเบ้หน้าเหยียดให้กับสองชายหญิงหน้าหนาที่ไม่รู้จักอายผู้คน ถึงตรงนี้จะไม่ใช่ที่พลุกพล่านแต่ก็เป็นที่สาธารณะ ไม่ควรจะมาทำกิริยาไรยางอายแถวนี้ หรือว่าคนพวกนี้จะเป็นพวกชอบโชว์กันนะ
หมดอารมณ์ที่จะนั่งอ่านหนังสือสอบต่อแล้ว วาวีรีบเก็บตำราเรียนเข้าใส่ย่ามผ้าสีขาวแล้วจับสายขึ้นคล้องไหล่ คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ ก่อนอีกมือจะเอื้อมไปหยิบแก้วเครื่องดื่มแล้วลุกขึ้นยืนอย่างไม่นุ่มนวลเท่าไรนักจนขาเก้าอี้ครูดกับพื้นเสียงดังครืด เพื่อให้สองชายหญิงรู้ตัวว่ากำลังทำตัวเสียมารยาทกันอยู่
วาวีปรายตาไปมองสองชายหญิงหน้าหนาก็พบว่าทั้งคู่ได้หยุดทำเรื่องอุจาดแล้วก็มองมมายังเธอเช่นกัน แต่แค่ไม่กี่วินาทีก็หันไปนัวเนียกันต่อ ไม่ได้รู้สึกรู้สากับสายตาและการกระทำของเธอเลยสักนิด เธอจึงได้เดินกระแทกเท้าออกไปด้วยความหงุดหงิด
สัปดาห์หน้าก็จะสอบปลายภาคแล้ว วาวีจึงตั้งใจจะมาหากาแฟกินและที่อ่านหนังสือเงียบ ๆ จึงได้เลือกคาเฟ่แนวธรรมชาติติดกับคอนโดของพี่ชาย แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับความสงบอย่างที่คิดเมื่อเจอกับคนที่ไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจคนอื่น แม้ว่าแต่ละโต๊ะจะห่างกันพอประมาณ แต่ถ้าส่งเสียงวี้ดว้ายกระตู้วู้ก็รบกวนคนอื่นได้เหมือนกัน
วาวีย้ายมาอยู่คอนโดของพี่ชายเมื่อตอนต้นเทอมเพราะเพื่อนสนิทอย่างแป้งร่ำได้กลายมาเป็นว่าที่พี่สะใภ้ของเธอ พอวายุและแป้งร่ำหมั้นกันแล้ว แป้งร่ำก็ถูกพี่ชายของเธอบังคับให้ออกจากหอพักแล้วอยู่ในคอนโดของเขาแทน น้องสาวอย่างเธอจึงโดนพี่ชายบังคับให้ย้ายมาที่นี่ด้วยแต่อยู่คนละห้องกับพี่ชายและเพื่อน ด้วยเหตุผลว่าจะได้ใกล้หูใกล้ตาพี่ชาย แม้ที่นี่จะไกลจากมหาวิทยาลัยกว่าหอพักเดิมแต่ก็มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ทำให้การเดินทางของเธอและว่าที่พี่สะใภ้ไม่ได้ลำบากมากนัก
เดินเข้ามาในคอนโดถึงส่วนล็อบบี้ วาวีก็เจอกับพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ สองคนนั้นเพิ่งเดินออกจากลิฟต์ตอนที่เธอเข้ามาพอดี
"อ้าววา ไปไหนมา?" แป้งร่ำร้องทักเสียงสดใส
"ตั้งใจจะไปอ่านหนังสือที่คาเฟ่ข้าง ๆ แต่เจอคนไม่มีมารยาทเลยจะขึ้นห้อง แล้วจะไปไหนกัน?" วาวีตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงยังคงเจือความหงุดหงิดกับเรื่องที่เจอมา ก่อนจะถามเพื่อนกลับ
"จะไปซื้อกาแฟแบบนั่นแกแหละ อ่านหนังสือแล้วโคตรง่วง" แป้งร่ำตอบใบหน้ายิ้ม อ่านหนังสือสอบทีไรก็มักจะง่วงทุกที ไม่เห็นจะกระปรี้กระเปร่าเหมือนตอนเล่นเกมเลย
"อือ ฉันขึ้นห้องก่อน" วาวีพยักหน้ารับรู้แล้วขอตัวขึ้นห้อง
ตอนนั้นเองที่วาวีได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากด้านหลัง หันไปมองก็เห็นสองชายหญิงหน้าไม่อายที่เธอเจอที่คาเฟ่ กำลังเดินโอบกอดแนบชิดแทบจะเป็นร่างเดียวกันตรงมายังประตูหน้า นี่สองคนนี้ก็พักที่นี่ด้วยอย่างนั้นเหรอ
"ไปล่ะ" ไม่อยากจะเห็นหน้าสองคนนั้นให้เปลืองสายตาวาวีจึงเอ่ยลาเพื่อนและพี่ชายแล้วรีบเดินตรงไปยังลิฟต์โดยสาร รีบกดเรียกลิฟต์รัว ๆ เพราะหากว่าชักช้าสองคนนั้นอาจจะตามมาทันและอาศัยลิฟต์ตัวเดียวกับเธอเพื่อขึ้นห้องพัก และเธออาจจะได้เห็นการพรอดรักให้อุจาดสายตาอีก ขนาดที่โล่งแจ้งยังกล้าจูบกล้าหอม ถ้าเป็นที่ลับสายตาจะไม่ถึงขั้นจกกันหรอกเหรอ
วันรุ่งขึ้น
วาวีในชุดนักศึกษารัดรูปพอดีตัวเดินออกมาจากห้องเพื่อที่จะไปสอบในวิชาแรกของวัน สาวสวยขยับสายกระเป๋าสะพายให้เข้าที่ก่อนจะออกเดินมุ่งหน้าไปยังลิฟต์โดยสารซึ่งอยู่บริเวณช่วงกลางอาคาร
แกรก..
