โง่เอง
เมษา....
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองฉันฝันอยู่หรือเปล่าเพราะตอนนี้ฉันกับคุณพีเจคบกันได้หลายเดือนแล้วมันเหมือนความฝันมากกว่าความจริง อยากจะบอกว่าตั้งแต่คบกันคุณพีเจไม่เคยล่วงเกินฉันเลยนอกจากจับมือกันบ้างกอดกันหอมแก้มกันบ้างเป็นบางครั้งเขาบอกว่าเขาให้เกรียติฉันไม่อยากทำให้ฉันเสียหายเพราะแบบนี้ฉันถึงยอมมอบใจให้กับเขา ฉันยอมรับว่าฉันรักคุณพีเจรักอย่างที่ไม่เคยรักใครหรือรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน เขาดีกับฉันมากมากจนทำให้ฉันลืมว่าตัวเองเป็นใครเขาเป็นใครและมากจนทำให้ฉันลืมคุณพีเจคนเดิมที่เคยปากร้ายนิสัยไม่ดีคนนั้น ส่วนคุณไทด์หลังจากที่กลับมาจากฮ่องกงและรู้ว่าฉันกับคุณพีเจกำลังคบกันเขาก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนคุณไทด์คนเดิมที่ฉันรู้จัก เขาคอยเอาแต่หลบหน้าฉันตลอดจนทำให้ฉันรู้สึกผิดเพราะก่อนที่เขาจะไปฮ่องกงเขาบอกว่าเขาชอบฉัน
"เมษา"
"คะคุณไทด์"
"เธอแน่ใจแล้วเหรอที่คบกับพีเจ"
"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมคุณไทด์ถึงถามแบบนี้"
"ฉันแค่กลัว"
"กลัวอะไรคะ"
"กลัวว่าพีเจมันจะไม่จริงใจกับเธอ กลัวมันจะทำกับเธอเหมือนที่เคยทำกับกานดา"
"........." ฉันรู้ว่าคุณไทด์หวังดีกับฉัน
"มึงไม่ต้องห่วงแฟนกูหรอกไอ้ไทด์"
"คุณพีเจ"
"พีเจ"
"กูน่ะจริงใจกับเมษาและอีกไม่นานเราสองคนก็จะแต่งงานกัน"
"แต่งงาน??" อย่าว่าแต่คุณไทด์ตกใจเลยค่ะฉันเองก็ตกใจเหมือนกันเพราะเรื่องนี้เขาไม่เคยบอกกับฉันเลย
"ใช่ เรื่องนี้กูคุยกับย่าแล้วและท่านก็อนุญาตแล้วด้วย"
"คุณพีเจทำไมเมไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
"ฉันกะจะเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงานแต่ดันมีคนมีแอบตีท้ายครัวมาทำให้เธอระแวงในตัวของฉันฉันก็เลยต้องรีบบอก" คุณพีเจพูดพร้อมกับเอามือมาโอบเอวฉันเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของต่อหน้าคุณไทด์
"ถ้านายจริงใจกับเมษาก็ดีเพราะเธอเป็นคนดีมาก ฉันหวังว่านายจะไม่ทำให้เมษาเสียใจเพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงอยู่เฉยไม่ได้เพราะนายก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเมษา เมษาเธอรู้ใช่ไหมว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ"
"คุณไทด์คะ" ฉันมองเข้าไปในแววตาของคุณไทด์มันบอกได้ว่าเขารู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
"นี่มึงกำลังบอกรักแฟนกูเหอรวะไอ้ไทด์"
"ก็แล้วแต่นายจะคิดพีเจ ที่ฉันพูดฉันแค่เตือนนายให้รู้ว่าฉันจะไม่ยอมนายเหมือนที่เคยยอมเรื่องกานดา"
"มึงขู่กูเหรอไอ้ลูกเมียน้อย"
"ฉันไม่เคยขู่นายฉันพูดเรื่องจริง ถ้าวันไหนนายทำให้เมษาเสียใจวันนั้นฉันจะมาขอเมษาคืนจากนาย"
และแล้ววันแต่งงานของฉันกับคุณพีเจก็มาถึง งานแต่งงานของเราเป็นงานเล็กๆที่จัดขึ้นภายในครอบครัวเท่านั้นไม่มีแขกคนอื่นมาเลยแม้แต่คนเดียวซึ่งตอนแรกคุณยายท่านไม่พอใจที่คุณพีเจงานจัดเล็กๆแบบนี้ท่านอยากให้จัดที่โรงแรมมากกว่าแล้วเชิญแขกมาแสดงความยินดีแต่คุณพีเจให้เหตุผลว่าตอนนี้คุณยายร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเขาก็เลยไม่อยากจัดงานใหญ่โตเพราะเกรงว่าคุณยายจะต้องมาเหนื่อยซึ่งฉันก็เห็นด้วย เพราะฉันคิดว่าแค่เขาให้เกียรติฉันแต่งงานกับฉันแค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว ซึ่งการแต่งงานก็มีข้อแม้อยู่ว่าฉันต้องไปอยู่กับเขาที่คอนโด เขาก็ให้เหตุผลกับทุกคนว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับฉันตามลำพังสองคนบ้างเพราะที่ผ่านมาเราแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเลยซึ่งคุณยายก็เห็นด้วยในข้อนี้
"ย่าขอให้เราสองคนมีความสุขมากๆนะลูก"
"ขอบคุณค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
"แล้วก็มีหลานตัวน้อยๆให้ย่าได้อุ้มเร็วๆนะลูก" คำขอข้อนี้ทำเอาฉันถึงกับพูดไม่ออกทำได้เพียงก้มหน้าหลบสายตา
"คงอีกนานครับย่าผมเพิ่งแต่งงานผมก็อยากมีเวลาอยู่กับเมียให้นานๆ"
"แต่ก็อยา่านานจนย่าล้มหายตายจากไปจากโลกนี้ซะก่อนล่ะ"
"คุณยายคะอย่าพูดแบบนี้สิคะคุณยายยังแข็งแรงอยู่เลย"
"อย่ามาพูดปลอบใจย่าเลย ย่ารู้ดีว่าตัวเองเป็นยังไงจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหม เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้วเศร้าเปล่าๆ ไทด์มาอวยพรให้น้องหน่อยสิลูก" คุณยายหันไปหาคุณไทด์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง พอฉันเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นรอยยิ้มของคุณไทด์ที่ส่งมาให้ มันเป็นรอยยิ้มแสดงความยินดีแม้แววตาของเขาจะดูเศร้าเล็กน้อยก็ตาม
"พี่ขอให้เมมีความสุขมากๆนะครับ ตอนนี้เมคือน้องสาวที่พี่รักมากคนนึง พี่หวังว่าเมจะมีความสุขกับสิ่งที่เมเลือกและพี่ก็หวังว่าเมจะเลือกคนไม่ผิด" คุณไทด์พูดประโยคนี้เหมือนจงก่อนจะเบนสายตามองไปยังคุณพีเจที่นั่งอยู่ข้างๆและเป็นครั้งแรกที่คุณไทด์แทนตัวเองว่าพี่มันทำให้ฉันน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจที่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังห่วงใยฉันอยู่เสมอ
"ส่วนนายพีเจฉันหวังว่านายจะรักและดูแลเมษาทำให้เธอมีแต่ความสุขมีแต่รอยยิ้มเพราะเธอรักนายมากรักมากจนลืมคิดถึงความเป็นจริง"
"ไทด์เราพูดอะไรย่าไม่เข้าใจ"
"ไม่มีอะไรครับย่าผมแค่อยากขอคำสัญญาจากน้องชายของผมเท่านั้นเอง อ่อแล้วรีบมีหลานให้พี่ได้อุ้มเร็วๆนะ"
หลังจากได้คำอวยพรจากทุดคนเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณพีเจก็พาฉันมาคอนโดซึ่งเราจะใช้เป็นเรือนหอ แต่ระหว่างทางเหมือนฉันจะรู้สึกถึงความผิดปกติของคนข้างๆ คือตั้งแต่ขึ้นรถมาเขาไม่พูดไม่จาอะไรกับฉันเลยเหมือนเขาจะไม่พอใจหรือกำลังโกรธอะไรใครอยู่แต่ฉันก็ไม่อยากถาม
พอมาถึงที่ตอนโดเขาก็เดินไปที่เคาท์เตอร์บาร์แล้วเทเหล้าดื่มโดยไม่สนใจอะไรเลย สีหน้าของเขาตอนนี้ดูน่ากลัวจนฉันไม่กล้าจะเดินเข้าไปทัก ฉันก็เลยตัดสินใจเดินเข้ามาในห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และพอฉันเดินออกมาก็ยังเห็นเขานั่งดื่มเหล้าคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ ฉันจึงเดินเข้าไปหาและพอเขาเห็นว่าฉันเดินมาเขาก็ทำการเปิดลำโพงและสิ่งที่ฉันได้ยินก็ทำเอาฉันถึงกับก้าวขาไม่ออกยืนนิ่งอยู่กับที่
"มีมี่ดีใจจังที่คุณโทรหามีมี่" เสียงผู้หญิง??
"มีมี่ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน" เขาพูดกับคนในสายโดยที่สายตาของเขาจ้องมาที่ฉัน
"มีมี่อยู่ที่ห้องค่ะ ทำไมเหรอคะพีเจคิดถึงมีมี่เหรอ"
"อืมใช่เธอมาหาฉันที่ห้องตอนนี้และเดี๋ยวนี้ อ่อลืมบอกไปว่าคืนนี้ฉันจะให้เธอค้างคืน"
"กรี๊ดดดด จริงเหรอคะ มีมี่นอนค้างที่ห้องพีเจได้จริงๆเหรอคะ"
"อืม อ่อแล้วแวะซื้อถุงยางอนามัยมาด้วยนะ ที่ห้องหมด"
"ได้ค่ะ มีมี่จะรีบขับรถไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงเจอกันนะคะพีเจ"
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยินทั้งหมดฉันพยายามคิดในแง่บวกคิดว่าเขาอาจจะแค่คุยกับเพื่อนแม้ว่าสิ่งที่ได้ยินมันทำให้คิดแบบนั้นไม่ได้เลยก็ตาม และพอเขากดวางสายเขาก็ลุกขึ้นยืนมาแล้วเดินมาหาฉัน แววตาของเขาตอนนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนแววตาของผู้ชายอ่อนโยนที่ฉันคุ้นเคยมาตลอดเวลาหลายเดือน
"เมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับใครเหรอคะเพื่อนเหรอ" ฉันพยายามถามเขาด้วยน้ำเสียงปกติพยายามไม่ให้มันสั่นแม้ว่าใจของฉันตอนนี้มันสั่นไปหมดแล้วก็ตาม แต่สายตาของเขามันทำให้ฉันเริ่มกลัว คำพูดของคุณไทด์ที่เคยเตือนฉันมันกำลังแล่นเข้ามาในหัว แต่ฉันก็หวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่คิด
"ก็ได้ยินหมดแล้วนี่จะมาถามเพื่อ"
"คุณนัดผู้หญิงมาที่ห้องเหรอคะ"
"อืมใช่"
"คุณพีเจ ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้วนะคะคุณทำไมถึงทำแบบนี้"
"แต่งงานแล้วไง ก็แค่การแต่งงานปลอมๆ"
"การแต่งงานปลอมๆ หมายความว่าไงคะ"
"ก็หมายความว่าการแต่งงานครั้งนี้มันก็แค่ฉากๆนึงที่ฉันสร้างมันขึ้นมาน่ะสิ"
"เมไม่เข้าใจว่าคุณทำแบบนี้ทำไม" ฉันรู้ว่าทำไมแต่ฉันก็หวังว่ามันจะไม่ใช่
"อย่าทำเป็นโง่ ตอนนี้เธอกำลังคิดถึงคำพูดของไอไทด์อยู่ใช่ไหม หึ"
"แปลว่าคุณหลอกเมให้แต่งงานด้วยเพื่อแก้แค้นคุณไทด์เหรอคะ"
"เพิ่งจะมาฉลาด"
"คุณหลอกให้เมรัก คุณหลอกให้เมแต่งงานกับคุณเพียงเพราะคุณต้องการแก้แค้นคุณไทด์เพราะคุณรู้ว่าคุณไทด์คิดยังไงกับเมนั่นคือเหตุผลของคุณใช่ไหม"
"ใช่ เหตุผลมีแค่นั้น" เขาพูดอย่างไม่แคร์เลยสักนิด ทั้งน้ำเสียงทั้งสายตาที่เขามองมามันทำให้ฉันเจ็บ เจ็บจนพูดอะไรไม่ถูก
"คุณทำไมใจร้ายแบบนี้ คุณเล่นกับความรู้สึกของเมแบบนี้ได้ยังไง ฮึก ฮึก เมรักคุณด้วยใจจริง แต่สิ่งที่เมได้ตอบแทนคือการหลอกลวงงั้นเหรอคะ"
"ก็มึงมันโง่ไง ในสายของกูมึงมันก็แค่ขยะที่กูไม่มีวันเห็นค่า มึงคิดว่าที่กูแต่งงานกับมึงเพราะกูรักมึงจริงๆงั้นเหรอห๊ะ"
ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าคนตรงหน้าที่พูดจาร้ายกาจกับฉันคือคนที่ได้ชื่อวาาเป็นเจ้าบ่าวของฉัน
"มันไม่จริงใช่ไหมคะ คุณแค่กำลังเมาก็เลยพูดแบบนั้น คุณแกล้งเมเล่นใช่มั้ย ฮึก ฮึก จริงๆแล้วคุณรักเมใช่มั้ยคะ" ฉันไม่รู้ว่าพูดแบบนั้นออกไปทำไมแต่ฉันก็หวังว่าเขาจะพูดว่า ใช่ฉันแค่ล้อเธอเล่นฉันน่ะรักเธอจริงๆ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันกำลังหวังอะไรอยู่
"ที่กูพูดกูพูดเรื่องจริงกูไม่ได้รักมึงกูไม่เคยรู้สึกอะไรกับมึงเลยแม้แต่นิดเดียวออกจะขยะแขยงด้วยซ้ำเวลาอยู่ใกล้มึง ที่กูยอมแต่งงานกับมึงกูก็แค่อยากแย่งมึงมาจากไอ้ไทด์ก็เท่านั้นเองเพราะกูรู้ว่าไอ้ไทด์มันรักมึง"
"ฮึก ฮึก ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ที่ผ่านมาคุณไม่ได้รักเมเลยเหรอคะ"
"รักงั้นเหรอ คนอย่างกูเนี้ยนะจะรักผู้หญิงที่โตมาจากกองขยะอย่างมึงได้ลง ตัวมึงแม่งโคตรสปกรก ไม่รู้ว่ามีเชื้อโรคติดตัวมาบ้างหรือเปล่าวันๆเอาแต่คุ้ยถังขยะเก็บขยะ แม่งแค่คิดกูก็จะอ้วก มึงรู้อะไรมั้ยว่าแต่ละครั้งที่กูแตะต้องตัวมึงกูรังเกียจมึงมากแค่ไหน"
"คุณพี อืออออ ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้"
"กูก็เป็นของกูแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แค่กูแสดงให้มึงเห็นก็เท่านั้นแล้วมึงก็เสือกเชื่อ มึงโง่เองช่วยไม่ได้"
"ค่ะเมโง่เอง เมมันโง่เอง ฮือออ"
"ในเมื่อรู้ความจริงแล้ว คืนนี้มึงจะไปนอนที่ไหนมึงก็ไปแต่อย่ามานอนห้องกู กูรังเกียจ!!!"
ผลัก!!!! ตุ่บ!!!!!
"โอ๊ย!!!"