ตอน 2
พี่ต้นเหยียบเบรกเอี๊ยดหน้าทิ่ม คนที่กำลังนวดเจ้าขุนอยู่ ถึงกับหน้าคะมำ มองหน้าพี่ต้นด้วยความไม่เข้าใจ กำลังดีอยู่แท้ๆ เชียว
“หยุดรถทำไมคะพี่ต้น” หล่อนส่งเสียงกระเส่า สายตานั้นช่างตรงข้ามกับปากที่ยื่นถาม รู้อยู่แก่ใจยังกล้าอ้าปากเก่งๆ ถามคนที่กำลังขับรถต้องการใช้สมาธิได้นะ
“เอาล่ะ ไปคอนโดก็ไป” เสียงพี่ต้นสั่นเหงื่อก็ซึมหยดตามหน้าผาก และปลายจมูกโด่งคมสัน
น้องพราวเปิดเผยรอยยิ้มพอใจสามารถป่วนพี่ต้นได้ หล่อนไม่กวนเขาอีก จนกระทั่งถึงประตูห้องพี่ต้นเปิดอ้า ต้อนรับสองหนุ่มสาวอารมณ์ถูกปลุกตั้งแต่อยู่บนรถ ถ้าไม่เกรงใจสายตาคนผ่านไปผ่านมา พี่ต้นเชื่อว่าตัวเองคงจอดรถฟาดน้องพราวตั้งแต่อยู่บนรถ
เสียงหายใจคนทั้งคู่หอบกระเส่าเข้าหากัน น้องพราวกระโดดขี่เอวที่ต้น บังคับใบหน้าเขาเข้ามาจูบปิดประกบปาก ดูดดุนรุนแรงเหมือนคนขาดน้ำจากการไปเดินเล่นกลางทะเลทราย ทั้งคู่ไม่คิดปรานีต่อกัน ก็มันอยากจะทำไม เสื้อผ้าโดนสลัดออกด้วยความเร็ว
พี่ต้นแทบจะดึงเนกไทออกจากคอ หากว่าน้องพราวขอไว้ ดูมันเซ็กซี่ตอนที่เขามีของแค่นี้บนร่างกาย น้องพราวกิ๊กไม่ผูกขาด เกี่ยวเนกไทพี่ต้น พาเดินไปยังเตียงทอดตัวรออยู่ เมื่อไปถึงพี่ต้นผลักหญิงสาวกิ๊กเล่นกันเพลินๆ ลงไปนอน กระโจนลงไปทาบทับ ดึงหล่อนเข้าจูบรุนแรงมีแต่ความเถื่อนผลาญสวาท
เสียงสัญญาณไลน์ดังมีข้อความเข้า เขาไม่ได้ละความสนใจไปจากอาหารจานคุ้นเคย จัดการรวบตึง ลากกินน้องพราว ตั้งแต่ปากเลื่อนลงมาไซ้ซอกคอ
“อา...พี่ต้น...อืม...อ๊ะ...” พอปากว่างหล่อนก็ได้มีโอกาสครางเสียว เปล่งความเสียวผ่านปากที่แห้งหากจากการโดนดูดเม้มเสียดสี
ปากพี่ต้นเลื่อนมาตามหน้าท้อง ฝ่ามือทั้งสองลูบไล้รุนแรงไปทั่วร่างน้องพราว หล่อนสามารถรองรับอารมณ์เถื่อนชายเร่าร้อนเช่นเขาไม่เคยหวั่น สามารถก้าวไปกับเขาได้ไม่จำกัดขบวนท่า ต่อให้ยากง่าย น้องพราวต้านรับไหว ไม่ต่างกับนักรบเจนสนามรบ
พี่ต้นผลักน้องพราวลงนอนกลางเตียง ยกขานางขึ้นสูง จัดการกับดอกไม้ฉ่ำน้ำ ด้วยปลายลิ้นหฤหรรษ์ บ้าๆ นี่มันอะไร ท่านี้พี่ต้นไม่เคยทำกับน้องพราว เขาเร่าร้อนมาจากหลักสูตรอะไร ปลายลิ้นพี่ต้นเลียกลีบดอกไม้ แยกกลีบออก เซาะลงไปในส่วนลึกที่เป็นร่องรอยแยก ซ้ำยังวกมาดูดเม้นแทะนิดๆ กับเกสรดอกไม้ เพื่อให้คันและแสบจี๊ดเล่น กระตุ้นน้องพราวที่ต้องการพี่ต้น จนไม่มีคำว่าเขาเป็นของใคร
