ไม่ยอม
ไม่ยอมรับ
สายตาคมจ้องมองไปยังหลุมศพของพี่ชายซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยดอกกุหลาบขาวปกคลุมอยู่โดยรอบดอกกุหลาบขาวที่เขาเป็นคนหอบขึ้นรถเมื่อคืนนี้....ร่างสูงค่อยๆนั่งลงชันเข่าต่อหน้าป้ายหลุมศพ มือหนาเอื้อมไปดึงดอกกุหลาบที่ปักแซมไว้บนพื้นดินออก...ทีละดอก...ทีละดอก....
“ พี่พงศ์...ช่วยเอาไปทิ้งทีครับ “ หมอกเอ่ยกับลูกชายของเลขาคนสนิทของพ่อของเขา พงศ์เปรียบเสมือนพี่ชายอีกคนที่เติบโตมาพร้อมกับเขาและพี่ชาย หลังจากสูญเสียพี่ชายไปพงศ์ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เขาสามารถปรับทุกข์ได้
“ แต่ผมว่า...เอ่อ... “
“ ดอกไม้พวกนี้เป็นของผู้หญิงคนนั้น ผมไม่อยากเห็นมันอีก “ เขาพูดขณะที่มือก็ยังคงดึงดอกกุหลาบออกทีละดอก...ทีละดอก
“ ครับ “ แม้จะคิดเสียดายความงามของดอกไม้ แต่พงศ์ก็มิอาจขัดคำสั่งลูกของเจ้านายคนนี้ได้
ดูภายนอกหมอกเป็นเด็กหนุ่มที่อัธยาศัยดี เข้ากับคนได้ง่าย ไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และหากใครมีปัญหาเดือดร้อนเขาคนนี้ก็พร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาไม่เคยยอม...ไม่เคยยอมรับ..นั่นคือเรื่องการตายของพี่ชาย
หมอกเชื่อว่าคนรักของพี่ชายมีส่วนรู้เห็นกับการตายของพี่ชายเขา เธอเป็นคนหยิบยื่นความตายนั่น ไม่อย่างนั้นพี่ชายที่แสนดีของเขา....ก็คงจะยังมีชีวิตอยู่
หลังจากออกจากสุสานฝังศพของพี่ชายในช่วงบ่ายคล้อย ชายหนุ่มก็กลับเข้าบริษัทอีกครั้ง กองเอกสารมากมายถูกเตรียมไว้รอเขาอยู่แล้ว มือหนาหยิบแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะออกมาเปิดอ่านทีละเล่ม สายตาคมเลื่อนไปมองนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ลมหายใหญ่เฮือกใหญ่ถูกปล่อยออกมา เขากำลังคิดไม่ตก ...อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะเป็นเวลาที่พวกเขาเหล่าเพื่อนทั้งหลายนัดหมายกันเป็นครั้งแรกหลังจากที่กลับจากเที่ยวทะเลคราวนั้น
วันนี้เขาและเพื่อนตั้งใจจัดงานเลี้ยงฉลองให้ลดากับปลาวาฬที่พึ่งผ่านอุปสรรคความรักกันมา วันก่อนพ่อของลดายอมให้ปลาวาฬเพื่อนของเขาเข้าบ้านได้ คืนนั้นเมื่อรู้ข่าวเขาและเพื่อนในกลุ่มต่างดีใจและโล่งอกเป็นอย่างมากเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับการที่เพื่อนของเขาสองคนไม่รักกัน ลดาและปลาวาฬรักกันดีมากแต่เพราะปัญหาของผู้ใหญ่ทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน
“ เฮ้ยยยย.. “ ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอีกครั้งพร้อมกับเอนหลังกระแทกไปยังพนักพิงด้านหลังของเก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่
“ เอาไงดีวะ...ทำไม...ทำไม..ทำไมเธอต้องเป็นน้องสาวของผู้หญิงคนนั้นด้วย...ทำไม “ ชายหนุ่มพูดออกไปพร้อมกับทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ
21.30 น.
