บทที่ 2/1

ณ ร้านอาหาร สถานที่นัดหมายที่นัดพูดคุยเรื่องสัญญาพรีเซนเตอร์

ภัทรพลกับศศินามาพบน้ำหวาน นลินี นางเอกดาวรุ่งที่กำลังมาแรงในตอนนี้

และตอนนี้ดาราสาวก็กำลังมีข่าวที่เป็นกระแส เพราะรถของเธอถูกชนจนตกข้างทาง

แต่โชคดีที่หญิงสาวไม่เป็นอะไร แม้รถจะเสียหายค่อนข้างเยอะ

เพราะศศินาเห็นโอกาสจากข่าวนี้ เลยเสนอชื่อของน้ำหวาน นลินี

ในที่ประชุมบอร์ดบริหารให้มาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่

แทนคนเก่าที่กำลังจะหมดสัญญา

แต่บังเอิญที่วงในแจ้งมาว่า ศศินาดันใจตรงกับทางพิริยะประกันชีวิต

บริษัทคู่แข่งที่ติดต่อนางเอกสาวไปเหมือนกัน

“สวัสดีค่ะคุณศศินาคุณภัทรพล”

บีบีผู้จัดการของดาราสาวเดินเข้ามาทักทายคนทั้งคู่

พร้อมนำไปที่โต๊ะที่มีนางเอกสาวนั่งรออยู่

“น้ำหวานคะ นี่คุณภัทรพลประธานบริหารของบริษัทสยามพาณิชย์ประกันภัย

แล้วก็นี่คุณศศินาผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดค่ะ”

น้ำหวานยกมือไหว้คนทั้งคู่อย่างนอบน้อม

สมกับที่เป็นนางเอกน้องใหม่ที่ได้ชื่อว่านิสัยน่ารัก เป็นที่เอ็นดูของแฟนคลับกับนักข่าว

“สวัสดีค่ะ น้องน้ำหวานเรียกพี่นากับพี่พีทก็ได้นะคะ”

ศศินาเอ่ยกับดาราสาวด้วยรอยยิ้ม

ชายหนุ่มเหลือบมองแฟนสาว

รู้ว่านี่คือการสร้างความคุ้นเคยแบบแนบเนียนตามแบบฉบับศศินา

หญิงสาวมีความสามารถเข้าถึงใจคนอย่างลึกล้ำเสมอ ชายหนุ่มรู้ดี

เพราะออกไปเจรจาธุรกิจกับศศินานับครั้งไม่ถ้วน

จนจับแนวกันได้ จึงเริ่มบทบาทในฝั่งของตนเองทันที

“น้องน้ำหวานนี่ ตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีกนะครับ”

ส่งคำชมไปพร้อมรอยยิ้มกระชากใจ

ที่เจ้าตัวรู้ถึงเสน่ห์ของตนเองเป็นอย่างดี

ซึ่งก็ได้ผลอย่างที่คิด เพราะดาราสาวถึงกับหน้าแดง

ส่งยิ้มเขินอายน่าเอ็นดูกลับมาเลยทีเดียว

แหมก็ถ้าคนอย่างเขาเล็งเป้ามันไม่เคยพลาด

แต่ที่ผ่านมาเกรงใจเมียเลยไม่ค่อยได้บริหารเสน่ห์สักเท่าไหร่

แต่หนนี้มันเป็นการทำในหน้าที่

นานๆ ทำทีก็กระชุ่มกระชวยดีเหมือนกัน ทำเพื่องานเมียคงไม่ด่า

ชายหนุ่มใช้เสน่ห์ที่มีอย่างเหลือเฟือ ให้เป็นประโยชน์

“น้ำหวานทานนี่ดูครับ อันนี้อร่อย”

ชายหนุ่มตักแกงเขียวหวานปลากรายใส่จานให้หญิงสาว

“ขอบคุณค่ะพี่พีท”

หญิงสาวเอ่ยขอบคุณแผ่วเบาอย่างขัดเขิน

การเจรจาเป็นไปด้วยดี

ทางผู้จัดการของน้ำหวานขอเอาข้อเสนอจากสยามพาณิชย์

ไปพิจารณาเปรียบเทียบกับข้อเสนอของทางพิริยะ

แล้วจะติดต่อกลับมาทีหลัง

“ท่าทางน้ำหวานจะสนใจแก”

ศศินาพูดพร้อมเหลือบตามองคนข้างๆ ที่ทำหน้าที่ขับรถ

ลอบสังเกตเงียบๆ ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไร

ปกติเขาจะไม่ยุ่งกับคนที่ไม่รับเงิน

สัมพันธภาพกับผู้หญิงอื่นเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน

จ่ายแล้วจบ เพราะเขากลัวปัญหาที่จะตามมา

“เอ้านี่ใครครับ คุณศศินากระผมพีทภัทรพลนะครับ”

ภัทรพลหันมายักคิ้วให้แฟนสาว ยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี

ที่เห็นแววตาจับผิดจากคนข้างๆ ปกติศศินาไม่ค่อยหึงเขา

“เอาให้มันอยู่ในขอบเขต อย่าให้รู้นะว่าแอบไปทำอะไรลับหลัง

คราวนี้ถ้ามีอะไรนอกลู่นอกทาง ฉันหอบผ้าหนีแกแน่พีท”

“ขู่จังวุ้ย กลัวไปหมดแล้วเนี่ยะ”

ชายหนุ่มเอื้อมมือมากุมมือแฟนสาวไว้

แล้วยกขึ้นจรดจมูก สูดดมมือบางแล้วเอ่ยออกมาว่า

“แกก็รู้นะนา ว่าที่ผ่านมาถึงแม้ฉันจะออกนอกลู่นอกทางบ้าง

แต่มันก็เป็นความคึกคะนองชั่วครั้งชั่วคราว

ฉันไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาในชีวิตเลยสักคน

มันเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกายล้วนๆ ของผู้ชายมักมากอย่างฉัน

โอเคฉันยอมรับว่าฉันสันดานไม่ดี แต่แกก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ตรงนี้

แกเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งเมีย เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นครอบครัว

เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตฉัน

ถ้าไม่มีแกในชีวิต ฉันนึกภาพไม่ออกว่าฉันจะอยู่ยังไง

เพราะฉะนั้นแกเลิกขู่ว่าจะหอบผ้าหนีฉันได้แล้ว

ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมให้แกไปแน่ เลิกคิดได้เลย”

ชอบหนุ่มพูดพร้อมเอามือที่กำลังจับมือหญิงสาวอยู่

มาผลักหัวทุยได้รูปสวยของเจ้าตัวอีกที อย่างไม่แรงนัก

“โอ๊ยเจ็บ จะซึ้งก็ไม่ซึ้งให้มันสุดๆ นะไอ้บ้า”

หญิงสาวหันมาบ่นชายหนุ่มทั้งที่จริงๆ ในใจซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ

ไม่บ่อยนักหรอก ที่ภัทรพลจะดึงดราม่ามาในโหมดซึ้งแบบนี้

การได้รู้ว่าตนเองยังเป็นคนสำคัญของผู้ชายที่เป็นที่รัก

เป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ ให้เธอมีแรงสู้ต่อและยืนอยู่ข้างๆ เขาแบบนี้

ชีวิตของเธอมาไกลเกินกว่าที่คาดหวัง

ถ้าไม่มีภัทรพล เธอไม่มีทางมาถึงจุดนี้ ได้แน่ๆ

เขาจึงเป็นทั้งผู้มีพระคุณ เป็นเพื่อน เป็นผัว เป็นเจ้านาย

และเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของเธอ

ถ้าไม่มีภัทรพลอยู่ เธอก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่อใคร

ทุกวันนี้เธอถึงทำงานหนักทุ่มเทถวายชีวิตให้สยามพาณิชย์ประกันภัย

เพราะเธอรู้ดีว่านี่คือความภาคภูมิใจและภารกิจของชายหนุ่มที่เธอรัก

ที่ต้องแบกธุรกิจของตระกูลให้อยู่รอดในฐานะทายาทรุ่นที่สาม

ลำพังแค่ชีวิตเธอมันพอแล้วจริงๆ

หญิงสาวมีเพียงความฝันเล็กๆ ที่อยากเปิดคาเฟ่ทำเบเกอรี่ขายเท่านั้นเอง

แต่ก็ต้องพับความฝันนั้นไป เพราะต้องช่วยพยุงความฝันของแฟนหนุ่มให้สำเร็จ

ทุกวันนี้เงินทองเธอมีเหลือเฟือ

ลำพังแค่เงินเดือนผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด

พร้อมโบนัสปีละแปดหลักก็ทำให้เธออยู่สบายๆ ไปได้ตลอดชีวิต

แถมเธอยังเป็นคนไม่บ้าแบรนด์เนม

อะไรที่ดี มาใหม่อยู่ในกระแส ส่วนใหญ่จะเป็นภัทรพลซื้อให้แทบทั้งนั้น

เงินทองของเธอเองก็ถูกนำไปลงทุนในหุ้นบ้างในอสังหาริมทรัพย์บ้าง

เรียกได้ว่าตั้งแต่กลับมาจากการหอบผ้าหอบผ่อนไปเรียนต่อโทที่อเมริกากับภัทรพล

ศศินาแทบจะไม่ได้ใช้เงินเดือนของตนเองเลย

เขาเป็นคนใจกว้างและเปย์เมียไม่แพ้ผู้ชายสายเปย์คนไหนเลยทีเดียว

ถึงแม้จะออกนอกลู่นอกทางบ้าง แต่เขาก็ดูแลเธออย่างดีมาตลอด

แบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลผู้หญิงของเขาได้

ก็เพราะเขาเป็นแบบนี้จะไม่ให้เธอรักเธอหลงเขาได้ยังไง