บทที่ 1/6
“เสร็จเลยที่รัก ผัวจัดให้เต็มที่เลยครับ”
ว่าพรางชายหนุ่มเร่งสวนสะโพกสอบใส่หญิงสาวด้วยความเร็วแรงกว่าเดิม
ทั้งบดส่ายควงโยกเพื่อส่งแฟนสาวไปให้ถึงจุดสุดยอด ศศินาเสียวขั้นสุดจนขนในกายชูชันไปหมด
‘เธอมันผู้หญิงใจง่าย’
ศศินาก่นด่าตัวเองในใจ แค่ได้เห็นหน้าหล่อๆ ได้ซบอกแกร่งๆ ได้กลิ่นตัวเขา
เธอก็ต้านทานไม่ไหว เผลอมีอารมณ์ร่วมทุกครั้ง
ในหัวมันคอยแต่จะบอกตัวเองว่าผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ
ต่อให้จะมีผู้หญิงสักกี่คนอยากครอบครองเขา สุดท้ายเขาก็เป็นของเธอคนเดียวอยู่ดี
หญิงสาวคิดไปถึงครั้งแรกของเธอกับเขา
แปดปีก่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสาม ภัทรพล อกหักจากสาวที่หมายปอง
เธอทิ้งเขาไปคบกับรุ่นพี่ปีสี่ที่เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย
ชายหนุ่มกินเหล้าเมาหนัก อคินเพื่อนสนิทของเขาจึงโทรตามเธอให้มาขับรถพาเขากลับ
ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนรักบวกเบ้อย่างเธอ ทำเป็นปกติอยู่แล้วเวลาที่เขาไปดื่ม
คืนนั้นทั้งคู่เผลอมีอะไรเกินเลยกัน แม้ว่าภัทรพลจะไม่ได้มีสติเต็มร้อย
แต่เธอรู้ตัวดีทุกอย่างว่ากำลังทำอะไร ความใกล้ชิดบวกความผูกพัน
ตลอดสองปีกว่าของความเป็นเพื่อน เป็นศศินาเองที่เผลอคิดเกินเลยกับเขา
เห็นเขาคบแล้วก็เลิกกับผู้หญิงมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คนในช่วงเวลาสองปีแรกที่ทั้งคู่เป็นเพียงเพื่อนกัน
ในตอนที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันเขาไปเอากับผู้หญิงที่ไหนเธอรู้หมด เขาไม่เคยปิดบัง
บางครั้งผู้หญิงเหล่านั้นก็มาร้องห่มร้องให้ให้เธอช่วยเวลาที่เขาตีตัวออกห่าง
เพราะเขาไม่เคยคบใครนาน เพราะความสัมพันธ์มันเป็นแบบนี้
รู้ไส้รู้พุงกันแบบนี้ เมื่อผ่านค่ำคืนแสนหวานนั้นไป
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่รู้ว่าจะให้สถานะว่าอะไรดี
หลังจากคืนนั้นภัทรพลก็ชวนเธอย้ายไปอยู่ที่คอนโดด้วย
เขาให้เหตุผลว่าเธอจะได้ช่วยติวเพราะใกล้สอบ
ตอนดึกหิวเธอจะได้ทำอะไรให้เขากินได้
แม้จะไม่มีสถานะมารองรับว่าระหว่างเราคืออะไร แต่ก็อยู่ด้วยกัน
มีอะไรกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่เคยพูดว่าคบกัน
แต่เขาก็เลิกแรดเลิกออกไปล่าเหยื่อแบบที่ผ่านมา
เวลาที่มีสาวเข้าหาเขาก็ยังพูดคุยปกติ แต่เขาก็ไม่ได้สานต่อหรือตามรับตามส่งใครเหมือนก่อนหน้านั้น
เธอพอใจกับสถานะที่เป็นอยู่ เพราะลึกๆ ก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองคู่ควรกับเขา
เธอไม่เรียกร้อง ไม่แสดงตัว ไม่เคยถามหาสถานะ
ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในทุกๆ วัน มีเขาอยู่ข้างๆ ไม่เคยไปไหน เธอก็พอใจแล้ว
คนภายนอกเข้าใจว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน
เพราะการแสดงออกตอนอยู่ในที่สาธารณะก็เป็นแบบเพื่อน
มีแค่คนสนิทกันเท่านั้น ที่รู้ว่าทั้งคู่เป็นมากกว่าเพื่อน
หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่
ภัทรพลก็ช่วยหญิงสาวแต่งตัว
มือก็คอยแต่จะลูบไล้วนเวียนอยู่กับเนื้อตัวของเธอ จะใส่เสื้อผ้าก็ใส่ไม่เสร็จสักที
“พอได้แล้วพีท วันนี้มีประชุมตอนสิบโมงนะ”
เธอต้องคอยห้ามคนหื่น ที่ชอบกินดุ กินครั้งเดียวไม่เคยอิ่ม
ถ้าไม่ปราม เข้าประชุมไม่ทันแน่ ชายหนุ่มยอมหยุดแล้วเปลี่ยนมาอยู่ในโหมดเอาการเอางาน
“เรื่องพรีเซนเตอร์ คนใหม่นาว่าไง ถ้าน้ำหวานเขาเลือกที่จะรับงานให้ทางพิริยะ
นาจะเอาใครมาแทน”
“เราต้องได้คนนี้ แกก็รู้ว่าข่าวอุบัติเหตุของน้ำหวานคนกำลังจับตามอง
ถ้าเขาเปิดตัวว่าเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับใคร
มันจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้บริษัทนั้นมาก
เพราะฉะนั้นเราต้องไม่พลาด”
“แล้วแกจะทำยังไงต่อ”
“ฉันให้คุณหญิงติดต่อนัดน้ำหวานให้แล้ว เย็นนี้แกไปด้วยกันนะ”
“อืมเก่งจริงๆ เลย เมียใครน้า”
พูดพรางจับจมูกหญิงสาวโยกเบาๆ
“อื้อพีทอย่าจับแรงเดี๋ยวจมูกเบี้ยว”
ไม่มีเวลาไปแก้ด้วยงานรัดตัวมากช่วงนี้
เพราะเธอต้องเร่งแคมเปญหลายอย่างเพื่อให้ยอดขายปีนี้เพิ่มจากปีที่แล้วยี่สิบเปอร์เซนต์
ตามเป้าที่วางไว้ ว่าจะไปเข้าสปา ทำผม ร้อยไหมฉีดโบท็อกซ์ก็ไม่ได้ไปเลย
เพราะมีประชุมแทบทุกวัน เลิกงานก็ดึก กลับบ้านก็ต้องปรนนิบัติพัดวีผัว
กว่าจะได้หลับได้นอน ก็เที่ยงคืนไปแล้ว อยากจะมีสักยี่สิบร่าง
สวยก็ต้องสวยงานก็ต้องทำ การมีผัวหล่อเหมือนจะดีนะ
แต่มันลำบากตรงที่เธอต้องพยามสวยให้มากขึ้น
ภัทรพลไม่เคยขอร้องให้เธอต้องดูดีขึ้น
มีแต่เธอนี่แหละที่ไม่มั่นใจ บางทีเธอก็สงสัย
ไปไหนมาไหนตัวติดกันกันตลอดแต่ผู้หญิงก็ยังทอดสะพานให้ผัวเธออยู่เนืองๆ
คนอื่นไม่แอบสงสัยบางเหรอว่าไอ้ที่เดินด้วยกัน เนี่ยะ มันเมียเขา
หรือเธอจะต้องไปโมหน้าชุดใหญ่ที่เกาหลีดี ถึงจะดูคู่ควร