บท
ตั้งค่า

8

“พี่เพชรช่วยพลอยด้วย ยัยฝนผลักพลอย นี่เห็นมั้ยเข่าพลอยเลือดออกเลย ฮือๆๆๆ พลอยจะฟ้องคุณพ่อกับคุณแม่”

การไตร่สวนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์นอกจากเพชรกล้า ซึ่งก็มาเห็นในตอนปลายเรื่องแล้ว จันทภาเชื่อลูกสาวสนิทใจ เพราะมีแผลที่หัวเข่ายืนยันได้ ส่วนพร้อมพงษ์นั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่สุดท้ายก็จำใจต้องลงโทษคนมาใหม่ด้วยการตีก้นไปสองแปะ

แม้จะเป็นโทษเพียงน้อยนิด แต่สำหรับจิตใจที่กำลังเปราะบางของเด็กน้อยแล้ว ช่างเจ็บช้ำเสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่อาจจะระบายกับใครได้ นอกจากเข้าห้องปิดประตูร้องไห้คิดถึงแม่เพียงเท่านั้น

เพชรกล้าเห็นพ่อเดินมาด้อมๆ มองๆ หน้าห้องสมาชิกใหม่ ด้วยอาการกระวนกระวายอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าให้เดาก็คงจะอยากเข้าไปปลอบขวัญเด็กเหลือขอ ที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้านคนอื่นได้ไม่กี่วันก็สร้างปัญหาให้แล้วเป็นแน่ เขาได้แต่ถอนหายใจน้อย ๆ

เมื่อวาดภาพถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น จากเด็กไร้สกุลเพียงคนเดียวที่ย่างก้าวเข้ามาอยู่ในบ้านเขา แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงได้ เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาก็ต้องบินไปเรียนแล้ว เขาเองก็ได้แต่หวังว่าปัญหาต่างๆ คงจะหมดสิ้นไป ก่อนวันที่เขาจะกลับบ้านเท่านั้นเอง

“พี่มิตรออกรถเร็วๆ เข้า พลอยรีบไป”

พลอยไพรินสั่งด้วยความรีบเร่ง เมื่อตัวเองเข้าไปนั่งในรถได้แล้ว มิตรหันกลับมาหาด้วยสีหน้ามีคำถาม เพราะเหลือคุณฝนอีกคนที่เขาจะต้องรับกลับบ้านเช่นทุกวันด้วย แต่เมื่อถูกคุณหนูพลอยสั่งซ้ำหลายต่อหลายรอบด้วยน้ำเสียงอันดัง

เขาจึงจำใจต้องทำตาม พิรุณญาวิ่งมาทันได้เห็นแต่ท้ายรถเพียงเท่านั้น นี่เป็นครั้งที่ยี่สิบในรอบสองเดือนนับตั้งแต่โรงเรียนเปิดเทอม ที่ถูกพลอยไพรินสั่งให้คนรถขับหนีกลับบ้านก่อน

“ไปกับรถที่บ้านจี๊ดก็ได้นะฝน เดี๋ยวจะบอกให้แวะไปส่งที่บ้าน ว่าแต่จะไปบ้านเก่าหรือบ้านใหม่ดีล่ะ”

เพื่อนนักเรียนในกลุ่มรีบอาสา เพราะเคยชินกับการกระทำนี้ของพลอยไพรินแล้ว เด็กสาวในชุดมัธยมต้นหันไปยิ้มให้เพื่อนก่อนจะบอกจุดหมายปลายทางที่ใจอยากจะไป บ้านที่ห่างมาเกือบสี่เดือนดูเงียบเชียบ เมื่อมือน้อยกดออดอยู่หลายครั้ง และก็ไม่เห็นมีใครเดินออกมาเปิดประตูแต่อย่างใด

“คุณฝน! คุณฝนจริงๆ ด้วย โธ่! คิดถึงจังเลยค่ะ แล้วมาได้ยังไงคะ”

สาวน้อยหันไปหาต้นเสียง เมื่อรู้ว่าเป็นป้าสุก็โผลเข้าไปกอดด้วยความรักและคิดถึง ไม่นานสุภางค์ก็รีบจูงมือเล็กๆ เข้าประตู แล้วเดินอ้อมไปทางหลังครัวแทนการเดินผ่าบ้าน เหมือนที่เคยทำมานับตั้งแต่เข้ามาทำงานในบ้านหลังนี้

