2/2 เครื่องมือ
เกือบสามทุ่มแล้วชายหนุ่มจึงชวนบิดากลับ เพราะรู้สึกสงสารภรรยาด้วยที่ต้องฝืนใส่ส้นสูงเดินทั้งที่ไม่ค่อยจะถนัด
“ภาคินลูกเถียงทุกคนไม่ได้หรอก แต่สิ่งที่ลูกจะพิสูจน์คือการกระทำ พ่อรออุ้มหลานอยู่นะ หนูธัญด้วยอย่าทำให้พ่อผิดหวัง”
ก่อนจะเปิดประตูรถเพื่อเข้าบ้าน ผู้เป็นพ่อทิ้งคำพูดให้สองคนผัวเมียรู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คืออะไร
“คืนนี้ต้องจัดหนักๆ เพราะคุณพ่อต้องการแบบเร่งด่วน”
ชายหนุ่มหันมาพูดกับภรรยาหลังจากกำลังลงจากรถและพากันขึ้นไปบนบ้านชั้นสอง
ภาคินคิดว่าหญิงสาวคงจะต้องทำหน้าเขินอาย ที่เขาพูดเรื่องแบบนั้นกับเธอ แต่มันไม่ใช่ ธัญชนกกลับมีสายตาที่ดูเศร้าแทน
“คุณภาคินอยากมีลูกไหมคะ”
ธัญชนกถามหลังจากที่สามีของเธอกำลังจะล้มตัวลงนอนข้างๆ
“ก็อยากมีนะ แต่คงจะน้อยกว่าคุณพ่อ” ภาคินตอบโดยไม่สนใจ ยังคงใช้มือเขี่ยโทรศัพท์เล่น
“ถ้าวันไหนที่คุณทำให้ฉันท้องสำเร็จ ฉันก็จะไม่จำเป็นกับคุณแล้วใช่ไหม”
หญิงสาวหันไปมองชายหนุ่มแต่เขากลับไม่ได้มองเธอตอบ
“จำเป็นสิ พูดเป็นเล่น”
ธัญชนกกำลังจะยิ้มได้เชียว ถ้ามันไม่ดันมีประโยคต่อไปที่ทำร้ายจิตใจเธอตามมา
“ลูกคุณ ผมก็ต้องให้คุณเลี้ยง ใครมันจะมาดูแลดีเท่าแม่แท้ๆ”
เมื่อรู้ตัวว่าอีกฝ่ายกำลังคิดเรื่องมีลูก ภาคินก็ปิดโคมไฟหัวนอนทันที
“อุ๊ย! อะไรของคุณฉันตกใจหมดเลย”
หญิงสาวยังไม่ทนตั้งตัว พอไฟถูกปิดลง ร่างหนาก็ดันตัวเธอให้ลงไปนอนบนที่นอนก่อนจะใช้ปากหนาหอมแก้มเธออย่างแรง
“ขวัญอ่อนจริงๆเมียผม หลับตานะครับจะเรียกขวัญให้”
ธัญชนกจากที่โมโหที่ถูกดันให้ล้มตัวลงนอน เกือบจะกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหว เมื่อได้ยินคำพูดของสามี
“ฉันว่าคุณไม่ได้เป็นเกย์หรอก แต่คุณกำลังบ้ากามต่างหาก” หญิงสาวแกล้งว่า
“บ้ามากด้วย”
คืนที่สองของการแต่งงาน ภาคินยังคงทำหน้าที่สามีอย่างเต็มกำลัง ความจริงแล้ว เขากับณัชชาและธัญชนกเคยเจอกันตอนช่วงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นอยู่บ่อยๆ และเขาก็แอบชอบภรรยาตัวเอง แต่ไม่กล้าบอก เพราะตอนนั้นเขาหนักเกือบร้อยกิโลกรัมแถมเตี้ยอีกต่างหาก
วันนี้เขาได้ผู้หญิงที่เอาแอบชอบมเป็นภรรยาและภาคินก็คิดว่าหญิงสาวก็คงชอบเธอเช่นกันถึงได้ยอมมาแต่งงานกับเขาแบบนี้ ทั้งที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาสิบกว่าปี