9
ส่วนเรื่องไตร่สวนพรุ่งนี้วันเสาร์เขาจะจัดการกับลูกเอง แต่ดูเหมือนเขาจะคิดแผนช้าไปสักหน่อย เพราะถูกผู้เป็นภรรยาชิงตัดหน้าจัดการไปก่อนแล้ว
“ถ้าคุณท่านถาม ฝนก็ต้องบอกว่า ฝนอยากจะแวะไปหาป้าสุเอง ไม่เกี่ยวกับยัยพลอยนะจ้ะ ฉันไม่อยากให้คุณท่านไม่สบายใจ เพราะมีงานเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วฉันจะลงโทษยัยพลอยเอง”
เด็กน้อยพิรุณญาจำเป็นต้องรับคำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ความอัดอั้นตันใจถูกเก็บงำเอาไว้เพียงคนเดียว มีเพียงน้ำตาคอยเป็นเพื่อน เมื่อยามได้อยู่ในห้องตามลำพังเท่านั้น บันทึกเล่มน้อยๆ ถูกเปิดขึ้นมา
แล้วระบายเรื่องราวต่างๆ ให้แม่ผู้จากไปได้รับรู้ พร้อมกับน้ำตาแทบจะทุกครั้งที่มีความทุกข์ คืนแล้วคืนเล่า วันแล้ววันเล่า จนเวลาล่วงเลยมาถึงแปดปีที่ฝากชีวิตไว้กับบ้านหลังนี้
นางสาวพิรุณญาวัยยี่สิบปีเต็มก้าวเดินไปตามถนนเล็กๆ เพื่อไปมหาวิทยาลัยในคณะคหกรรมศาสตร์ แทนการได้ไปเรียนบริหารเมืองนอก ตามที่แม่พัณนิดาเคยบอกเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
“เรียนคหกรรมนี่ล่ะฝน ฉันว่ามีประโยชน์กว่าอย่างอื่น อย่างน้อยๆ ก็จะได้เอาไว้มาทำอาหารให้ฉันกับคุณท่านกินไง เรียนจบแล้วฉันจะจ้างให้มาเป็นแม่ครัวประจำบ้านเลย แต่อย่าบอกคุณท่านว่าฉันบอกนะ ให้บอกว่าฝนอยากเรียนเอง อ้อ! อีกเรื่องไหนๆ บอกท่านแล้วก็บอกท่านไปด้วยว่าฝนอยากไปพักที่หอ เพราะขี้เกียจนั่งรถไปเรียน อย่าลืมล่ะ”
นั่นคือคำบอกกล่าวหรือการสั่งกรายๆ ของจันทภา ซึ่งหญิงสาวเรียก ‘คุณท่าน’ จนเคยชินแล้ว และหอพักหญิงจึงเป็นบ้านใหม่ ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ตั้งแต่เรียนปีแรก พร้อมพงษ์ไม่เคยเห็นดีเห็นงามในเรื่องนี้ เพราะเป็นห่วงและกลัวเด็กในปกครองจลำบาก
ป้าสุที่เธอแวะไปหาก็คิดเหมือนกัน แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่านั่นคือรางวัลที่ดีเลิศที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะจะได้อยู่ห่างคุณหนูพลอยที่เอาแต่ใจตัวเองอย่างร้ายกาจ และถ้าเลือกได้วันเสาร์อาทิตย์เธอก็ปรารถนาที่จะอยู่หอพัก โดยไม่คิดจะกลับไปบ้านนั้นอีกเลยด้วยซ้ำ
“วันหยุดมาช่วยพิมพ์งานให้ฉันก็ได้ จะได้เรียนรู้ไปด้วย จบมาแล้วฉันจะให้ไปช่วยงานที่บริษัท ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร ฉันก็อายุเริ่มเยอะแล้ว รอเจ้าเพชรมาช่วยมันก็ไม่กลับมาสักที สงสัยจะหอบเมียแหม่มกับลูกๆ มาพร้อมกันเลยล่ะมั้งฉันว่า”
แต่เธอก็ยังอดคิดถึงน้ำเสียงและสีหน้าอันเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาของพร้อมพงษ์ไม่ได้ ทุกวันหยุดถ้าไม่มีกิจกรรมอะไรหญิงสาวจึงต้องกลับไปช่วยงานตามคำสั่งเรื่อยมา เฉกเช่นพรุ่งนี้ที่จะต้องไป แม้ใจไม่อยากก็ตามที
