บทนำ
บทนำ
---------------
สามหมื่น!!
ห้าหมื่น!!
หนึ่งแสน!!
เสียงประมูลสินค้าดังแข่งขันอย่างเมามันส์ สินค้าที่อยู่ตรงหน้าต่างก็ถูกใจแขกในงานจนแข่งแย่งเพื่อจะได้มาครอบครอง สินค้าที่ตีราคาเป็นเงินดอลลาร์ ณ เวลานี้ราคาพุ่งสูงตามความต้องการของลูกค้า ถ้าแลกเป็นเงินไทยก็มีค่าไม่ต่ำกว่าสามล้านอัพ
"งานนี้ราคาไปได้สูงกว่าที่คิดไว้เลยนะ" เคนตะกล่าวขึ้นระหว่างนั่งฟังเสียงตาแก่หื่นกามกำลังแย่งชิง
"..." ร่างสูงในชุดสูทแบรนด์หรูจากอิตาลี นั่งนิ่งขรึมมีอาการตรึกตรองกับสินค้าตรงหน้า
สินค้าที่มีใบหน้าอ่อนหวานแต่พิษสงร้ายกาจ สินค้าที่มีรูปร่างน่าทะนุถนอมแต่กลับคล่องแคล่วว่องไวในการต่อสู้ สินค้าที่นั่งนิ่งไร้ความรู้สึกแต่กลับแผ่รังศรีความเซ็กซี่จนคนในงานแทบจะอยากจู่โจมเอามาครอบครอง
"พี่คริสโคตรแน่เลยวะ รู้ใจลูกค้า" เคนตะยังคงเอ่ยชมพี่ชาย ไม่คิดว่าพี่จะทำการตลาดดึงดูดลูกค้าด้วยการจับสาวประมูลมามัดกับเก้าอี้แสดงบทสาวบริสุทธิ์โดนบังคับจนสมจริง
เพราะปกติเเล้วสาวๆบนเวทีมีหน้าที่แค่ยั่วยวนแขกด้านล่างให้แข่งซื้อตัวเธอ ต่างกับสาวสวยคนนี้ที่นั่งหน้านิ่งไม่สนใจสายตาที่กำลังจะกลืนกินเธอเลยสักนิด
"ตอนนี้ราคาหนึ่งแสนแล้วนะครับ มีใครจะสู้อีกไหม แต่รับรองว่านอกจากจะสวยแล้วได้ไปคุ้มค่ากับความสดแน่นอน" พิธีกรบนเวทีประกาศเสียงดังชัดเจน หล่าวตาแก่หื่นกามนั่งลูบปากกลืนน้ำลายด้วยความชอบใจ
"ของงามๆ รอดมาได้ไงวะ สาวบริสุทธิ์อย่างนี้คงได้ราคาดี..."
"...พี่เอาใครมาแทนวะ หามาจากไหน" เคนตะยังคงเอ่ยถามพี่ชายไม่หยุดหย่อน อยากจะเป็นคนประมูลซะเองด้วยซ้ำ แต่ไหนๆ งานประมูลก็จัดขึ้นทุกเดือนไว้รอสินค้าลอสใหม่ดีกว่า เพราะเชื่อมั่นว่าพี่ชายต้องหางานดีๆ แบบนี้มาได้อีกแน่
"สวยจริงๆเลยโว้ย"
"ฮ่าๆ งานนี้อั๊วไม่มีวันถอย"
"อั๊วก็ไม่ยอมเหมือนกัน เด็กสาวรุ่นลูกแบบนี้อยากได้มานานแล้ว"
สองแสน!!
สามแสน!!
สี่แสน!!
"โอ้!! ราคาพุ่งแบบนี้ งานหน้าคนต้องแห่มาเยอะกว่าเดิมแน่ ถ้าพี่มีเด็ดๆอีก เอามาให้ผมเลือกก่อนนะ"
"ระวังติดโรคตายซะก่อน!!" เสียงกระแนะกระแหนจากน้องชายคนเล็กดังออกมา นั่งฟังพี่คนกลางเอ่ยพร่ำเป็นเวลานานจนเอือมระอาเต็มที
"มึงอย่าเสือกไอ้คูเปอร์!!..."
"...จะไม่พูดไรหน่อยเหรอวะ มั่วแต่จ้องเด็กนั่นหรืออยากกินเอง"
"หนึ่งล้าน!!”
@เชียงใหม่
คริสเตียน!
เคนตะ!
คูเปอร์!