ในเมื่อชอบยอมเป็นของเล่นชายหนุ่มได้ ต่อหน้าเมียเขาก็ทำเป็นไร้เดียงสา เงียบๆ ฟาดผัวเขาเรียบโรงเรียนน้องพราว ความใสซื่อสวมแว่นแต่งตัวเหมือนคุณหนูก้าวออกมาจากกระจกโบราณ อำพรางสายตาไพลินได้ยอดเยี่ยม
ร่างบอบบางที่ไร้สิ่งปกปิดสะดุ้งเฮือก เมื่อบางสิ่งส่งเข้าไป มันคือเจ้าขุนที่แข็งแรงแทงเจาะใจกลางดงดอกไม้
“อา...พี่ต้น” น้องพราวร้องครางซาบซ่าน โดนพี่ต้นเอาเจ้าขุนแทงใจกลางสวน แล้วหล่อนก็ดิ้นดีดต่อสู้กับเจ้าขุนท่อนใหญ่ด้วยท่วงท่ารองรับไฟสวาทของชายหนุ่มสุดเร่าร้อน และรุนแรงทุกครั้งที่เขาเคลื่อนเจ้าขุนใส่ทางแยกขอดงดอกไม้เยิ้มด้วยธารน้ำหวาน
พี่ต้นพาเจ้าขุนตะลุยเส้นทางแฉะๆ ดังแจะๆ ไปในหลายท่วงท่า ฉีกแข้งแหกขาหล่อนก็ไม่หวั่น นึกถึงคราวคบกันแรกๆ
“อย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงหูไพลินเด็ดขาดเข้าใจนะพราว”
“ทำไมละคะพี่ต้นขา”
“พราวลองคิดดูสิถ้าจะเกิดอะไรขึ้นไพลินรู้เรื่องของเรา เราสองคนคงไม่ได้คบกัน พี่ไม่อยากให้เส้นทางความรักของเราสั้นแค่นี้สิ”
“พี่ต้นแคร์พราวใช่ไหมคะ”
“ใช่สิจ๊ะ ถ้าอยากคบกับพี่นานๆ ห้ามให้ไพลินรู้เรื่องของเราเข้าใจนะ”
ต่อให้น้องพราวผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน ลักษณะเชยเฉิ่ม กับกรอบแว่นหนาเวลาไปทำงาน อยากประกาศตัวเป็นผู้หญิงของพี่ต้นแค่ไหน หล่อนก็ไม่กล้าเมื่อเขาขอแบบนี้ มันก็ใช่ถ้าเมียพี่ต้นรู้หล่อนอาจจะไม่ได้คบกับพี่ต้น ซ้ำยังอาจจะต้องตกงานอีกด้วย
ตอนนี้น้องพราวผู้แปลงร่างเป็นสาวร้อนแรงไฟแรงสูง โดนจับมายืนหันหน้าเข้าผนัง พี่ต้นสอดเจ้าขุนหัวแข็งเข้าทางเดิมแต่ยืนซ้อนด้วยเนื้อตัวแข็งกระด้าง หุ่นทรมานใจผู้หญิงอยู่ด้านหลัง สวนเจ้าขุนผับๆ เนื้อเขากระแทกกระทบสะโพกงอนเด้งของน้องพราว
ฝ่ามือน้องพราวทาบผนังจนมันจะทะลุไปอีกห้องหนึ่งได้ ใช้แรงกดอันหนักแน่น ทั้งหมดมาจากความซ่านเสียว ที่กระแทกเข้ามาในดงดอกไม้ที่ช่างแฉะไปด้วยน้ำรดดอกไม้
“อืม...อา...ซี๊ด...อา พี่ต้นขา อืม...พี่ต้น” ส่งเสียงครางซ่านสยิวสุดจะทน
น้องพราวสั่นเทิ้ม ขาดความสามารถในการต้านทานความเสียวสยิว ตรงกลางร่องสาว ดันพี่ต้นออกจากหว่างร่องของนาง ชายหนุ่มเมียเผลอเด้งลงไปนอนกลางเตียง โดยมีน้องพราวป่ายขาเรียวตามขึ้นไปคร่อม หยิบแว่นออกมาสวมกลายเป็นสาวแว่น เนิสเป็นเด็กสาวเรียบร้อย ที่ไหนได้เรียบร้อยซะแล้ว
