บทที่ 1 ท้อง! 1
วรนิษฐ์แทบล้มทั้งยืนเมื่อดูที่ทดสอบตรวจการตั้งครรภ์สามอันที่ซื้อมาตรวจและสามยี่ห้อ เธอมองแล้วมองอีกแทบล้มทั้งยืน มันเกิดขึ้นกับเธอได้ยังไง แค่คืนเดียวมันไม่น่าจะติดลูกได้เร็วขนาดนี้ เธอนั่งทรุดเข่ากับพื้นปิดหน้าร้องไห้แล้วมองที่ทดสอบการตั้งครรภ์อีกครั้ง
อึก! ฮือๆๆๆ
“พี่มาร์ค อึก! จะรู้ไหมว่าไวน์ท้อง ฮือๆๆ”
เธอร้องไห้พึมพำกับตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นเช้ามาเขาก็เดินทางกลับประเทศไทยและไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย และเรื่องของเธอกับเขาในคืนนั้น เขาก็ไม่พูดถึง เขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องปกติไม่ได้สำคัญอะไร แต่สำหรับผู้หญิงอย่างเธอ ผู้หญิงที่แอบรักพี่ชายลูกชายของเพื่อนรักพ่อมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก มันคือความสุขที่ได้มอบสิ่งมีค่าของลูกผู้หญิงให้เขา
“ไวน์จะไปหาพี่ จะไปบอกเรื่องลูกของเรา อึก! ฮือ”
เธอยกมือเรียวปาดน้ำตาพร้อมลูบท้องเล็กตัวเองไปมา อีกไม่นานท้องคงโตและทุกคนก็จะรู้ว่าเธอกำลังท้อง เธอลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็งเพื่อไปเก็บกระเป๋าและติดต่อไปหามโนภฤศเพื่อบอกเขาว่าเธอจะเดินทางไปหาเขาที่เมืองไทย แต่พยายามติดต่อเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับ เขาไม่รับสายเธอที่โทรข้ามประเทศไปหาเขาเหมือนตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
“พี่มาร์คไม่รักไวน์ไม่เป็นไร แต่ไวน์รักพี่มาร์ค ไวน์จะไปหาและอยากรู้จังถ้าพี่รู้เรื่องลูก พี่จะดีใจหรือเสียใจกันนะ” เธอบอกตัวเองแล้ววางโทรศัพท์ในมือไว้แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตนมาเก็บเสื้อผ้า
ประเทศไทย จังหวัดเพชรบูรณ์
ณ ไร่พันแสงเดือน ไร่สตรอว์เบอร์รีที่มีพื้นที่นับ 500 ไร่ และมีพื้นที่กว้างออกไปตามภูเขา และภูเขาใหญ่หลังบ้านก็เป็นเหมือนสมบัติของครอบครัวเขา บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ประยุกต์กลางไร่สตรอว์เบอร์รีกำลังมีเจ้าของบ้านและแฟนสาวที่กำลังเล่นรักกันบนเตียงนุ่ม
“อือ...ไม่เอานะคะมาร์ค แพรเหนื่อยแล้ว” เสียงแฟนสาวเอ่ยกระเง้ากระงอดเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ของแฟนหนุ่มกำลังซุกซน
“นะครับแพร ขออีกรอบนะ” เขาบอกเธอพร้อมกับเคลื่อนตัวคร่อมทับหล่อน
“มาร์คน่ะ หื่นเกินไปแล้วนะคะ แพรไม่ไหวแล้วนะคะ”
“แต่ผมไหว วันนี้ผมอยู่ในไร่ทั้งวันเลย เหนื่อยมากด้วย ขอกำลังใจอีกนิดนะ”
“ไม่แล้วมาร์ค แพรไม่ไหวแล้ว อีกอย่างแพรต้องกลับบ้านแล้วนะคะ เดี๋ยวแม่ของแพรจะว่าเอาได้ค่ะ”
“ท่านรู้ว่าคุณมาอยู่กับผม ท่านไม่ว่าหรอก อีกหน่อยเราก็จะแต่งงานกันแล้วนะแพร” เขาบอกแฟนสาว
“แล้วเมื่อไหร่คะ คุณย่ากับคุณพ่อของคุณไม่ชอบแพร แล้วเราจะได้แต่งงานกันจริงๆ เหรอคะ”
“คุณก็ลองท้องสิ ปล่อยตัวเองท้อง ยังไงคุณย่ากับพ่อของผมก็ต้องยอมรับคุณ”
“แต่มาร์คคะ แพรยังไม่อยากมีลูกตอนนี้ แพรยังไม่พร้อม” เธอบอกแฟนหนุ่ม
“ทำไมล่ะแพร ผมอายุเยอะแล้วนะ และผมอยากมีลูกกับคุณนะแพร” เขาบอกหล่อน
“แต่แพรยังอยากให้เราอยู่กันสองคนก่อนค่ะถ้าแต่งงานกัน แล้วเรื่องลูกเราค่อยมีตอนไหนก็ได้”
“ครับ สรุปคุณจะกลับใช่ไหม” เขาถามพร้อมเคลื่อนตัวไปนอนข้างๆ แทน
“งอนแพรเหรอคะ ไม่งอนนะคะ” เธอขยับตัวมานอนเกยทับบนอกของเขาพร้อมจูบที่หน้าอกเขาหนึ่งที
“ไม่ครับ แพรแต่งตัวเถอะ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านเอง” เขาบอกแฟนสาว
“ค่ะ แพรรักมาร์คนะคะ”
“ผมก็รักแพรครับ” เขาบอกหล่อนแล้วลุกขึ้นลงจากเตียงไปแต่งตัวเหมือนกัน ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่ม
เช้าวันใหม่มาทักทาย อากาศแจ่มใสแต่เช้า แดดแรงแต่เช้า เมื่อเดินมายังชานของเรือนไทยที่เป็นเหมือนที่ชมบรรยากาศของไร่พันแสงเดือนแล้วก็ต้องยิ้มกับภาพตรงหน้าเมื่อตอนนี้เหล่าคนงานกำลังทำงานกันในไร่ มีเสียงร้องดังตะโกนข้ามหากันดูคึกคักทำให้มุมปากเหี่ยวย่นของคนวัย 72 ปี ยกยิ้มตามภาพที่เห็น
“คุณแม่ตื่นเช้าจังเลยนะครับวันนี้” เสียงแหบแห้งตามวัยของมนัสวินเอ่ยทักทายคุณแม่ที่รักของตนในตอนเช้า
“อือ...ก็บรรยากาศที่บ้านเราดีนี่ ว่าแต่เราเถอะพ่อวิน ไปไหนมาแต่เช้าฮึ” นางสะอางถามลูกชายคนเดียวของนางที่เป็นหม้ายเมียตายจากไปตั้งแต่คลอดหลานตัวดีอย่างมโนภฤศให้นางได้เลี้ยงดู
“ไปรับหนูไวน์ ลูกของทรงพลมาน่ะครับแม่ หนูไวน์ไหว้คุณย่าสิลูก นี่แม่ของลุงเอง” เขาบอกพร้อมกับแนะนำคนที่ยืนด้านหลังตนเองให้กับแม่ที่รักได้รู้จัก
“สวัสดีค่ะคุณย่า” เธอยกมือไหว้ท่าน แม้จะไปอยู่สวีเดนตั้งแต่เด็กแต่เธอไม่เคยลืมประเพณีไทยบ้านเกิดตัวเอง
“อือ...หนูไวน์ลูกพ่อทรงพลกับแม่ลินดานั่นเรอะพ่อวิน โตขนาดนี้แล้วเหรอลูก สวยน่ารักมาก” นางยิ้มอ่อนโยนเอ็นดูเด็กสาวเมื่อนึกถึงครั้งที่เคยเห็นเธอตอนเด็ก
“คนนั้นแหละครับ หนูไวน์เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ ผมพาหนูไวน์ไปพักผ่อนก่อนนะครับ”
“แล้วห้องหับจัดไว้ให้หนูไวน์หรือยังล่ะพ่อวิน”
“ผมให้คนจัดไว้ตั้งแต่วันก่อนแล้วครับแม่ ผมให้เด็กจัดห้องติดกับห้องไอ้มาร์คนั่นแหละ” เขาบอกท่าน
“อือ...ไปเถอะ หนูไวน์มาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนเถอะลูก ย่าเองก็จะไปดูในครัวว่ามีอะไรทานมั่งเช้านี่ แล้วพ่อมาร์ค ลูกชายตัวดีเราล่ะ ตั้งแต่เช้าแม่ยังไม่เห็นเลย” นางถามถึงหลานชายตัวดี
“ก็คงไปหาแฟนมันนั่นแหละครับแม่ มันหลงแฟนมันจะตาย”
มนัสวินพูดแล้วก็กัดกรามเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าแฟนลูกชาย เขาไม่ชอบ ไม่ถูกชะตากับเด็กคนนั้นเสียเลย ไม่รู้อะไรดลใจให้ลูกชายเขารักนักรักหนา
ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มของวรนิษฐ์เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันทีเมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสองฝ่าย
“ว่าแต่หนูไวน์ทานข้าวเช้ามารึยังลูก” สะอางถาม
“คุณลุงพาหนูแวะทานก่อนจะมาที่ไร่แล้วค่ะคุณย่า” เธอตอบท่าน
“อือ...งั้นย่าไม่กวนแล้ว ไปพักผ่อนเถอะลูก ว่าแต่จะมาอยู่นี่กี่วันกันลูก” นางถามกลับ
“ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าจะมาลองสมัครงานที่ไร่ของคุณลุงวินและคุณย่าดูค่ะ”
“หืม! หนูไวน์พูดเล่นอีกแล้ว ไปพักเถอะ เดี๋ยวลุงพาไปดูห้อง อีกอย่างพ่อกับแม่เรากำชับนักกำชับหนาให้ลุงดูแลหนูไวน์อย่างดี” มนัสวินก็แปลกใจเหมือนกันที่อยู่ๆ วรนิษฐ์อยากมาพักผ่อนที่ไร่ของตน
“ก็ไวน์ว่างงานตั้งแต่เรียนจบ พอจะทำงานคุณแม่กับคุณพ่อก็ไม่ยอมให้ไปสมัครงาน บอกว่าให้พักก่อน จนตอนนี้หนูจบมาได้สามปีแล้วค่ะ ยังไม่ได้ทำงานเลย ที่เรียนมาก็ลืมหมดแล้วมั้งตอนนี้” เธอบอกติดตลก
“งั้นถ้าอยากทำงานก็ทำได้ เดี๋ยวลุงจะหางานที่เหมาะกับเราให้ทำ แต่ต้องถามพี่มาร์คเขาก่อนว่ามีตำแหน่งไหนว่างให้หนูไหม”
“พูดกันอยู่นี่แหละ แล้วเมื่อไหร่จะได้พักผ่อน ไปได้แล้วพ่อวินพาหลานไปพักผ่อนได้แล้ว” สะอางเอ่ยไล่พร้อมกับเดินเข้าไปในบ้านเพื่อจะไปดูในครัวว่าเช้านี้มีอะไรทานบ้าง ส่วนมนัสวินกับวรนิษฐ์ก็พากันเดินเข้าบ้านไปเหมือนกัน แต่ไปอีกทาง และมีเด็กรับใช้อีกคนที่ลากกระเป๋าเดินตามไปด้วยเช่นกัน