ทำไมนุ่งผ้าเช็ดตัวนอน
พลันนั้น หูฉันก็แว่วยินเสียงครวญครางอีกแล้ว ฉันหลับตา ปล่อยมันไปสิ มันจะทำอะไรก็ช่างมัน อย่าให้ความรู้สึกต่ำ ๆ มาครอบครองจิตใจแบบนั้นอีก แต่สุดท้ายขาเจ้ากรรมมันกลับพาฉันเดินไปตรงนั้นอีกครั้ง ฉันทำเหมือนเดิมคือแนบหูแอบฟังจังหวะรักจากทั้งสอง สุดท้ายก็จบที่ฉันถอดกางเกงออกแล้วอ้าขา ใช้นิ้วถูไถเม็ดเสียวสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
กว่าฉันจะได้นอนก็เป็นเวลาเดียวกับที่ดินเลิกปฏิบัติกามกิจก็ปาเข้าไปตีสี่แล้ว โชคดีที่รุ่งขึ้นเป็นเช้าวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปเรียนเลยตื่นสายได้ ฉันนอนหลับไปด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันไว้ เพราะขี้เกียจถอดแล้วใส่ ถอดแล้วใส่
หลับไปนานเท่าไรไม่รู้ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ ปริม ตื่นยังวะ ”
ฉันงัวเงีย แต่ก็จำเสียงได้ว่าเป็นเสียงดิน จึงเดินไปเปิดประตูนิดหนึ่งแล้วถามมันไป
“ ยัง มีอะไร ”
“ เฮ้ย ปกติปริมไม่เคยตื่นสายนี่ นี่มันจะสิบโมงแล้วนะ ไม่สบายหรือเปล่า ”
พูดพลางใช้ตัวดันเข้าประตูอ้ากว้างมา จนฉันต้องขยับเข้ามาด้านใน ดินยกมือขึ้นแตะหน้าผากฉัน
“ ตัวรุม ๆ นี่ ไข้หรือเปล่า”
“ เปล่า เมื่อคืนปวดหัวนิดหน่อย กินยา ดีขึ้นแล้ว ”
“ ไปหาหมอไหม เดี๋ยวพาไป ” ฉันส่ายหัวแทนคำตอบ
“ แล้วนี่ทำไมนุ่งผ้าเช็ดตัวนอนเนี่ย ” ดินก้มลงมองฉัน ฉันสะดุ้ง ตายห่า ลืมไปเลยว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย ฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกโดยอัตโนมัติ ดินหัวเราะ ฉันทำตาเขียวใส่ดินแก้เขิน ไม่ได้ตอบอะไรไป ดินก็คงจะรู้ว่าฉันเขินเลยไม่สนใจจะเอาคำตอบ
“ จะเอาอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวจะไปซื้อข้าว ”
“ ไปกับใคร ”
“ อ้าว ก็ไปคนเดียวสิ ”
“ ไม่มีคนอยู่ห้องด้วยเหรอวันนี้ ”
“ เมื่อคืนมี แต่กลับไปตอนเช้าแล้ว ทำไมล่ะ จะเอาไปฟ้องแม่เราหรือไง ” ฉันไม่ตอบ กลัวดินจะรู้ว่าฉันแอบฟังแถมยังเอามาช่วยตัวเองอีกด้วย
“ เอาพริกเผาทะเลราดข้าว ”
“ ไข่ดาวกรอบ ๆ ด้วยป่าว ”
ดินพูดอย่างรู้ใจ ถ้าจะมีใครสักคนรู้ใจฉันที่สุดก็ดินนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินหรืออะไรอีกหลาย ๆ อย่าง
“ อือ ”
“ งั้นอาบน้ำแปรงฟันรอเลย ”
ฉันหันขวับทันทีที่ได้ยินคำนั้น ดินจะทำอะไรกับฉัน ถึงให้อาบน้ำรอ
“ อาบน้ำรออะไร ”
“ อ้าว ก็รอกินข้าวนี่ไง จะกินทั้งขี้ฟันแบบนี้หรือไง แค่นี้แหละ ไปก่อน ”
ดินพูดแล้วเดินออกไปพร้อมกดล็อคลูกบิดให้พร้อมฉันรู้สึกใจหายไปวูบหนึ่ง นี่ฉันเป็นบ้าไปแล้วเหรอถึงได้คิดอกุศลกับเพื่อนรักแบบนั้น อีกอย่างดินไม่เคยเห็นฉันเป็นผู้หญิง ไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ขนาดนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ดินยังไม่เกิดอารมณ์อะไรเลย
ฉันสลัดศีรษะให้ความคิดบ้า ๆ บอ ๆ ออกไปเสียที ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำแล้วออกมาแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
ยี่สิบนาทีให้หลัง ดินก็กลับมา
“ ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย ” ฉันถามเมื่อเห็นของที่แผ่นดินซื้อมาเต็มโต๊ะญี่ปุ่นที่ฉันกางไว้สำหรับกินข้าว
“ อันนี้พริกเผาทะเลราดข้าวไข่ดาวของปริมไง ส่วนอันนี้กะเพราเครื่องใน นี่น้ำพริกอ่องกับแตงกวา อันนี้โตเกียวใส่ไข่ อันนี้ไข่ลวกของเรา ”
“ กินอะไรเยอะแยะ ”
“ ใช้พลังงานเยอะ ต้องโด๊ฟ ”
ยี่สิบนาทีให้หลัง ดินก็กลับมา
“ ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย ” ฉันถามเมื่อเห็นของที่แผ่นดินซื้อมาเต็มโต๊ะญี่ปุ่นที่ฉันกางไว้สำหรับกินข้าว
“ อันนี้พริกเผาทะเลราดข้าวไข่ดาวของปริมไง ส่วนอันนี้กะเพราเครื่องใน นี่น้ำพริกอ่องกับแตงกวา อันนี้โตเกียวใส่ไข่ อันนี้ไข่ลวกของเรา ”
“ กินอะไรเยอะแยะ ”
“ ใช้พลังงานเยอะ ต้องโด๊ฟ ” แผ่นดินบอกพร้อมตักข้าวเข้าปาก มือก็กดรีโมททีวีหาหนังดู ฉันแกะข้าวออกแล้วตักเข้าปาก ตาก็ลอบมองดิน คนบ้าอะไรทำอย่างว่าทั้งคืนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน มันยังหน้าตาสดชื่นระรื่นอยู่เลย ผิดกับฉันที่ง่วงเหงาหาวนอนสุด ๆ
ฉันคงมองดินนานเกินไปจนเขารู้สึกตัว เลยหันมาจ้องฉันบ้าง
“ มองอะไรวะปริม ” ฉันสะดุ้ง
“ เอ่อ ปละ..เปล่า ”
“ ปริมดูเครียด ๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า พูดมาตรง ๆ ได้ ” ฉันก้มหน้านิ่ง
“ โกรธอะไรเรา ” ฉันเงยหน้า
“ เปล่า ”