“ ยัยดา..แกอยู่ไหนแล้ว “ เสียงหวานเอ่ยกับคนปลายสาย วันนี้เธอและกลุ่มเพื่อนนัดเลี้ยงฉลองกันที่ผับดังแห่งหนึ่ง ปกติเธอจะเป็นคนตรงต่อเวลาซึ่งวันนี้ก็เช่นกันพวกเขานัดกันในเวลาสามทุ่มครึ่ง น้ำหวานก็มาถึงเวลาที่นัดกันไว้ตรงเป๊ะพอดี
“ โอเคๆ แกรีบมาชั้นไม่อยากอยู่กับนายหมอกนั่นสองต่อสองนานๆ “ พูดจบหญิงสาวก็กดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วหย่อนลงกระเป๋าใบขนาดพอเหมาะ
แอดดดด.... ประตูบานหนาถูกเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงก็เดินเข้ามา
“ ตายยากจริงๆ “ น้ำหวานเอ่ยเบาๆกับตัวเอง เธออุตส่าห์มาถึงก่อนเป็นคนแรกและพอนั่งได้ไม่นานคนที่เปิดประตูตามเข้าก็เป็นเขาคนนี้
“ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ คิดถึงชั้นเหรอ “
“ บ้า..ใครจะคิดถึงนายกัน “
“ ไม่ต้องเขินหรอก...ชั้นบอกแล้วไงว่าไปห้องน้ำแป็บเดียว แค่นี้ก็งอนด้วย “
“ หน้ามึนนะนายนี่ ชั้นยังไม่ได้บอกเลยว่าคิดถึงนาย “
“ ก็เนี้ยหน้าเธอมันฟ้อง แค่ไม่ได้ไปรับวันเดียวถึงกับงอนเลย “ ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มทำท่ารู้ทันความคิดของเธอ
“ เฮอะ...หลงตัวเองชะมัด “ แม้จะทำท่าทีว่าไม่สนใจในคำพูดของเขา แต่ใครจะรู้ว่าภายในใจของเธอตอนนี้กำลังเต้นรัวอย่างแรง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอไม่อยากอยู่กับเขาเพียงลำพัง เธอกลัวว่าหัวใจไม่รักดีมันจะเทไปให้เขาทั้งหมดนี่สิ
แอดดด...ประตูถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้เป็นนิวกับชมพูที่เดินเข้ามาสมทบเป็นกลุ่มที่สอง
“ ฝนจะตก ฟ้าจะถล่มเหรอวะ วันนี้มึงมาเป็นคนแรก “ เสียงนิวเอ่ย
“ ทำไม ปกติเวลาไปเรียนกูก็ไปเป็นคนแรก “
“ แต่ไม่ใช่ตอนมาเที่ยวผับแบบนี้โว้ยย..ปกติมาเที่ยวกันทีไร มึงต้องแวะโต๊ะอื่นก่อนนี่ “
“ ไอ้นี่... “ หมอกไม่ปฏิเสธกับคำพูดของเพื่อน เขาเอื้อมมือไปหยิบเมนูที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้ชมพู
“ ทำไมไม่สั่งเลยล่ะ รอชั้นทำไม ให้น้ำหวานสั่งก็ได้ “ ชมพูว่า
“ ก็ปกติแกเป็นคนสั่ง “ หมอกตอบกลับ
“ เออ..กูลืมบอก เมื่อกี้เดินผ่านโต๊ะน้องชะเอมเค้าถามหามึงด้วยว่ะ “
“ เหรอ...ไม่เจอนานแล้ว...คิดถึง กูลงไปหาน้องเค้าสักหน่อยดีกว่า “ พูดจบร่างสูงที่นั่งอยู่ในตอนแรกก็ลุกขึ้นแล้วเดินเปิดประตูออกไป
“ ไอ้นี่...เสือผู้หญิงชัดๆ “ นิวเอ่ยพร้อมกับส่ายหน้า
“ แหม...ว่าคนอื่นเค้า....แต่ก่อนตัวเองก็ใช่ย่อยนี่ “ เสียงชมพูเอ่ยต่อว่าแฟนหนุ่ม
ภาพของคู่รักสองคนที่กำลังหยอกล้อกันและกันอยู่ตอนนี้ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆรู้สึกอึดอัด แม้จะรู้จักกันมาบ้างแล้วแต่ก็ใช่ว่าน้ำหวานจะสนิมสนมคุ้นเคยกับนิวและชมพูถึงขั้นพูดแซวกันไปมาได้ อีกทั้งคนที่พึ่งเดินออกจากห้องไปก็ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
“ ไหนว่าชอบเธอไหนว่ากำลังจีบเธอ นี่ซินะเค้าเรียกผู้ชายเจ้าชู้ ดีนะที่เธอยังไม่ได้ปันใจให้เขาไป “
00.30 น.
“ วู้ววว....ยัยดา...มาเร็ว มาเต้นเป็นเพื่อนชั้นหน่อยยยย “ ร่างบางที่กำลังเต้นส่ายสะโพกอยู่โบกมือมาทางเพื่อนสาวที่ถูกชายหนุ่มอีกคนนั่งโอบไหล่อยู่
“ ปล่อยนางไปเถอะ...พึ่งได้อยู่ด้วยกัน “ เสียงของชายร่างบางอย่างเอมี่เอ่ยท้วงขึ้น
วันนี้มันเป็นวันปลดปล่อยของพวกเขาเสียจริงๆ เพราะแม้กระทั่งพิชชาเองก็ยังลุกขึ้นมาเต้นกับเพื่อนๆเลย แม้วันนี้จะมีเหล่านักท่องราตรีมาใช้บริการที่ผับแห่งนี้เป็นจำนวนมากเพียงใด แต่กลุ่มเพื่อนที่มากันวันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะพวกเขาไม่ได้ไปเบียดเสียดกับผู้คนเหล่านั้น วันนี้พิชชาจองห้องวีไอพีขนาดใหญ่ไว้รอเพื่อนๆเพราะเธอเองเป็นหลานรหัสของเจ้าของผับแห่งนี้ หากจะมาเที่ยวเมื่อไหร่ ขอแค่เธอบอกเขา ปู่รหัสของเธอไม่เคยปฏิเสธความช่วยเหลือเลย
“ ไม่เคยเห็นน้ำหวานในลุคนี้เลยนะนี่ “ กวินที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องเอ่ยขึ้น
“ เวลามาเที่ยวยัยหวานจะรั่วแบบนี้แหละ “ ลดาเอ่ยพร้อมกันหันไปทางเพื่อนสาว
“ แล้วเวลาเมาใครเป็นคนพากลับ “ ปลาวาฬเอ่ยถามคนรักสาวที่เขานั่งโอบอยู่
“ ปกติจะเป็นยัยเตย ยัยเตยน่ะดื่มไม่เก่ง แค่แก้วเดียวนางก็มึนแล้ว “
“ แต่วันนี้ท่าทางใบเตยจะไม่ไหวนะ “ กวินว่า
“ อึ้ม..สงสัยคงงั้นแหละ ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราไปส่งยัยหวานกับยัยเตยแล้วกันนะวาฬ “
“ อึ้ม “ เสียงทุ้มเอ่ยกับคนรักสาว
“ วันนี้มึงเงียบผิดปกตินะไอ้หมอก “ กวินหันมาเอ่ยถามเพื่อนเอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“ ผิดปกติอะไร กูก็เป็นอย่างงี้อยู่แล้วมั้ยวะ “
“ วันนี้มึงไม่ลงไปหาสาวเหรอ ปกติไม่พลาดนี่ “
“ ลงไปแล้ว แต่วันนี้รู้สึกเบื่อๆ นั่งกับพวกมึงดีกว่า “
“ อยากนั่งกับพวกกู รึจะอยู่เฝ้าใครกันแน่วะ “ กวินเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันเพื่อน
“ อย่างกู...จะเฝ้าใคร “
“ มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ ว่าสองสามอาทิตย์มานี่มึงไปเฝ้าใครหลังเลิกงาน “
“ กูไปหาไอ้นิวดีกว่า “ ชายหนุ่มที่กำลังจะถูกเพื่อนซักฟอกต้องรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่กำลังเต้นอยู่อีกฟากฝั่งของห้อง