สามพี่น้องมาเฟียที่รับช่วงต่อจากท่านปู่คางูยะ ตระกูลซามูเอล มาเฟียที่มีอิทธิพลในแถบเอเชียและตั้งแต่สามคนนี้ขึ้นรับตำแหน่งแทนธุรกิจก็ขยายในมุมกว้างมากขึ้นลุกลามไปทุกทวีปรอบโลก
"พ่อเลี้ยงเรียกฉันมา...เพื่อมาฟังประวัติศาสตร์รึไง"
"ฟังให้จบ!!..." เสียงนิ่งเอ่ยขึ้นแววตาดุดัน จ้องมองไปยังร่างบางที่ปริปากถาม
"...เอาภาพขึ้น" ก่อนจะสั่งลูกน้องที่รับหน้าที่ฝ่ายไอทีให้ทำหน้าที่ต่อ
ภาพสามหนุ่มฉายขึ้นบนโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ทั้งสามล้วนใส่แว่นดำปกปิดแววตา แต่ถึงแม้จะไม่เห็นนัยน์ตาก็รับรู้ได้ถึงความดุร้ายที่แผ่รังษีความโหดเหี้ยมจากบุคลิกภายนอก
"สามคนนี้คืองานใหม่ที่จะให้พวกผมทำใช่ไหมครับ"
"อืม แต่ไม่ใช่ทั้งสามเพราะเป้าหมายของเราคือ คนกลาง"
"พ่อเลี้ยงอยากให้พวกผมทำอะไร สั่งมาเลยครับ" กระทิงลุกลี้ลุกลนเต็มทีเพราะนานแล้วที่ไม่ได้โดนเรียกใช้งาน
"งานนี้พวกแกไม่ต้อง ฉันจะส่งรวงข้าวไปแค่คนเดียว"
"..." เจ้าของชื่อเงยหน้ามองคนชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กๆอย่างงุนงง ไม่ใช่ไม่เข้าใจแต่ปกติแล้วงานที่เธอได้รับมักเป็นงานที่ไม่ต้องมานั่งฟังรายละเอียดขนาดนี้ แค่บอกเป้าหมายงานของเธอก็จบในคืนเดียว
"รวงข้าวคนเดียว!?" ไดรฟ์เอ่ยต่อทันทีอย่างไม่เข้าใจ เพราะดูท่าทางงานนี้น่าจะใหญ่ใช่เล่น
"เริ่มวันไหน" รวงข้าวไม่อยากถามให้มากความจึงเข้าประเด็นเรื่องงานทันที
"อาทิตย์หน้า...พวกมันจะเดินทางมาไทย"
"อืม"
"จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าฉันส่งเธอไปทำอะไร"
"..." ก็คงส่งไปฆ่าหมอนั่น ทำไมต้องถามในเมื่อชีวิตเธอมีค่าแค่เป็นหมารับใช้รอคำสั่งผู้มีพระคุณเท่านั้น
"หยิ่ง!" พ่อเลี้ยงธนินอดที่จะต่อว่าเด็กสาวที่เป็นทั้งลูกน้องและลูกเลี้ยงตรงหน้าไม่ได้
"..." แต่เธอก็ยังคงเป็นเธอ นิ่งเฉย ไร้ความรู้สึก
"หึ เก่งให้ตลอดแล้วกันเพราะฉันจะส่งเธอไปล้วงความลับคู่ค้าจากไอ้เคนตะ"
"หะ!!" เป็นกระทิงที่อุทานด้วยความตกใจหากพลาดขึ้นมามีแต่ตายกับตาย
"ทำไมต้องล้วงความลับจากหมอนี้" ในที่สุดรวงข้าวก็เอ่ยถามออกมา
"เพราะฉันหวังดีหาคนที่น่าจะเป็นภัยกับเธอน้อยที่สุดไง"
"ยังไง!?" คิ้วเล็กขมวดเข้าหากัน
"คนเล็กไอ้คูเปอร์เข้าถึงยากแถมไม่มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงส่วนคนโตไอ้คริสเตียน นิ่งลึก ยากที่จะเดาความคิดของมัน...."
"...ไอ้เคนตะเหมาะกับงานนี้ที่สุดเพราะมันเป็นคนเดียวที่เป็นเสือผู้หญิง!!"
"แล้วถ้าข้าวพลาดท่าเสียทีมันขึ้นมาล่ะ" ไดรฟ์ถามด้วยความเป็นห่วง
"เอาข้อมูลมาให้ได้จะเเลกกับอะไรฉันไม่สน" พ่อเลี้ยงธนินเบะปากไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น หวังแค่ผลประโยชน์จากงานนี้เท่านั้น
"พ่อเลี้ยง!!"
"มึงมีปัญหาอะไรหะ!! ไอ้ไดรฟ์"
"ไม่มีครับ" ไดรฟ์ก้มหน้าอย่างสลด ไม่ดีแน่ถ้าพ่อเลี้ยงรู้ความรู้สึกข้างในของเขาที่มีต่อรวงข้าว
"เสียตัวต้องได้งานมาด้วย อย่าให้มันฆ่าตายเสียก่อนล่ะ"
กึก!
มือบางกำหมัดแน่นอย่างโกรธเคืองกับโชคชะตา ถ้าแม่ของเธอไม่เป็นเครื่องมือต่อรองในการทำงานให้พ่อเลี้ยงธนิน ป่านนี้เธอก็คงหนีเอาตัวรอดจากที่นี่ไปนานแล้ว
"แลกกับอิสระที่เธอต้องการ" พ่อเลี้ยงเอ่ยออกมาในนาทีที่ร่างบางกำลังจะลุกขึ้น
"..." รวงข้าวจำต้องนั่งลงอีกครั้ง เงยหน้ามองพ่อเลี้ยงวัยกลางคนทันทีที่เขาเอ่ยจบ
"งานนี้จะเป็นงานสุดท้าย..."
"...ถ้าเธอทำสำเร็จ!!"