เดินไปจนใกล้จะถึงลิฟต์อยู่แล้ว ประตูห้องพักบานก่อนจะถึงลิฟต์ก็ถูกเปิดออก วาวีชะงักเท้าเมื่อได้เห็นคนเปิดเต็มตา เขาคือชายต่างชาติหน้าหนาที่เธอเจอเมื่อวานนั่นเอง
ชายคนนั้นเหลือบมองมาทางเธอแค่เสี้ยววินาทีก็ดันประตูปิดก่อนจะเดินไปกดเรียกลิฟต์ เธอจึงเริ่มออกเดินแล้วไปหยุดเยื้องหลังเขา
ติ๊ง
รอไม่นานเสียงสัญญาณของลิฟต์ก็ดังขึ้นก่อนที่ประตูสีเงินทรงสูงจะแยกออกกัน ชายตัวสูงบึกบึนก้าวเข้าไปก่อน แล้วเอื้อมมือไปกด
"ไม่เข้ามาหรือไง?"
เสียงทุ้มห้าวถามขึ้นด้วยภาษาไทยชัดเจน วาวียอมรับว่าตกใจไม่น้อยที่ชายหน้าต่างชาติจ๋าพูดด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว ที่ผ่านมาไม่มีในความคิดเลยว่าผู้ชายบ้ากามคนนี้จะพูดภาษาไทย แล้วเมื่อวานที่เธอด่าให้พวกเขาตอนที่อยู่คาเฟ่ล่ะ เขาจะได้ยินหรือเปล่า แต่ได้ยินแล้วจะยังไงล่ะ ก็พวกเขาทำตัวน่ารังเกียจอย่างที่เธอว่าให้จริง ๆ นี่นา
"คุณ!" เสียงทุ้มดุดันเรียกอีกครั้งเมื่อผู้หญิงไทยตรงหน้าไม่ขยับตัว น้ำเสียงบ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดที่หญิงสาวชักช้า เขากดปุ่มเปิดรอจนตะคริวจะกินนิ้วอยู่แล้วก็ยังจะตะลึงชมความหล่อของเขาอยู่นั่น แต่เสียใจด้วยเพราะผู้หญิงตาโตแก้มป่องหน้าไทยจ๋าแบบนี้ไม่ใช่สเปกของเขาหรอก อย่างเขาต้องสาวต่างชาติอกบึ้มสะโพกใหญ่เท่านั้น เพราะตอนกระแทกแล้วเสียงมันปับ ๆ ก้องห้องเร้าใจดี
"ไปค่ะ" วาวีตั้งสติได้ก็ตอบแล้วก้าวเข้าไป อยากจะตั้งแง่ไม่อยากใช้อากาศร่วมกับชายหื่นกามแต่เธอก็ต้องสลัดทิ้ง เพราะถ้าขืนชักช้าอาจจะไปไม่ทันเข้าสอบ
วาวีก้าวเข้าไปแล้วก็เดินเข้าไปด้านสุด เป็นเพราะตอนนี้ชายหื่นกามใส่เสื้อยืดคอกลมและกางเกงยีนสีดำ ขณะที่รอลิฟต์ให้เคลื่อนตัวลงไปชั้นล่างทำให้วาวีไปสะดุดกับรอยลิปสติกสีแดงสดที่ด้านข้างต้นคอหนา เป็นสีเดียวกับที่ผู้หญิงคนเมื่อวานใช้ และใกล้กันนั้นก็ยังมีรอยแดงช้ำจากการโดนดูดดุน คนพวกนี้ชอบโชว์จริง ๆ สินะถึงได้ฝากรอยน่ารังเกียจขณะที่ทำเรื่องอย่างว่าไว้บนร่างกายคู่ขา
'พวกหน้าไม่อาย'
วาวีด่าให้ชายตัวใหญ่หน้าด้านในใจแล้วเบนหน้าหนี ไม่อยากเห็นรอยน่าเกลียดให้เสียสายตาอีก
......................
ว่าที่สามีภรรยาเขาเจอกันก็เขม่นกันเลย 55555