“ว้าววว แบบนี้เหมือนนอนกับเด็กเลย” พี่ต้นตื่นเต้นเวลาเห็นน้องพราวสวมแว่น เจ้าขุนกลางกลายของเขาอยากกระเด้งกระเด้าหล่อนจนปวดหนึบไปทั้งลำ
พี่ต้นเริ่มต้นเด้าร่องหลืบดอกไม้แสนเบ่งบานที่รอท่า การมาเยือนของเจ้าขุนแข็งกระด้าง ทำให้น้องพราวซ่านสยิว
“พี่ต้นปวดมากเลยรู้ไหม”
“ถ้าพี่ขุนปวดก็พามันเข้าไปเด้าด้านในสิคะ รับรองหายปวด” น้องพราวสาวเนิสท้าทายเจ้าขุน อย่าได้ท้าทายมันเชียว มันเด้าไม่เลิก จนกว่าอ้วกจะแตกไปข้างหนึ่ง
“ยั่วพี่ใช่ไหมน้องพราว”
“รีบเด้าสิคะดอกไม้ของพราวรอไอ้ดุ้นของพี่อยู่”
พี่ต้นไม่รอเร่งทำตามร่างกายสั่ง ยัดเจ้าขุนเข้าทางสวาทหยาดแฉะ อุดมไปด้วยน้ำรักรสทะลักทะล้น ทุกครั้งที่ออกแรงเด้า เสียงน้ำเฉาะแฉะดังเรียกความหื่นในตัวพี่ต้น ให้ก้าวทะยานบุกเข้าไปย่ำไปย่ำมา จนเสียวทุกอณูร่างกาย เส้นขนทุกเส้นเหมือนจะเต็มใจพร้อมเพรียงกันลุกชูชัน น้องนางพราวกรีดร้องครวญคร่ำ หมุนกายบิดเกรียว แอ่นอกรับการรุกรานจากเจ้าขุน ที่ฝ่าเข้าไปสร้างความเสียวให้กับหญิงสาว
ลุคส์สาวเนิสนี่เชื่อไม่ได้จริงๆ รุจเชื่อว่าสาวลุคส์แปลกใหม่ท้าทาย จึงลองจีบเป็นกิ๊ก ดูเถอะหูตาสาวเจ้าช่างพราวไปด้วยความอยากผู้ชาย จีบได้วันแรกก็พาไปฟาดในรถจนรถโยกเกือบแหนบพัง ทันใดที่น้องพราวถอดแว่นเนิส หล่อนจะกลายเป็นนางแมวยั่วราคะตัณหาผู้ชายทนใด
ซ้ำยังยั่วยวนด้วยท่าเต้นแหกบนแหกล่างเห็นดอกไม้แยกกลีบชัดตา พี่ต้นคนชอบเซ็กซ์ ดูเพลินจนเจ้าขุนแข็งตั้งร้อนเหมือนไฟเผาร่างกาย
น้องพราวเป็นฝ่ายก้าวขึ้นมาบรรเลงเพลงกามด้วยตนเอง นั่งทับเจ้าขุนหัวเจ้าขุนผลุบหายเข้าไปในดงดอกไม้ที่เพิ่งโดนรดน้ำ นั่งหันให้พี่ต้น มือใหญ่จับเอวคอดไว้ด้านหลังเพื่อเสริมให้จังหวะสวาท ทำนองราคะ เข้าจังหวะอย่างถูกต้องและเต็มไปด้วยความเสียวลงตัว หนักแน่น
“อ๊า...อ๊ะ...ซี๊ด อืม...อา...อ๊ะ...” น้องพราวผันวรรณยุกต์ไม่ค่อยเป็นลำดับเท่าไหร่ เมื่อความเสียวที่สร้างสรรค์เอง สร้างความเสียวครวญคร่ำให้หล่อนจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่างกาย ไม่มีส่วนไหนไม่สั่น ยิ่งดอกไม้สีทองของหล่อนแล้ว มันทั้งเยิ้มทั้งสั่น ยิ่งเกสรของมันก็สั่นอยากโดนขย้ำจากปาก ลิ้นและนิ้วแกร่งขยี้ ดังนั้นเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านหนักหน่วงมากขึ้น