น่ารักดี...จีบได้มั้ย ?

น่ารักดี จีบได้มั้ย

" นี่เธอ..กอดแฟนคนอื่นเค้าแบบนี้ ระวังจะโดยต่อยเอานะ นู่น !! .. ไอ้วาฬมันจ้องอยู่นู่น " ฉันหันกลับหลังทันทีเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น นายนี่จะกวนประสาทชั้นไปถึงไหน ตั้งแต่เมื่อวานที่ไปหาชั้นที่บ้านพักริมทะเลของชัชล่ะ เมื่อคืนก็คอยก่อกวนชั้นไม่เลิก หาว่าชั้นอกหักบ้างละ มานั่งข้างๆเพราะกลัวว่าชั้นจะวิ่งลงทะเลบ้างล่ะ ...ชั้นละอยากจะบ้าตาย

" นายจะบ้าเหรอ นี่เพื่อนชั้นนะ " ฉันตวัดสายตาไปหาใบหน้าหล่อที่ยืนยิ้มกวนโมโหอยู่

" ก็เพื่อนไง .. รึเธอไม่ได้คิดแค่เพื่อน " เสียงทุ้มพูดจบก็เดินจากไปปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างอยู่

" แกมีอะไรกันงั้นเหรอ " ลดาที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยถามขึ้น

" ก็นายนั่นหน่ะ คิดว่าชั้นชอบแก เป็นห่วงเป็นใยแกมากกว่าเพื่อนปรกติที่เค้าเป็นกัน " ฉันเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิด

" ฮ่าา ๆๆ " ลดาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีที่ฉันพูดจบ

" เห็นมั้ย แกยังหัวเราะเลย นายนั่นท่าจะบ้า " ฉันว่า

" ช่างเค้าเหอะ .. ป่ะ เดี๋ยวชั้นไปเอากระเป๋ากับปลาวาฬก่อน เราจะได้ออกเดินทางกัน " ลดาว่าพลางจูงมือฉันเดินไปหาปลาวาฬที่ยืนอยู่ข้างรถตู้

การมาเที่ยวครั้งนี้ทำให้ฉันได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นหลายคน กลุ่มเพื่อนของปลาวาฬและกลุ่มเพื่อนของพิชชาทุกคนน่ารักหมด ยกเว้นนายนั่นหน่ะนะ... ฉันดีใจที่การมาเที่ยวครั้งนี้ทำให้เพื่อนรักของฉันอย่างลดามีความสุข ลดาเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยและปลาวาฬก็เป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก ฉันเคยแอบเชียร์ให้ลดาเปิดใจมองดูหนุ่มๆคนอื่นบ้างแต่เพราะเพื่อนรักของฉันแอบรักกวินหลานชายเพื่อนของป้าของเธอตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว จะหล่อเทพบุตรแค่ไหน...ลดาก็ไม่เคยสนใจมอง

เมื่อวานหลังจากลดาเล่าเรื่องราวของเธอและปลาวาฬให้ฉันฟังทั้งหมดจึงได้รู้ว่าสองคนนี้คงแอบมองกันมานานแล้วล่ะ แต่แค่ไม่เปิดใจให้กันก็เท่านั้นเอง เมื่อเพื่อนมีความสุข..เพื่อนอย่างฉันก็มีความสุขไปด้วยเช่นกัน ภาวนาอย่างเดียวขออย่าให้ปลาวาฬเป็นเหมือนกับเพื่อนเขาอีกคนเลย ชื่อเสียงเรื่องความเจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงเ็นว่าเล่นเนี้ย กลุ่มนี้เลยล่ะ

" วาฬฬ กระเป๋าล่ะ ? " ลดาเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนหน้านิ่งอยู่ข้างรถตู้

" เก็บบนรถแล้ว " เขาตอบ

" อ้าว เค้าบอกแล้วไงว่าจะกลับกับเพื่อน "

" ไม่ได้ เป็นผู้หญิงจะขับกลับกันเองได้ไง เดี๋ยวกลับด้วยกันหมดนี่แหละ ที่นั่งว่างอยู่ " ปลาวาฬเอ่ยอีกครั้ง

" แต่หวานเอารถมา "

" เดี๋ยวให้ลุงช่วยขับไปให้ "

" ไม่ต้องหรอก ลำบากลุงแก เดี๋ยวกูขับเอง " ฉันที่กำลังยืนฟังคู่รักหมาดๆคุยกันอยู่ต้องหันไปหาต้นเสียงที่พูดทันที

" มึงขับไหว ? " ปลาวาฬเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางเอ่ยถามเพื่อนตัวเอง

" ใกล้แค่นี้ อีกอย่างขับไม่ไหวก็ให้คนนั่งข้างๆมาขับเปลี่ยนไง ใช่มั้ยเธอ" เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ถนัดเลย

" ป่ะ ไปกันเถอะ "

" ห๊ะ " ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร ก็โดนร่างสูงจับมือแล้วจูงไปยังรถของตัวเองที่ขับมาจอดอยู่ด้านหลังรถตู้ตั้งแต่เมื่อเช้า

ปึก...เสียงปิดประตูพร้อมกับร่างของฉันถูกจับยัดให้เข้ามานั่งตรงเบาะด้านข้างคนขับ

" นี่นาย รถชั้น..ชั้นขับเองได้ " เมื่อตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ฉันก็หันไปหาคนที่พึ่งจะก้าวเข้ามานั่งลงเบาะประจำตำแหน่งคนขับ แต่แทนที่เขาจะต่อปากต่อคำกับฉันเหมือนทุกครั้งคราวนี้เข้ากลับเงียบ

" .... " คนที่นั่งอยู่ข้างๆค่อยๆโน้มตัวเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ ใกล้เข้า ...มา...ทุก...ที

" นี่ " ฉันที่เตรียมจะร้องก็ต้องเก็บเสียงตัวเองไว้เพราะคนที่คิดว่ากำลังจะทำอะไร เขาก็เอื้อมมือมาดึงสายคาดเข็มขัดนิรภัยมากดล็อกให้ฉันแค่นั้น

" ปล่อยเพื่อนเธอให้มีความสุขบ้าง ถึงจะเสียใจแค่ไหนก็ควรจะอดทน " เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

" พูดอะไรของนาย "

" ก็เธอกำลังเสียใจ ชั้นเข้าใจดี แอบรักมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ? "

" นี่ !!!...ดูปากชั้นให้ดีๆ ชั้น...ไม่...ได้...ชอบ...เพื่อน...ตัวเอง ...ชั้นชอบผู้ชายโว้ยยย " ด้วยความโมโหฉันจึงตะโกนออกไปสุดเสียง

" ..... " คราวนี้เขาเงียบ ใบหน้าคมจ้องสบตากับฉันอยู่ ริมฝีปากหนายกยิ้ม

" เฮ้ยยยยย... " เป็นฉันเองที่ต้องตกใจเพราะสภาพของฉันและเขาตอนนี้ ด้วยความโมโหทำให้ฉันลืมตัวคว้าคอเสื้อของเขากระชากเข้าหาตัวเองตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้มือของฉันยังจับคอเสื้อของเขาอยู่ ใบหน้าของเราสองคนใกล้จนจมูกเกือบจะชิดกันอยู่แล้ว ฉันรีบปล่อยมือออกจากคอเสื้อของคนตรงหน้า

ความรู้สึกเอ่อร้อนบนใบหน้าทำให้ฉันรีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวเขาจะจับสังเกตได้ เกิดมาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน หัวใจเต้นแรง มือไม้สั่นสะท้าน ร่างกายวูบไหวคล้ายจะเป็นลม

" น่ารักดี จีบได้มั้ย "

" ห๊ะ " ประโยคที่พึ่งออกจากปากของเขาทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองหน้าเขาทันที

" น่ารักดี จีบได้มั้ย " เอาอีกล่ะ...เขาพูดประโยคเดิมอีกล่ะ

" ประสาทกลับรึไง นายนี่...ท่าจะบ้า "

" ไม่ได้บ้า พูดจริงๆ ก็เมื่อกี้เธอพึ่งบอกว่าชอบผู้ชาย ถ้างั้นชั้นขอจีบเธอละกัน " ผู้ชายตรงหน้าพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ก่อนหน้านี้ยังกวนประสาทชั้นอยู่ มาตอนนี้บอกจะจีบ

" นี่ซินะ เค้าเรียกผู้ชายเจ้าชู้ หว่านเสน่ห์ไปเรื่อย "

" พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก แค่ลองเปิดใจเรียนรู้จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ ถ้าเจอคนที่ใช่...ชั้นก็พร้อมจะหยุด " สายตาคมจ้องสบนัยน์ตาของฉัน คราวนี้เป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีเขา สายตาจริงจังนั่นบ่งบอกว่าคำพูดที่พึ่งพูดออกมา เขาหมายความแบบนั้นจริงๆ

" ชั้น...ไม่ชอบคนเจ้าชู้ จะออกรถได้รึยัง พวกนั้นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว "

" ที่พูดเมื่อกี้หน่ะ..พูดจริงๆนะ " จบคำพูดร่างสูงที่นั่งประจำคนขับก็สตาร์ทรถและขับตามรถตู้ออกจากบ้านไป

:

:

ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ หลังประโยคก่อนหน้าที่ผมพูดออกไปเราสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย เธอเอาแต่นั่งเงียบ สักพักก็หลับตาลงดูเหมือนเธอจะแกล้งหลับอาจพราะไม่อยากคุยผม นี่ก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงนึงแล้วที่เธอหลับอยู่แบบนี้ ดูท่าว่าตอนนี้คงจะหลับจริงๆ ลมหายใจเข้าออกจากการขยับขึ้นลงของหน้าอกนูนทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้เธอคงจะหลับจริงๆ

ประโยคที่ผมบอกเธอไป...ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ เธอตรงสเปคของผมอย่างที่ไอ้วินมันว่า ผมไม่ชอบผู้หญิงสวยหวาน แนวน่ารักทะนุถนอมนั่นยิ่งไม่ใช่ เซ็กซี่เปรี้ยวจัดก็ไม่ใช่แนว ผมชอบผู้หญิงธรรมดา สวยปนน่ารักในคราวเดียวกัน เซ็กซี่แต่พองาม น้ำหวานนี่ก็ถือว่าตรงสเปคของผมทุกอย่าง ผมชอบแววตาที่เอาจริงเอาจังของเธอ มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว จะว่าไปผมถูกใจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ...วันที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นไอ้วินนั่นหน่ะ

" ไม่ ไม่ ชั้นไม่ได้ทำ ชั้นไม่ได้ทำ " เสียงคนข้างๆที่กำลังหลับเอ่ยพึมพำอะไรซักอย่างทำให้ผมชะลอความเร็ว

" เธอ ... เธอ "

" ไม่ ไม่ ชั้นไม่ได้เป็นคนทำ " ใบหน้าหวานบานพึมพำไม่หยุด ผมจึงตัดสินใจแตะไฟเลี้ยวแล้วจอดรถข้างทาง

" เธอ... เธอ ..น้ำหวาน เป็นอะไร " ผมเอื้อมมือไปแตะที่ต้นแขนเพื่อปลุกให้เธอตื่น

" ไม่ !!! "

" น้ำหวาน เป็นอะไร ตื่น " ผมตัดสินใจเขย่าตัวเธอแรงมากกว่าเดิมพร้อมกับตะโกนดังขึ้น

" .... " นัยน์ตาเรียวเล็กเบิกกว้างพร้อมกับลมหายใจหอบถี่ เธอยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง

" เป็นอะไร ฝันร้ายเหรอ " ผมตัดสินใจถามออกไปแม้จะไม่มั่นใจว่าเธอจะตอบผมรึเปล่า

" ไม่มีอะไร ออกรถเถอะ รึนายขับไหวมั้ย ให้ชั้นขับเปลี่ยนรึเปล่า " น้ำเสียงสั่นเครือพูดออกมาแม้ตัวเองจะยังเอามือลูบหน้าตัวเองอยู่ก็ตาม

" ขับไหว...จะมาขับเปลี่ยนชั้นดูสภาพตัวเองซะก่อนเถอะ " ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ไม่ดูสภาพตัวเองซะเลย เหงื่อเปียกชุ่มเต็มใบหน้า แม้กระทั่งมือไม้ยังสั่น เธอเป็นอะไรกันแน่ ฝันร้ายอย่างนั้นเหรอ ฝันเรื่องอะไรกันถึงทำให้มีสภาพเป็นอย่างนี้ได้