เมียบำเรอ

83.0K · จบแล้ว
ฮิวโก้
48
บท
46.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“มึงอยากจะคิดยังไงก็เชิญ แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่ากูไม่เคยรักมัน” “......” “เรยามันก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วๆ ไป ใช้แค่เศษเงินแลกไม่กี่บาทกูก็ได้เอาแล้ว” เคร้งงงง เสียงแจกันที่อยู่แถวนั้นหล่นแตกกระจัดกระจาย เมื่อฉันเดินถอยหลังไปชนแบบไม่ตั้งใจ ทำให้คนที่อยู่ในห้องต่างพากันหันมามองตามเสียง รวมถึงคุณใหญ่ที่กำลังมองมาในแววตาของเขาที่มองฉัน มันไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรอยู่เลย มันมีแต่ความว่างเปล่า น้ำตาของฉันมันค่อยๆ ไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง เมื่อได้ยินประโยคที่พวกเขานั้นพูดคุยกันก่อนหน้านั้น ที่ผ่านมาคุณใหญ่ไม่เคยรักฉัน มีแต่ฉันที่คิดไปเองว่าเขานั้นรัก แล้วทำไมเขาถึงต้องมาวาดฝันร่วมกับฉัน ให้ฉันคิดไปไกลคิดไปเองคนเดียว ทั้งๆ ที่ความรู้สึกเล่านั้น มันไม่เคยมีอยู่จริง! “แสดงว่าที่ผ่านมา คุณหลอกฉันมาโดยตลอด” ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มันเจ็บเหมือนใจมันจะขาดที่ได้เห็นภาพตรงหน้า “ช่วยไม่ได้ เธอมันโง่เอง!” “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม!?” ฉันกรีดร้องลั่นออกมาจนสุดเสียงที่มี สติของฉันตอนนี้มันแทบไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว “ผู้ชายเวลามันอยากเอา มันก็ทำได้หมดนั่นแหละ!” “......” เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันจึงเงียบไม่พูดอะไรต่อ มันหมดเรี่ยวแรงแล้วตอนนี้

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักคนต่ำต้อยนางเอกเก่งคนรับใช้นางกำนัลรักแรกพบมาเฟียเศรษฐี

ชีวิตของใหญ่

YAI PART

แชะ! แชะ! แชะ! เสียงและแสงเฟลชจากกล้องของนักข่าวจำนวนมากมายมหาศาล ถูกสาดใส่มาที่ ‘ใหญ่ อัศดิณย์’ ทายาทหมื่นล้านลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าสัวบุญชัย นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่มีธุรกิจมากมายนับไม่ถ้วน

“แกช่วยทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย อย่าทำให้ฉันขายหน้า” ผู้เป็นพ่อกระซิบบอกลูกชายที่ทำสีหน้าแสดงท่าทางไม่รับแขกในตอนนี้

“พ่อก็รู้ว่าผมเบื่อกับงานการกุศลของพ่อเต็มทน!” ชายหนุ่มกระซิบลอดไรฟันบอกผู้เป็นพ่อด้วยความหงุดหงิด

“ฉันรู้ว่าแกเบื่อ ถ้าเสร็จงานเมื่อไหร่ แกจะไสหัวไปไหนก็ไป!”

“......”

ใหญ่พยายามยิ้มออกมาเพื่อตบตานักข่าวนับร้อยที่มาเก็บภาพงานการกุศล (จอมปลอม) ของพ่อที่ถูกจัดขึ้นมาในทุกๆ เดือน เบื้องหน้าของครอบครัวเขาคือครอบครัวนักการกุศลตัวยง แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของ ‘ใหญ่’ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ทุกคนต่างคิดว่าเป็นคนดีและใจบุญ จะทำทุกอย่างที่ผิดกฎหมายไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อเล้า นายหน้าขายผู้หญิงเพื่อไปค้าประเวณีทั้งในและต่างประเทศ

“เมื่อยหน้าฉิบ!” ใหญ่ถอดเสื้อสูทออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มทน พร้อมเขวี้ยงมันทิ้งอย่างไม่ใยดีเมื่อเดินมาขึ้นรถที่จอดรอรับอยู่ที่หลังงาน

“เอาน่า แกอย่าบ่นไปหน่อยนักเลย ช่วยฉันแค่นี้มันไม่ตายหรอก” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน เพราะใหญ่มักจะแสดงท่าทางอาการออกมาชัดเจนอยู่เสมอ

“เมื่อไหร่พ่อจะเลิกสร้างภาพทำอะไรแบบนี้สักที นี่พ่อจะรู้บ้างไหมว่าสิ่งที่พ่อทำมันน่าสมเพชขนาดไหน!?” ใหญ่พูดออกมาตามความคิด พลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะเขาเบื่อเต็มทนกับการที่ต้องแสดงละครตบตาคน ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่เลยสักนิด

“ไม่ใช่เพราะสิ่งที่น่าสมเพชหรือไง ที่ทำให้แกมีชีวิตที่สุขสบายราวกับพระราชาเหมือนอย่างทุกวันนี้!”

“......” ชายหนุ่มเงียบเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับผู้เป็นพ่อ เป็นอย่างที่คิด เขามีชีวิตที่เพรียบพร้อมไปซะทุกอย่าง มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการเพียงแค่กระดิกนิ้วสั่ง และแต่ละเดือนครอบครัวของเขาต้องเสียเงินไม่ใช่น้อยให้กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจที่ทำมันราบรื่นไปด้วยดี พ่อเขาเลยต้องจัดงานการกุศลขึ้นมาเพื่อบังหน้า

“แล้วแกจะไปไหนต่อ?”

“ว่าจะเข้าไปดูงานสักหน่อย”

“ทำอะไรก็ระวังด้วยแล้วกัน อย่าทำให้ฉันต้องมาเดือดร้อน ตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้แก!”

“สุดท้ายพ่อก็เป็นห่วงแต่ตัวเอง” ชายหนุ่มแสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน เป็นอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด คนอย่างเจ้าสัวบุญชัยไม่เคยคิดรักใครนอกจากตัวเอง อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่แม่เสียเขาก็ถูกพ่อเลี้ยงมาแบบตามใจตั้งแต่เด็ก เขาเลยมีนิสัยก้าวร้าว หัวรุนแรงและไม่ยอมคน และไม่ได้รับความอ่อนโยนเท่าที่ควรจะเป็น

“มองอะไรของแก?” เจ้าสัวเอ่ยถามลูกชายที่เอาแต่นั่งมองบางสิ่งบางอย่างที่อยู่นอกรถแบบไม่ละสายตา เมื่อรถหรูเคลื่อนขับตามทางมาถึงตลาดที่ครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของ เพราะปกติลูกชายจะเป็นคนที่ค่อนข้างสนใจอะไรได้ยาก มันเลยทำให้ผู้เป็นพ่อสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าสิ่งที่ลูกชายกำลังให้ความสนใจมันคืออะไร

“......” ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงของพ่อเอ่ยถาม แต่เขาก็ไม่ตอบอะไรกลับ ใหญ่เลือกที่จะเบี่ยงสายตากลับเข้ามาภายในรถแทน

“ชอบเขาล่ะสิ” เจ้าสัวเอ่ยแซวลูกชายที่เอาแต่นั่งมองหญิงสาวแม่ค้าที่ขายของอยู่หน้าตลาด

“......”

@คลับ

ทันทีที่เดินเข้ามาในคลับหรูใจกลางเมือง หญิงสาวจำนวนไม่น้อยในสถานที่บันเทิงต่างจับจ้องมองมาทางใหญ่ที่กำลังเดินเข้ามา พร้อมกับลูกน้องคนสนิทอีกสามคน ผมสีควันบุหรี่ที่ตัดกับใบหน้าคมคาย และยังมีดวงตาคู่สวยดุจเยี่ยวที่รับกับสันจมูกอันโด่งคม บวกกับริมฝีปากสีชมพูเข้ม ที่ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันหลงเสน่ห์และอยากพลีกายให้กับชายผู้นี้

“ของที่นายสั่งอยู่ทางนี้ครับ”

“เดินนำไป” ใหญ่พยักหน้ารับรู้ทันทีที่ลูกน้องคนสนิทกระซิบบอกชายหนุ่มจึงเดินตามไปแบบไม่ลังเล

พลั่ก! หญิงสาวที่เดินสวนมาล้มลงอย่างแรงเมื่อชนปะทะกับชายหนุ่มเข้าอย่างจัง ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ไม่แม้แต่จะชายตาแลเธอเลยสักนิด

“ขะ...ขอโทษค่ะนาย พอดีว่าออย...” หญิงสาวพนักงานในร้านพูดไม่ทันจบใหญ่ก็เดินออกไปแบบไม่ใส่ใจในทันที

“คนอะไรน่ากลัวชะมัด!” หญิงสาวพึมพำออกมาเบา ๆ พร้อมมองตามชายหนุ่มที่เดินจากไป สีหน้าและแววตาอันเยือกเย็นมันทำให้เธอรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อมาถึงที่ห้องใต้ดินของคลับ ชายหนุ่มก็เห็นหญิงสาวมากมายนับสิบที่นั่งอยู่ตามมุมห้องด้วยท่าทางหวาดกลัว ซึ่งบางคนก็เต็มใจ บางคนก็ถูกครอบครัวขายมาเพื่อเล็กกับเศษเงินของเขาแค่ไม่กี่แสน

“มีคนไหนที่นายสนใจเป็นพิเศษไหมครับ?” ลูกน้องเอ่ยถามผู้เป็นนายที่กำลังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง ถ้าเกิดว่านายของเขาสนใจหญิงสาวคนไหนเป็นพิเศษ เธอคนนั้นก็จะต้องร่วมหลับนอนกับเขาก่อนที่จะถูกส่งตัวไปขายต่อ

“ไม่มี” ใหญ่ตอบกลับมาสั้น ๆ เพราะหญิงสาวที่อยู่ในนี้เขาไม่รู้สึกว่าถูกใจหรือต้องการเลยสักคน

“จะให้ผมพาพวกมันไปขึ้นเรือส่งมาเลเซียเลยไหมครับ?”

“จัดการให้เรียบร้อย!”

สิ้นสุดคำสั่งของชายหนุ่ม หญิงสาวที่อยู่ในห้องต่างพากันร้องไห้ระงมเมื่อรู้ชะตากรรมว่าจะต้องถูกส่งไปขายที่ซ่องต่างประเทศ แต่เสียงร้องขออ้อนวอนของพวกเธอมันไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนเลยสักนิด

พรึ่บ! หญิงสาวคนนึงที่มีใบหน้าสะสวย ผิวขาวนวลผ่อง อายุรุ่นราวไม่น่าจะเกินยี่สิบปี รีบคลานมากอดขาของใหญ่ไว้แน่นเพื่อร้องขอความเมตตา น้ำตาของเธอค่อย ๆ ไหลลงมาอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง

“จะให้หนูทำอะไรก็ได้ แต่อย่าส่งหนูไปขายเลยนะคะ” เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ไม่ว่าชายหนุ่มจะพยายามสะบัดขาออกเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อย

“......”

“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”

พลั่ก! สิ้นสุดประโยค ชายหนุ่มก็ยกเท้าถีบหญิงสาวอย่างแรงจนเซถลาออกไป เขาเป็นคนค่อนข้างที่จะหวงเนื้อหวงตัว และไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวถ้าไม่ได้รับอนุญาต