“ที่นี่ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ยัยหนิง คุณผู้หญิงผู้เรื่องมากเข้ามาอยู่แล้วล่ะค่ะคุณฝน ทุกอย่างที่ป้าเคยทำๆ มา แม่คุณสั่งยกเลิกสั่งเปลี่ยนใหม่หมด แล้วหอบคนที่บ้านมาอยู่จนเต็มไปหมด ห้องคุณฝนก็ถูกแม่น้องสาวของคุณผู้หญิงยึดไปแล้ว ป้าแอบย่องไปเก็บเสื้อผ้ากับตุ๊กตาคิตตี้ไปไว้ให้ที่ห้องได้สองสามตัว ว่าจะเอาไปส่งก็ไม่มีโอกาสสักที ตื่นเช้ามาก็ต้องวิ่งวุ่นทำสารพัด ไม่มีเวลาได้พักเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าห่วงคุณพีทนะ ป้าออกไปทำงานที่อื่นแล้ว ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าขาดคุณผู้หญิงไปแล้ว บ้านจะกลายเป็นขุมนรกได้ขนาดนี้ คุณพีทนะคุณพีท จะมีเมียทั้งทีเอาคนที่มันดีๆ หน่อยก็ไม่ได้”

และอีกสารพัดเรื่องที่สุภางค์ระบายออกมาด้วยความอัดอั้น พิรุณญาให้สงสารป้าสุเหลือกำลัง แต่ไม่รู้จะช่วยยังไงได้ ตัวเองก็เจอปัญหาไม่มีเว้นวัน จากน้ำมือของพลอยไพริน สองชีวิตที่มีเรื่องอัดอั้นตันใจ จึงต่างได้ระบายความทุกข์ให้กันและกันฟัง จนลืมเวล่ำเวลา

“ป้าสุไม่ต้องไปส่งฝนหรอกค่ะ รีบทำกับข้าวเถอะ ฝนจะเดินออกไปนั่งรถเมล์หน้าปากซอยเองค่ะ”

สิ้นคำทั้งสองก็รีบแยกย้ายกันไป พิรุณญาหันหลังกลับไปมองบ้านหลังใหญ่ ที่เมื่อไม่นานมานี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตตัวเอง และได้ใช้พักพิงด้วยความสุขใจมาตลอดตั้งแต่จำความได้

แต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่ที่ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว น้ำตาแห่งความเสียใจและคิดถึงแม่ก็ไหลรินออกมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนที่สองเท้าจะค่อยๆ ก้าวเดินจากไป

“ฝน! มาทำอะไรแถวนี้”

เสียงเรียกของพี่ชายต่างสายเลือดที่ขับรถผ่านมาเจอน้องพอดี ทำให้ดวงหน้าขาวที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตายิ้มออกมาด้วยความดีใจ แล้วสองร่างก็โผลเข้าไปกอดกันด้วยความคิดถึง โดยเฉพาะคนเป็นน้องที่ไม่เจอหน้าพี่มานานและกำลังมีทุกข์ใจ

“ตอนนี้พี่ยุ่งมาก งานมีให้ทำเยอะแยะไปหมด ไม่รู้จะศึกษาตรงไหนบ้าง ถ้าไม่ได้คุณน้าเข้ามาช่วย ป่านนี้ก็คงจะงมเข็มงมโข่งอยู่คนเดียว นี่โชคดีนะที่พี่เสร็จจากลูกค้าแล้วตรงกลับบ้านเลย ปกติกว่าจะถึงก็สองทุ่มไปแล้ว เหนื่อยน่าดูเลย พี่เองก็เพิ่งจะเข้าใจหัวอกคุณพ่อกับคุณแม่วันนี้เองล่ะ ว่ากว่าจะทำงานหาเงินมาให้เราใช้ได้แต่ละบาทลำบากแค่ไหน”

เมื่อเห็นพี่ชายยุ่งและมีปัญหามากพอแล้ว เรื่องที่จะบอกกล่าวก็ถูกเก็บไว้ในใจดังเดิม น้ำตาที่จะไหลรินออกมา พิรุณญาก็สั่งห้ามเอาไว้ แล้วก้มลงไปสนใจกับไอศรีมถ้วยโปรด ที่ไม่ได้ลิ้มลองมานับตั้งแต่สิ้นแม่อันเป็นที่รักไป

จากนั้นพชรก็พาน้องเดินดูข้าวของหลายอย่าง และควักกระเป๋าซื้อให้เหมือนเคย แต่ที่ไม่เหมือนคือเขาเห็นว่าน้องไม่ค่อยอยากจะได้อะไรเช่นเมื่อก่อนแล้ว จนเขาต้องคะยั้นคะยอให้น้องถึงจะยอมรับ

พชรเลี้ยวรถเข้าบ้านในเวลาไล่เลี่ยกับที่พร้อมพงษ์มาถึงพอดี เขาจึงได้รู้ว่าพิรุณญามาไม่ทันรถที่บ้านไปรับ ครั้นจะเรียกลูกสาวมาถามเดี๋ยวนั้นก็ไม่อยากทำนัก เขาจึงออกปากชวนหลานชายให้ร่วมมื้อเย็นด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel