บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 มันเกิดขึ้นได้ยังไงมาร์ค

สะอางอยากเอาไม้ฟาดหน้าหลานชายตัวดีแรงๆ เหลือเกิน ดูสิ วรนิษฐ์แพ้ท้องขนาดนี้ยังลากออกไปทำงานที่โรงหมักปุ๋ยกับคนงานอีก พอนางเข้าไปยุ่งก็ถูกหาว่าอย่ายุ่งเรื่องของ ‘ผัวเมีย’ ก็คนที่ยุ่งหัวขาวคนนี้เนี่ยแหละที่เลี้ยงมันมาจนโต

“คุณแม่สะอางมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ” มนัสวินที่เพิ่งกลับมาจากทานมื้อเช้ากับปลัดเพื่อนรักของตนมาเจอแม่ยืนที่ชานเรือนไทย

“ก็มาดูพ่อตัวดีของแกสิพ่อวิน ดูมัน...ดูมันทำกับหนูไวน์สิ น้องแพ้ท้องอาเจียนกินข้าวกินปลาไม่ได้แทนที่มันจะเห็นใจ สงสาร มันลากไปทำงานที่โรงหมักปุ๋ย” นางพูดพร้อมชี้มือไปทางสองคนที่ฉุดกระชากลากถูกันไปในไร่ เพราะต้องเดินผ่านไร่ถึงจะไปถึงโรงหมักปุ๋ยที่อยู่อีกฟากฝั่งของไร่

“แล้วทำไมคุณแม่สะอางไม่ห้ามมันครับ”

“มันบอกให้แม่ไม่ต้องยุ่งเรื่องของผัวเมีย แม่เลยจบเลย และหนูไวน์ก็บอกไหว แม่ก็เลยปล่อยมันไป ดูมันสิ มันจะชิงชังอะไรน้องนักหนา ทำเขาท้องแล้วยังมาทำทรามใส่อีก ไอ้หลานตัวดี”

“ก็จริงของมัน ปล่อยมันไปเถอะครับ ยังไงตอนนี้ก็เป็นผัวเมียกัน ตอนนี้เราคนนอกแล้วครับ อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะเกลียดชังหนูไวน์อะไรนักหนา หนูไวน์ออกจะน่ารักขนาดนั้น มันเกลียดลงได้ยังไง” มนัสวินมองภาพลูกชายและลูกสะใภ้ที่ลากกระชากกันเดินในไร่ตรงหน้าตน

“เฮ้อ! ก็ต้องปล่อยไป เพราะตอนนี้ตามาร์คก็ยอมจดทะเบียนสมรสให้เราแล้ว แล้วเราเถอะ ไปคุยอะไรกับพ่อปลัดล่ะ”

“ก็เรื่องทั่วไปแหละครับแม่สะอาง ว่าแต่วันนี้คุณแม่จะไปไหนไหมครับ”

“ไม่ล่ะ วันนี้แม่จะสวดมนต์ นอนกลางวัน อ้อ...วันเสาร์นี้แม่กับแม่พรจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดนะพ่อวิน” นางบอกลูกชาย

“ก็พรุ่งนี้แล้วสิครับ ผมเองก็ไม่อยู่เหมือนกันว่าจะไปต่างจังหวัด ไปเยี่ยมกำนันวีที่ขอนแก่นสักหน่อยครับ เห็นว่าตอนนี้ไม่สบายเลยว่าจะไปเยี่ยมมัน”

“เอ้า! พ่อวีไม่สบายเรอะ!”

“ครับ ผมโทรไปถามข่าวคราวเมื่อวานบอกว่าตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เลยว่าจะไปเยี่ยมสักหน่อย และจะไปอยู่สักอาทิตย์ครับ”

“อือ...แล้วใครจะอยู่กับหนูไวน์ ตามาร์คร้ายขนาดนั้น”

“ถ้ามันจะร้ายถึงขั้นทำร้ายเมียกับลูกตัวเอง มันก็ไม่ใช่คนแล้วครับแม่สะอาง เราปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกันดูก็ดีนะผมว่า อยากรู้เหมือนกันปากร้ายๆ ของไอ้ลูกหมาของผม มันจะร้ายอย่างปากว่าไหม ไม่ใช่ขี้คร้านจะรักจะหลงหนูไวน์แบบโงหัวไม่ขึ้นนะแม่สะอาง”

มนัสวินมองออกว่าอนาคตลูกชายจะต้องรักลูกสะใภ้ตนแน่นอน ถึงวันนี้จะชิงชัง แต่บทสรุปก็มักสวยงามเสมอ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นหลายคู่ ก็แม่สะอางของเขากับพ่อบรรพจน์ของเขานี่แหละ พ่อของเขาเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กว่าโดนพ่อกับแม่บังคับให้แต่งงานกับแม่ที่รักของเขา ตอนแรกก็ชัง ชังนักชังหนา ชังจนไม่อยากเห็นหน้า แต่พอได้ใกล้ชิดและเห็นความขยัน ไม่ยอมคน อดทนกับความลำบากไปกับตน จากไม่รักก็เป็นรักและหลงและหวงมาก จนมีเขานายมนัสวิน พ่อของนายมโนภฤศนี่แหละ

เฮอะ!

“แม่ก็อยากเห็นวันนั้นของตามาร์คเหมือนกัน แต่ตอนนี้ดูมันทำกับหนูไวน์สิ มันน่าให้พ่อวินต่อยหน้ามันอีกสักสามสี่ครั้ง”

“แล้วบอกว่าผมทำแรงเหมือนเคยก็ไม่ไหวนะครับ ปล่อยมันเถอะ ไหนๆ ตอนนี้มันก็มีเมียมีลูกเป็นตัวเป็นตนแล้ว”

“แล้วแม่แพรนั่นล่ะ ตามาร์คยังไม่บอกเลิกเธอเลยนะ”

“ผมว่ามันจัดการได้ครับ เราอย่าไปยุ่งเลย เรายุ่งเท่านี้ก็พอแล้วครับ คุณแม่เข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวสายกว่านี้แดดจะแรงแล้วจะหน้ามืดได้ครับ”

“อือ...ประคองแม่หน่อยพ่อวิน”

“ครับ แม่สะอาง” แล้วเขาก็โอบประคองแม่ของตน แม้ว่าปีนี้ท่านจะอายุ 72 ย่าง 73 ปี ก็ยังแข็งแรงไม่ปวดแข้งปวดขาเหมือนคนวัยเดียวกัน ท่านยังเดินเหินคล่องตัว และโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่เป็น เพราะท่านหมั่นออกกำลังกายขุดดินทำแปลงผักสวนครัวเอง ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่ให้ทำ แต่ท่านก็ยังทำ เขาจึงปล่อยให้ท่านทำ เพราะมันคือความสุขของท่าน

“ไอ้เขียด” เมื่อฉุดกระชากลากวรนิษฐ์มาถึงโรงหมักปุ๋ยก็ร้องเรียกไอ้เขียด คนงานสนิทตนเองมาหาทันที

“ครับ คุณมาร์ค”

“สอนงานแม่นี่ด้วย สอนหล่อนหมักปุ๋ย”

“ครับนาย” ไอ้เขียดยกมือเกาหัวเล็กน้อย เพราะอยู่ๆ นายก็ส่งผู้หญิงสวยๆ มาให้สอนงาน

“ส่วนเธอก็ทำตามที่ไอ้เขียดมันสอนล่ะ อย่าคิดจะกลับบ้านเชียว คิดจะอยู่ที่นี่ต้องทำงานได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะปุ๋ยหมัก แพคสตรอว์เบอร์รี หรือตักขี้วัว เธอก็ต้องทำ เข้าใจไหม” ก่อนจะจากไปไม่ลืมหันมาพูดกับคนตัวเล็กที่ลากบังคับมายังโรงหมักปุ๋ย

“ค่ะ แค่นี้เอง ไวน์ทำได้สบายมาก พี่มาร์คอย่าพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ไวน์ทนไม่ได้หนีกลับสวีเดนเลยค่ะ มันไม่มีประโยชน์หรอก เพราะตอนนี้ไวน์คือเมียพี่มาร์ค และกำลังอุ้มท้องลูกของพี่มาร์คด้วย” เธอโต้สวนกลับ และคำพูดของวรนิษฐ์ทำให้คนงานที่อยู่รอบๆ ตัวต่างมองมายังทั้งสอง

“ดี! อยากเป็นเมียฉันนักก็ทำงาน อย่าคิดว่าเป็นเมียฉันจะสบาย ไอ้เขียดดูยัยนี่ให้ดี คนงานทำงานอะไรก็ให้ทำตามนั้น อย่าเห็นอกเห็นใจเธอ เธอก็แค่คนงานคนหนึ่งเท่านั้น เข้าใจไหม”

“คะ...ครับนาย” ไอ้เขียดรับคำไม่เต็มเสียงนัก เมื่อตอนนี้รู้ฐานะของสาวคนสวยแล้ว

“เดี๋ยวตอนเย็นกูจะมาดูว่ามึงสอนอะไรเธอบ้าง” เขาบอกจบก็หมุนตัวจะเดินจากไป แต่ก็ถูกมือเล็กคว้าแขนเขาดึงรั้งไว้พร้อมคำถาม

“พี่มาร์คจะไปไหนคะ?”

“ไปหาแฟน” เขาตอบสั้นๆ แกะมือเธอที่เกาะแขนออกแล้วเดินจากไป

“ไปหาแฟนทั้งๆ ที่มีเมียแล้วนี่นะคะ” เธอวิ่งไปยืนดักหน้าเขาไว้ไม่ยอมให้ไป

“เมียที่ไม่เต็มใจ ฉันไม่ยอมรับหรอกนะไวน์ หลีกไป ฉันจะไป” เขายื่นมือไปผลักไหล่เธอออกไปให้พ้นทางของตน และเขาก็พลั้งมือทำแรงไปหน่อยจนเธอเสียหลักล้มไปกับพื้น

โอ๊ย!

ดีนะที่เธอเอามือยั้งพื้นไว้เลยไม่ได้ล้มลงแรงตามแรงผลัก และถ้าล้มลงแรงไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกเธอ

“สมน้ำหน้า!” ไม่มีคำพูดปลอบโยนหรือการช่วยเหลือใดๆ จากมโนภฤศ เขายกยิ้มมุมปากแล้วก้าวเดินยาวๆ จากไป

“คนเลว! คนไร้หัวใจ! ถ้าไวน์ล้มแรงแล้วแท้งลูกจะทำยังไง ถึงจะเกลียดและไม่ชอบไวน์ แต่ยังไงลูกในท้องไวน์ก็เป็นลูกของพี่ พี่อย่าลืมสิ”

เธอดันตัวเองลุกขึ้นพร้อมตะโกนไล่หลังเขาไปและคำพูดของเธอก็ทำให้เขาหยุดชะงักเท้าที่เดินทันที เพราะเมื่อกี้เขาลืมไปได้ยังไงว่าคนที่เขาผลักนั้นกำลังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ เขาจึงหมุนตัวเดินกลับมาหาเธอ

“เจ็บไหม?” เขาถามสั้นๆ พร้อมกับมองสำรวจร่างเล็กที่ลุกยืนขึ้นเต็มความสูงที่อยู่เพียงระดับอกของตน

“ยังไม่แท้งหรอกค่ะ จะไปหาแฟนก็ไปสิคะ ไปแล้วบอกเธอด้วยว่าพี่มีเมียและลูกแล้ว” เธอบอกเขา

“เธอมันร้าย!”

“ร้ายพอกับพี่มาร์คนั่นแหละค่ะ ไปสิคะ อยากให้ไวน์ทำงานเหมือนคนงานใช่ไหม ได้ค่ะ งานทุกอย่างไวน์จะทำให้พี่ดู และจะทำให้เห็นว่ายังไงพี่ก็ไล่ไวน์กลับสวีเดนไม่ได้แน่นอนค่ะ” พูดจบเธอก็เดินไปจับพลั่วขุดดินที่ทิ้งบนกองขี้วัวแห้งขึ้นมาตักใส่กระสอบเหมือนที่คนงานคนอื่นกำลังทำ

“ดี! อวดดีให้ตลอดเถอะแม่ตัวดี!”

มาร์คเห็นความอวดดีไม่ยอมแพ้ของวรนิษฐ์แล้วยิ่งหงุดหงิดจนต้องรีบเดินจากโรงหมักปุ๋ย เพราะขืนอยู่นานคงได้ทะเลาะกันยาวๆ แน่นอน

“คุณครับ หยุดก่อนเถอะครับ นายไปแล้ว” ไอ้เขียดเดินมาดึงแย่งพลั่วในมือเล็กเปราะบางไปถือไว้

“ไม่เป็นไรค่ะ ไวน์ทำได้ ทำได้เหมือนทุกคนนั่นแหละค่ะ สอนงานไวน์ด้วยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ เรียกไวน์เฉยๆ ได้ค่ะ เพราะไวน์เป็นแค่เมียชังที่กอดทะเบียนสมรสของพี่มาร์คค่ะ และก็บังเอิญพี่เขาทำท้องเลยต้องรับผิดชอบค่ะ”

เธอบอกทุกคนเมื่อเห็นหน้าทุกคนสงสัย เธอไม่อายหรอกนะ คนที่อายควรเป็นเขาต่างหาก มีเธอแล้วยังไปหาแฟนอีก

ความไม่ถือตัวเป็นกันเอง ทั้งน้ำเสียง ท่าทางของวรนิษฐ์ทำให้เหล่าคนงานต่างยิ้มเอ็นดูและชอบความเป็นกันเองนี้ ซึ่งความไม่ถือตัวของหญิงสาวต่างจากแพรไหม แฟนของนายหนุ่มที่เย่อหยิ่งและมองพวกเขาด้วยสายตาดูถูก

“ไม่ต้องมองว่าไวน์เป็นเจ้านายหรือเมียพี่มาร์คนะคะ มองไวน์เป็นเหมือนเพื่อน เหมือนลูก เหมือนหลานคนหนึ่งนะคะ เพราะตอนนี้ไวน์ก็ทำงานเหมือนทุกคนค่ะ สอนไวน์ด้วยนะคะ” เธอบอกทุกคนอีกพร้อมกับสนใจตักขี้วัวตรงหน้าตัวเองใส่กระสอบต่อ ส่วนไอ้เขียดก็ได้แต่ยิ้มและช่วยจับกระสอบให้นายหญิงของตน

“ขอบใจนะจ๊ะพี่...”

“เขียดครับ เรียกผมว่าเขียดก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับคุณไวน์” ไอ้เขียดบอกเธอเพราะเธอเป็นนาย

“ได้ยังไงคะ พี่เขียดดูเหมือนจะอายุเยอะกว่าไวน์ เรียกไวน์เฉยๆ นะคะ ไม่ต้องเรียกคุณเคินหรอกค่ะ คนกันเอง เราคือครอบครัวเดียวกันแล้วนะคะ ต่อไปนี้ไวน์จะมาทำงานที่โรงหมักปุ๋ยทุกวันและจะไปช่วยทำงานที่โรงแพคสตรอว์เบอร์รีอบแห้งด้วยค่ะ” เธอบอกทุกคนให้ปฏิบัติกับตัวเองเหมือนคนกันเอง และยิ่งทำให้ทุกคนเอ็นดูประทับใจในตัวเธอแม้จะเพิ่งเจอกันครั้งแรก

“แต่หนูไวน์ท้องอยู่นะ อย่าทำงานหนักมากนะ พวกยกของอะไรให้ไอ้เขียดหรือเรียกพวกป้าๆ กับลุงๆ และพี่คนอื่นได้นะลูก” หนึ่งในป้าคนงานเอ่ยบอกเตือน

“ค่ะป้า ขอบคุณนะคะ ถ้าจะยกอะไร หนูจะให้ทุกคนช่วยนะคะ รบกวนสอนงานไวน์ด้วยนะคะ”

“ยินดีค่ะ / ยินดีครับ”

แล้วทุกคนก็ต่างพากันทำงานต่อ และตรงไหนที่วรนิษฐ์สงสัย เธอจะถามทุกคนทันทีและทุกคนก็พร้อมใจกันจะสอนงานหญิงสาวและรู้สึกชอบหลงรักความน่ารักของสาวเจ้า

มโนภฤศมองแฟนสาวที่เดินถือถ้วยกาแฟร้อนมาให้ตนเอง เวลานี้ลูกค้าในคาเฟ่ของหล่อนยังไม่มี เพราะยังเช้าอยู่ เขาคิดมาตลอดทางที่ขับรถมาหาเธอว่าจะเริ่มบอกเรื่องของตัวเองกับสาวเจ้ายังไงดี แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเริ่มยังไงก็ต้องบอกความจริงเธออยู่ดี

“ทำไมวันนี้มาหาแพรได้คะ เราไม่ได้นัดกันไม่ใช่เหรอมาร์ค” เธอถามแฟนหนุ่มพร้อมดึงเก้าอี้ตรงข้ามเขาออกมานั่ง

“ครับ พอดีผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแพร”

“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามเขาพร้อมกับหยิบแก้วน้ำตรงหน้าตนขึ้นมาจิบดื่ม

“เรื่องของเรา” เขาบอกไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นักพร้อมกับวางถ้วยกาแฟที่ยกขึ้นดื่มลงแล้วคว้ามือเล็กของแฟนสาวที่วางบนโต๊ะตรงข้ามตนมาจับกุมไว้แน่น

“เรื่องอะไรคะ มาร์คทำให้แพรรู้สึกไม่ดีเลยค่ะ หน้าของมาร์คดูลำบากใจมากที่จะพูด”

“คือผมจะบอกว่าผมทำผู้หญิงท้อง และ...” เขายังไม่ทันได้พูดต่อ มือเล็กที่จับกุมไว้แน่นก็ดิ้นขัดขืนดึงกลับไปทันทีพร้อมกับแพรไหมเอ่ยถามกลับมา

“มันเกิดขึ้นได้ยังไงมาร์ค? มันเกิดขึ้นได้ยังไงคะ?” เธอถามเสียงสั่นเครือเบือนหน้ามองไปทางอื่นเมื่อตอนนี้ไม่อยากมองหน้าเขา ยกมือเล็กขึ้นปาดเช็ดน้ำตาของตนเองเบาๆ

อึก! ฮือๆๆ

“ผมขอโทษแพร แต่มันเกิดขึ้นแล้ว และคุณพ่อกับคุณย่าก็ให้ผมรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น ผมไม่ได้รักเธอ แต่ผมก็ต้องรับผิดชอบเธอ เพราะเธอท้อง และผมก็จดทะเบียนสมรสกับเธอแล้ว งานแต่งงานก็จะจัดขึ้นในอีกสองเดือนครับ” แม้จะเจ็บปวดที่ต้องบอกเรื่องนี้กับแฟนสาว และถึงจะรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอ แต่ก็ต้องบอกความจริง เพราะยังไงเสียสักวันเธอก็ต้องรู้ ไม่จากปากเขาก็จากปากคนอื่น สู้บอกตอนนี้เลยดีกว่า

“กลับไปเถอะค่ะมาร์ค ตอนนี้แพรไม่มีอะไรจะคุยกับมาร์คแล้ว ระหว่างเรามันต้องจบลงเท่านี้” เธอบอกเขาเสียงสั่น แม้จะรักมาก แต่เมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาอยู่ในชีวิตของเขาแล้ว และเธอก็เป็นส่วนเกิน หากยังจะฝืนไปต่อคงไม่แคล้วถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เมียน้อย’ แม้จะมาก่อน แต่ถ้าไม่ถูกเลือกก็เป็นน้อยอยู่ดี

“ผมไม่ได้รักเธอคนนั้นนะแพร ถ้าเธอคลอดลูกแล้วผมจะหย่ากับเธอ รอผมนะแพร” เขาลุกขึ้นไปฉุดรั้งร่างสั่นสะอื้นขึ้นมาโอบกอดแน่น

“แล้วมาร์คไม่กลัวว่าการรอของแพรจะเสียเปล่าเหรอคะ อนาคตมันไม่แน่นอนหรอกค่ะ วันนี้มาร์คไม่รักเธอ แต่วันข้างหน้าใครจะไปรู้ เราจบกันเถอะมาร์ค ตอนนี้มาร์คก็ได้มีลูกสมใจแล้ว เรื่องของเราให้มันสิ้นสุดเท่านี้เถอะค่ะ” เธอดันตัวเองออกจากอ้อมกอดแข็งแรงที่เคยเป็นของตน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว

“ไม่นะแพร ผมไม่มีวันรักผู้หญิงคนนั้น”

“เหรอคะ ไม่รักแต่ไปทำเธอท้องทำไมคะ และเธอก็น่ารักดีนะคะ เธอสวยกว่าแพรเยอะ” เธอบอกเขาพร้อมสูดลมหายใจแรงๆ เข้าปอดและเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนวลให้ตนเอง

“แพรพูดเหมือนเคยเห็นเธอ?” เขาถามเมื่อประโยคของแพรไหมที่ดังโต้กลับมาทำให้เขาสงสัย

“เห็นแค่ไกลๆ เมื่อวานที่อำเภอค่ะ และมาร์คก็อุ้มเธอด้วย” เธอบอกเขาตามที่ตนเห็น

“คุณเห็นผมกับเธอที่อำเภอ”

“ใช่ค่ะ และมาร์คก็โกหกว่าอยู่ไร่ ทั้งๆ ที่อยู่อำเภอ นั่นก็ทำให้แพรคิดทั้งคืนแล้วว่ามันเพราะอะไร แต่ตอนนี้แพรเข้าใจแล้วค่ะ มาร์คโกหกแพรทั้งๆ ที่ไม่เคยโกหก แต่เมื่อวานโกหกแพร แล้วแบบนี้อนาคตใจมาร์คก็คงไม่เหมือนเดิม มาร์คถามใจตัวเองให้ดีนะคะว่าตอนนี้รักแพรหรือแม่ของลูกกันแน่” เธอยกมือขึ้นมาจิ้มอกซ้ายของเขาเพื่อให้มโนภฤศคิดทบทวนหัวใจของตนเอง

มโนภฤศมองนิ้วเล็กที่จิ้มแทงหน้าอกตนเองพร้อมกับมองดวงหน้าของแฟนสาวที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของเธอ เธอคงเจ็บปวด แต่แปลก ทำไมเขารู้สึกเฉยชา ทำไมเขาไม่รู้สึกปวดร้าวอย่างที่คิดเมื่อพูดออกมาแล้ว แต่เขากลับรู้สึกโล่งอกเสียด้วยซ้ำ

“มาร์คกลับไปดูแลเธอกับลูกเถอะค่ะ แม้แพรจะรักมาร์ค แต่เมื่อเกิดเรื่องนี้แล้วแพรก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวมาร์คอีกแล้ว เพราะมาร์คเป็นสิทธิ์ขาดของผู้หญิงอื่นแล้ว”

“ผม...”

“เราจบกันแค่นี้เถอะค่ะ แต่ถ้าถามถึงความเป็นเพื่อนกัน แพรไม่มีให้หรอกนะคะ เพราะมาร์คทำแพรเจ็บเหลือเกินตอนนี้ แพรไม่สามารถมองหน้าหรือพูดคุยกับมาร์คได้หรอกนะคะ ขอเวลาแพรนะคะ พร้อมเมื่อไหร่แพรจะไปยินดีกับมาร์ค” เธอบอกเขาแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์ ทิ้งให้มโนภฤศยืนนิ่งตามลำพัง

“ผมขอโทษแพร...” เขาบอกเธอสั้นๆ และหวังว่าเธอจะรับรู้ถึงความเสียใจและรู้สึกผิดของเขา ก่อนเขาจะเดินออกจากร้านของเธอไป และเมื่อประตูร้านปิดแนบสนิท คนที่คิดว่าจะไหวก็นั่งทรุดลงกับพื้นชันเข่าขึ้นแล้วก้มหน้าร้องไห้สะอื้นทันที

ฮือๆๆๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel