ตอนที่ 8 คนนี้มีเจ้าของแล้ว
ตั้งแต่ได้ไปทำงานด้วยกันนิวเยียร์ก็นอนดึกกว่าเดิม เพราะงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่รับทำยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ทำเองแค่งานที่ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมง ถ้าเป็นงานยากช่วงนี้คงต้องส่งให้กับโรงพิมพ์ของพรีมเป็นคนทำไปก่อน
ทุกเช้าเธอจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัว และแต่งหน้าสวย ๆ เตรียมไปกินข้าวกับใครบางคน
ก๊อก ก๊อก
ทันทีที่ประตูเปิดออก นิวเยียร์ก็เกิดอาการร้อนที่ใบหน้า หัวใจดวงน้อยเต้นแรงตึกตักราวกับกำลังตื่นเต้น เมื่อเจ้าของห้องสุดหล่อที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะได้กลิ่นหอมของสบู่อ่อน ๆ โชยเข้าจมูก แถมเขายังสวมใส่แค่กางเกงวอร์มสีดำ เผยช่วงบนให้ได้เห็นหน้าอกขาว ๆ หน้าท้องมีซิกซ์แพ็กเป็นลอนงาม คล้ายกับในความฝันของเธอไม่มีผิด
นิวเยียร์ยืนนิ่งจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ลอบกลืนน้ำลายลงคอราวกับเห็นของกินแสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า
“หัวนมชมพู” เธอเผลอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ยกยิ้มที่ริมฝีปากมาอย่างลืมตัว
“น้องนิวเยียร์ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อเพื่อเรียกสติ
เธอเอาแต่ยืนจ้องตุ่มไตสองเม็ดที่หน้าอก ดวงตาหวานเยิ้ม ทำเอาคนถูกมองเริ่มจะทำตัวไม่ถูกจนต้องเอาผ้าที่เช็ดผมมาบังแผงอกแทน
“คะ” นิวเยียร์ขานรับกระพริบตาถี่ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความขัดเขิน เมื่อกี้เธอเผลอมองจนเพลินเลย
“นั่งรอก่อนนะครับ พี่ขอไปแต่งตัวก่อน”
เพราะไม่อยากให้เธอยืนรอที่หน้าห้องนาน เขาเลยมาเปิดประตูให้ก่อนทั้งที่ยังไม่ได้แต่งตัวให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่คิดว่าหญิงสาวจะยืนมองจนเขานั้นแทบหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก เมื่อบอกกับเธอแล้วก็รีบก้าวเท้าเดินเข้าห้องทันที
“นึกว่าพี่จะแต่งตัวแบบนี้มากินข้าวกับหนูซะอีก คิก ๆ” นิวเยียร์รีบเอ่ยแซวตามหลัง
ถ้าเขาใส่แค่กางเกงมานั่งกินข้าวด้วยกันได้ก็คงดี อาหารมื้อนี้คงอร่อยขึ้นเป็นพิเศษ เธอเผลอคิดอะไรทะเล้นแล้วหลุดหัวเราะชอบใจออกมา
หลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จทั้งสองก็ออกจากคอนโดไปทำงานพร้อมกัน โดยสลับรถกันใช้คนละวันตามที่นิวเยียร์เสนอความเห็น
งานที่ทำในแต่ละวันก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็จะได้จัดเตรียมเอกสาร พิมพ์งาน และคอยติดต่อประสานงานกับแผนกอื่นบ้างแต่ก็น้อยครั้ง ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการประชุมหรือติดต่อกับลูกค้า เพิร์ธจะเป็นคนจัดการทั้งหมด
เขาเป็นคนที่ทำงานเก่งมาก ยิ่งได้มาเห็นเขาทำงานก็ยิ่งมีเสน่ห์
‘คนอะไรยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ’
“น้องนิวเยียร์ครับ ส่งแฟ้มเอกสารนั้นมาให้พี่หน่อย”
เพิร์ธชี้ไปยังแฟ้มที่วางอยู่ตรงพื้นที่ว่างบนโต๊ะด้านซ้ายมือของเธอ แต่ดูเหมือนว่าคนที่พูดด้วยจะไม่ได้ยิน
“น้องนิวเยียร์ครับ”
“คะ ว่าอะไรนะคะ”
เธอเผลอมองเขาจนไม่เป็นอันทำอะไรอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าจะอู้งานหรอกนะ แต่งานที่เธอได้รับมอบหมายทำเสร็จหมดแล้วต่างหาก
“พี่ขอแฟ้มสีแดงหน่อยครับ”
“อ๋อ นี่ค่ะ” นิวเยียร์มองหาแฟ้มที่ว่าแล้วรีบส่งให้กับเลขาหนุ่ม
เวลาที่ทั้งสองนั่งทำงานด้วยกัน เพิร์ธจะเรียกว่าน้องเหมือนเดิมแล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานยังคงให้เกียรติเรียกว่าคุณอยู่ แต่เธอก็เข้าใจได้ เขาเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์และมารยาทในสถานที่ทำงาน
ช่วงพักเที่ยงเพิร์ธและนิวเยียร์ก็ลงลิฟต์ไปพร้อมกัน เพราะทั้งสองคนมักจะออกไปกินข้าวด้วยกันข้างนอก อันที่จริงก็เป็นเพราะเธออ้อนขอไปด้วย และเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“หนูขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ” พอลงไปถึงชั้นล่างเธอก็เอ่ยขึ้น
“ครับ”
นิวเยียร์แยกตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะอยากจะทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนจะไปร้านอาหาร เวลานั่งกินข้าวจะได้ไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยให้เขานั่งเฝ้าโต๊ะคนเดียว
“กำลังจะไปกินข้าวเหรอคะพี่นิวเยียร์”
ระหว่างที่เธอทำธุระในห้องน้ำเสร็จและกำลังล้างมืออยู่ นักศึกษาฝึกงานในแผนกประชาสัมพันธ์ที่มายืนล้างมือเหมือนกันก็ได้ทักเธอขึ้น
“จ้ะ”
“ฝ้ายเห็นว่าพี่สนิทกับคุณพิรัชย์ เคยรู้จักกันมาก่อนเหรอคะ”
สาวรุ่นน้องเข้ามาฝึกงานที่นี่ไล่เลี่ยกับนิวเยียร์แค่ไม่กี่วัน แต่ฝ้ายก็รู้สึกว่าสองคนนี้ดูจะสนิทกันเร็วมากราวกับรู้จักกันมาก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะเป็นแฟนกัน เพราะเห็นออกไปกินข้าวตอนพักเที่ยงด้วยกันทุกวัน
“น้องฝ้ายถามทำไมเหรอจ๊ะ” นิวเยียร์ชักจะสงสัยกับคำถามของเด็กฝึกงานคนนี้
“พี่นิวเยียร์ตอบมาก่อนสิคะ แล้วแป้งจะบอก” สาวรุ่นน้องระบายยิ้มเขิน บิดตัวไปมาจนเธอชักจะหมั่นไส้ ถ้าให้เดาคงจะชอบผู้ชายคนเดียวกับเธอแน่ ๆ
“ใช่จ้ะ เรารู้จักกัน”
“งั้นหนูขอรบกวนพี่นิวเยียร์สักอย่างได้ไหมคะ”
“อะไรเหรอ”
“ขอเบอร์คุณพิรัชย์ให้หน่อยได้ไหมคะ ฝ้ายชอบคุณพิรัชย์ค่ะ”
ฝ้ายยื่นมือมาจับมือของนิวเยียร์เพื่อขอร้อง เธอชอบหนุ่มหล่อมาดนิ่งขรึมคนนี้มากจริง ๆ เห็นแค่แวบแรกก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที ยิ่งได้รู้จากคนในบริษัทว่าเขายังไม่มีแฟน เธอก็ยิ่งสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะให้ไปขอเองเธอก็ไม่กล้า จึงได้ฝากความหวังไว้ที่สาวรุ่นพี่
“คงไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะเขากำลังจะมีแฟน” นิวเยียร์รีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม คิดจะจีบคนของเธออย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ
“อ้าว ก็ไหนคนในบริษัทพูดกันว่าคุณพิรัชย์ยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอคะ เสียดายจัง”
“ไม่ต้องเสียดายผู้ชายที่ยังไม่ได้เป็นของเราหรอกจ้ะ หาเอาใหม่นะ คนนี้มีเจ้าของแล้ว”
นิวเยียร์คลี่ยิ้มเล็กน้อยเอ่ยกับสาวรุ่นน้อง พลางยกมือขึ้นตบที่หัวไหล่ของเธอเบา ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ
“แฟนเขาก็อยู่ตรงหน้าเธอนี่แล้วไง เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันออกจะบ่อย คิดได้ไงว่าเขายังไม่มีเจ้าของ วันนี้ยังไม่ใช่ก็จริง แต่อนาคตอันใกล้ ฉันได้เป็นเจ้าของหัวใจเขาแน่”
นิวเยียร์บ่นพึมพำไปตลอดทางจนถึงรถของหนุ่มเลขาที่ติดเครื่องเปิดแอร์นั่งรออยู่ในรถ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” เห็นเธอขึ้นรถมาก็นั่งทำหน้าง้ำงอ ไม่รู้ว่าไปโมโหเรื่องอะไรมา
“มีคนขอเบอร์พี่ค่ะ พี่จะให้รึเปล่า” นิวเยียร์แสร้งถามออกไปแม้ในใจจะรู้สึกหงุดหงิด
“ใครครับ”
“น้องฝ้าย คนสวย ๆ ที่ฝึกงานแผนกประชาสัมพันธ์ยังไงล่ะคะ”
“ให้หรือไม่ให้ดี”
“พี่พิรัชย์” นิวเยียร์หันมาเรียกชื่อของเขาเสียงเข้ม ก่อนจะลดน้ำเสียงลง แต่คิ้วบางก็ยังไม่คลายปมที่เผลอขมวดอย่างลืมตัวออกจากกัน
“ถ้าอยากให้ก็เอาไปให้เองละกันนะคะ เราไปกันเถอะค่ะ หนูหิวข้าวแล้ว” เอ่ยจบเธอก็เบือนหน้าหนีมองไปด้านข้างกระจกแทน
ตอนนี้คงต้องบอกว่าโมโหหิว เพราะเมื่อกี้ยังไม่ค่อยหิวเท่าไร แต่ตอนนี้แม้แต่ช้างทั้งตัวก็คงจะเขมือบลงท้องได้ แล้วเขามองไม่ออกหรืออย่างไรว่าเธอไม่พอใจที่เด็กสาวคนนั้นมาขอเบอร์ ยังมาพูดราวกับถามความเห็นอีกว่าจะให้หรือไม่ให้ดี
เพิร์ธกระตุกยิ้มชอบใจหญิงสาวที่ไม่รู้ไปโมโหอะไรมา มีคนมาขอเบอร์เขาก็จริง แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้เสียหน่อย ทำไมต้องทำเหมือนไม่ค่อยพอใจ และมันก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้ออกไป
“ไม่อยากให้พี่ให้เบอร์ไปเหรอครับ”
“ถามทำไมคะ ถ้าพี่อยากให้ก็ให้ไปสิ หนูจะออกความเห็นอะไรได้” เธอตอบเขาทั้งที่ไม่ยอมหันมามองกัน
“ถ้าไม่อยาก พี่ก็จะไม่ให้”
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องถามความเห็นเธอ แต่ถ้าให้เดา คิดว่าเธอกำลังไม่พอใจเรื่องนี้อยู่
“ไม่อยากค่ะ”
นิวเยียร์หันขวับมองไปยังคนที่ขับรถอยู่ แล้วก็เผลอหลุดความต้องการที่แท้จริงออกมา ก่อนจะชะงักลมหายใจที่เผลอพูดอะไรบางอย่างออกไปแล้ว แล้วหลุบตามองต่ำไม่กล้าสบตา
“พี่ไม่คิดจะให้เบอร์ใครอยู่แล้วครับ”
ก็อย่างที่เคยบอกว่าเขายังไม่ได้คิดที่จะมีใครในชีวิต และที่ผ่านมาก็ไม่ใช่มีแค่นักศึกษาฝึกงานรายนี้ที่มาขอเบอร์ แต่ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาก็โดนเขาปฏิเสธทั้งหมด เพราะไม่อยากให้ความหวังใคร
“แล้วถ้าหนูขอล่ะคะ พี่จะให้รึเปล่า”