“พี่ภาก็มัวแต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านจะไปรู้อะไร เด็กสมัยนี้มันไวไฟจะตาย ใครให้มันหน่อยขี้คร้านจะรีบแก้ผ้ารอ ทำใจเย็นๆ ไว้เถอะนะ อีกหน่อยจะได้นังเด็กนั่นมาเป็นน้อยหรอก พี่พัณนี่ฉลาดนะ ตายไปแล้วยังอุตส่าห์มองการณ์ไกล รีบสั่งให้พี่พงษ์เอานังเด็กนี่หนีจากตาพีทมา
ไม่งั้นป่านนี้คงจะได้เป็นพี่น้องหน้าท้องชนกันเข้าให้แล้วกระมัง แต่ขึ้นชื่อว่าตัวซวย อยู่ที่ไหนมันก็ซวยวันยังค่ำ ไม่ได้คนมันก็เอาอีกคน พริ้มน่ะบอกแล้วว่าอย่าปล่อยให้มันไปอยู่หอ มันห่างหูห่างตา พี่พงษ์จะดอดไปเอามันเมื่อไหร่ท่าไหนยังไงก็ได้”
พริ้มพราวไม่รั้งรอที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองเห็น และแม้จะเป็นการเห็นเพียงน้อยนิด แต่ก็สามารถนำมาเสริมเติมแต่งได้เป็นวรรคเป็นเวร แล้วมีหรือที่จันทภาจะไม่หวั่นไหวหรือไขว้เขวบ้าง เพราะพิรุณญาที่เติบโตเป็นสาวมาแล้วนั้นมีหน้าตาสะสวย ผิวพรรณขาวผ่อง น่าจับน่ามองในสายตาผู้ชายไม่น้อย
“ก็ยัยพลอยไม่ชอบให้ฝนมาอยู่ที่นี่ พี่ก็เลยให้ไปอยู่หอ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ใครจะให้ไปล่ะพริ้มก็”
“ก็พลอยไม่ชอบหน้ามันนี่คะคุณแม่ เอางี้ดีมั้ยคะ พลอยจะให้คนคอยจับตาดูมันไว้ ถ้าเห็นไม่ชอบมาพากล เราไปจัดการมันขั้นเด็ดขาดไปเลยค่ะ” พลอยไพรินก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่เอาแต่ใจตัว ยอมให้คู่ปรับไปอยู่ไกลหูไกลตา จนต้องมานั่งกลุ้มเป็นเพื่อนแม่แบบนี้
“ดีๆ ยัยพลอย จะจับนังนี่เราต้องเอาให้ได้คาหนังคาเขา จากนั้นเราจะได้เฉดหัวมันออกไปจากชีวิตพวกเราซักที วุ่นวายกับมันมานานแล้ว ไม่รู้พ่อแม่มันเป็นคนยังไงมันถึงได้เนรคุณอย่างหน้าตาเฉยขนาดนี้ หนอย! ทำเป็นรักนวลสงวนตัวไปพักหอหญิง ที่แท้มันก็อยากเป็นเมียน้อยพี่พงษ์จนตัวสั่นนี่เอง พี่เรารึก็อ่อนหัดจริงๆ ไม่ทันมารยามันซักที”
จันทภาได้แต่ชะเง้อคอคอยผู้เป็นสามี ที่พักนี้กลับบ้านดึกแทบทุกคืน จะเอ่ยปากถามก็ดูเหมือนจะเป็นการคาดคั้นจนเกินเหตุ จะดุหรือด่าก็ยิ่งทำไม่ได้ใหญ่ ด้วยตัวเองต้องคอยพึ่งพาเงินทุกบาททุกสตางค์จากสามีที่เป็นคนหยิบยื่นให้
เมื่อไม่รู้จะจัดการกับคนของตัวเองยังไง สิ่งที่ทำได้ก็คือจัดการกับคนต้นเหตุต้นปัญหา ที่นับตั้งแต่มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน จันทภายิ่งรู้สึกว่า พิรุณญาจะนำแต่เรื่องร้อนอกร้อนใจมาให้ไม่เคยว่างเว้น ตอนเด็กก็ร้อนใจเพราะมีปัญหากับลูกสาวไม่ว่างเว้น พอเป็นสาวก็ใกล้ชิดกับผู้เป็นสามีอย่างไม่หวงเนื้อหวงตัว
ยิ่งในวันรุ่งขึ้นเมื่อสามีเรียกพิรุณญาเข้าไปช่วยในห้องทำงานด้วยแล้ว จันทภายิ่งร้อนรนจิตใจอย่างบอกไม่ถูก จะเปิดประตูเข้าไปดูก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม เพราะรู้ดีว่าสามีไม่ชอบให้ใครไปกวนเวลาทำงาน จะหันหน้าไปหาลูกสาวก็ออกไปเที่ยวกับอาพริ้มแล้ว
มีเพียงคนเดียวที่จันทภาพอจะระบายความอัดอั้นตันใจได้ นั่นก็คือลูกชายที่อยู่อีกซีกโลก และเมื่อได้ระบายออกมาบ้าง ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะโล่งขึ้นมาหน่อยนั่นเอง