บท
ตั้งค่า

กลางทะเล 2

“บ้านพักของพี่ก็อยู่แถวนี้ บ้านหลังนั้นน่ะ ตึกสีขาวตรงนั้น เห็นมั้ย” เขาชี้มือไปยังบ้านพักเป็นตึกสีขาวทรงโมเดิร์น ที่อยู่ห่างออกไปจากตรงที่ยืนอยู่ไม่มาก แต่คือมาบอกฉันเพื่อ...

“คืนนี้พี่กับเพื่อนจะจัดปาร์ตี้ น้องกับเพื่อนมาร่วมสนุกกันได้นะครับ”

“อ๋อ ขอบคุณค่ะที่ชวน แต่ฉันกับเพื่อนไม่ชอบปาร์ตี้ค่ะ ขอตัวนะคะ” พูดจบฉันเห็นใบหน้าเขาแสดงความผิดหวังนิดหน่อย แต่ฉันไม่สนใจ เดินไปหายัยนุ่น เพื่อจะรีบเดินไปจากตรงนี้ แต่ข้อมือฉันกลับถูกจับไว้

“น้อง พี่ขอเบอร์ได้มั้ย หรือไลน์ก็ได้”

“คือ ฉันไม่สะดวก ขอโทษด้วยนะคะ” ฉันปฏิเสธ แล้วบิดข้อมือออก แต่เขากลับไม่ยอมปล่อย แถมใบหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจอีก

คนบ้าอะไร ขอเบอร์คนอื่น พอไม่ให้แล้วโกรธ

“ปล่อยค่ะ”

“ไม่ปล่อยจะทำไม”

“อ้าว” ฉันกับยัยนุ่นร้องขึ้นพร้อมกัน

“แน่ใจว่าจะไม่ปล่อยนะคะ” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ

“คิดว่าตัวเองสวยนักหรือไง!”

“ฮ่าๆ” ฉันหัวเราะออกมาอย่างเหลืออด

“ไม่เลย แต่ขนาดไม่สวย ยังมีคนตื๊อขอเบอร์ พอไม่ให้ทำเป็นพาล ขอเตือน ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้!”

“ไม่ปล่อยจะทำ... โอ๊ย!”

ฉันไม่ปล่อยให้มันพูดจบประโยคหรอก ถีบกลางลำตัวถูกจุดสำคัญ นั่งจุกอยู่บนพื้นทราย ร้องโอดโอย

“เตือนแล้วนะ”

“อีเวร มึงนึกว่าตัวเองเป็นใคร รู้มั้ยว่ากูเป็นใคร!” ยังทำปากดี ทั้งที่ยังลุกจากพื้นทรายไม่ได้

“กูไม่รู้โว้ย และไม่อยากรู้ผู้ชายเหี้ยๆ อย่างมึงหรอก” ฉันยังจะเข้าไปถีบหน้ามันจริงๆ ดีว่ายัยนุ่นดึงแขนไว้

“เกิดอะไรขึ้นวะ!” ไอ้ตรีโผล่หน้ามาทันที หน้าตาตื่นๆ และหอบนิดๆ เหมือนวิ่งมาแต่ไกล สงสัยมันจะเห็นเหตุการณ์ว่าฉันกำลังมีเรื่อง เลยวิ่งมาหา

ฉันยังไม่ทันตอบคำถามมัน เสียงของไอ้ผู้ชายคนนั้นก็ดังขึ้นก่อน

“กูไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ มึงเองเหรอไอ้ตรี ไอ้คนถูกพ่อทิ้ง และอย่าบอกนะว่าอีผู้หญิงคนนี้เป็นเมียมึง”

“ไอ้แทนไท!”

ไอ้ตรีเค้นเสียงออกมา แล้วหันไปจ้องไปคนที่นั่งอยู่บนพื้นทราย ก่อนที่มันจะลุกขึ้น ยิ้มมุมปากเดินมาหยุดตรงหน้าไอ้ตรี

“เออ กูเอง มึงคงไม่แปลกใจมั้งที่เห็นกูที่นี่ แต่กูสิ แปลกใจมากที่มึงมาอยู่ที่นี่ กูนึกว่ามึงเร่ร่อนอยู่ที่ลอนดอนเสียอีก ไม่คิดว่ามึงจะอยู่เมืองไทย แถมมาโผล่ที่หัวหินอีก ดูท่าจะพักแถวนี้เสียด้วย มึงคงคิดถึงความหลังสินะ ฮ่าๆ” มันจบประโยคยาวๆ ที่ฉันไม่เข้าใจด้วยเสียงหัวเราะ

แต่ไอ้ตรีกลับไม่ได้โต้ตอบคำพูดยืดยาวนั้น มันมึงแขนฉันเพื่อจะเดินจากไปตรงนั้น แต่เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นทำให้มันชะงัก

“ถ้าอีนี่คือเมียมึง วันหนึ่งมันก็จะเป็นเมียกู เหมือนที่พ่อมึง กลายมาเป็นพ่อของกูตอนนี้ไง”

ไอ้ตรีหันไปมองไอ้ปากหมานั่นด้วยดวงตาดุกร้าว แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะร่วน ส่วนฉันอยากเตะปากหมาๆ ของมันมาก แต่รอก่อนเหอะ ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าไอ้คนนี้มันเป็นใครกันแน่ ทำไมไอ้ตรีถึงมีอาการแปลกๆ กับคำพูดของมันด้วย

“เฮ้ย เวลามึงมองกูแบบนี้ โคตรเหมือนแฝดคนละแม่ของมึงมากๆ เลยว่ะ เสียดายไอ้โทแม่งดันใจเสาะลงนรกไปเร็วเกิ๊น บอกตามตรงนะ ถ้าหน้ามึงไม่มีขี้แมงวันข้างแก้ม และตัวมึงสูงขึ้นมาอีกสามสี่เซนฯ กูนึกว่ามึงเป็นไอ้โทจริงๆ นะเนี่ย เพราะมึงตัวล่ำขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แถมมึงยังไปสักรูปสิงโตเหมือนไอ้โทอีก”

ไอ้ปากหมามองรอยสักที่แผ่นอกเปลือยของไอ้ตรี ที่ยังยืนนิ่ง แต่ฉันรับรู้ว่ามันเครียด เกร็งมือจนเผลอบีบแขนฉันแรง และถึงฉันจะเกลียดไอ้ปากหมาแค่ไหน แต่เรื่องที่อีกฝ่ายพล่ามออกมานั้นทำให้ฉันยิ่งงุนงง โดยเฉพาะเรื่องแฝดคนละแม่ของไอ้ตรี

‘สรุปไอ้ตรีไม่ใช่ลูกคนเดียวเหรอวะ’

“นี่ไอ้ตรี ถ้ามึงยกอีนี่ให้กู บางทีกูอาจจะไปขอร้องให้พ่อมึง รับมึงกลับบ้านก็ได้นะ”

ในนาทีนั้นเองฉันแกะมือไอ้ตรีออกข้อมือ แล้วหมุนตัวแล้วจระเข้ฟาดหางไปบนลำตัวไอ้ปากหมาให้ไปนอนบนพื้นทรายอีกรอบ

ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายจับข้อมือไอ้ตรี และยัยนุ่นเดินลิ่วไปจากตรงนั้นทันที

ฉันยังไม่ปล่อยมือจากไอ้ตรี ตั้งใจจะพามันไปซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันสงสัย แต่ไอ้ปีกับไอ้พัทวิ่งตามหลังมา

“เฮ้ย พวกมึงจะไปไหนเนี่ย ไม่เล่นน้ำกันหรือไง”

“พอดีกูมีเรื่องจะคุยกับไอ้ตรีมัน พวกมึงไปเล่นก่อนเหอะ นุ่นด้วย ไปเล่นกับไอ้สองคนนี้ก่อนนะ” พูดจบฉันก็ลากแขนไอ้ตรีกลับไปยังบ้านพัก

“ตกลงมึงกับไอ้ปากหมานั่นคือ...” พอมานั่งในห้องโถงบ้านพักฉันก็ตั้งคำถามที่พอจะเดาออกอยู่บ้าง แต่อยากฟังชัดๆ จากปากไอ้ตรี

“มันคือลูกบุญธรรมของพ่อกูเอง”

“ตกลงมันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อมึง”

“ไม่ใช่ มันเป็นหลานของแม่เลี้ยงกู ที่เขารับมันเป็นลูกบุญธรรมน่ะ กับเมียใหม่ เขาไม่ได้มีลูกด้วยกันหรอก”

“อือ...แบบนี้เอง แล้วเรื่องที่ไอ้นั่นพูด มันคืออะไร เร่ร่อนที่ลอนดอน แล้วแฝดคนละแม่คืออะไร ชื่อไรนะ โทเหรอ ลงนรกคือหมายความว่าไงอะ” ฉันจำคำพูดของไอ้ปากหมานั้นได้อย่างแม่นยำ

“ตายไง ไอ้โท พี่ชายกูเอง”

“เฮ้ย มึงไม่เคยบอกเลยนะว่ามีพี่ชาย และเป็นแฝดคนละแม่คืออะไรวะ” ทำไมเรื่องราวมันดูซับซ้อนแบบนี้ แล้วเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมมันไม่เคยบอกฉัน

“ไอ้โทกับกูหน้าตาเหมือนกันมาก ทั้งที่คนละแม่ ต่างกันตรงมันสูงกว่ากูสี่เซนฯ คนที่เห็นกูกับมัน คิดว่าเป็นฝาแฝด เพราะเราสองคนหน้าเหมือนพ่อด้วยกันทั้งคู่ และที่กูไม่เคยบอกมึง เพราะตอนนั้นกูเกลียดมันมาก ไม่เคยคิดว่ามันเป็นพี่ มันชอบแกล้งกูจนเกือบตายมาแล้ว”

“เกือบตายเลยเหรอวะ”

“มันเคยผลักกูตกสระว่ายน้ำในบ้านน่ะ”

“เฮ้ยที่มึงไม่กล้าฝึกว่ายน้ำตอนนั้น เพราะพี่มึงหรอกเหรอ ที่มึงเคยบอกว่ามีญาติแกล้งผลักลงสระน่ะ”

“อือ...” มันพยักหน้ารับ

“นิสัยมันแย่จริงๆ แกล้งน้องได้ขนาดนั้น แล้วทำไมมันถึงตายล่ะ ไม่ใช่มึงฆ่ามันนะ” ท้ายประโยคฉันแกล้งแหย่ แต่เห็นสีหน้าเศร้าๆ ของมัน ฉันก็รีบขอโทษ

“ขอโทษมึง กูล้อเล่น”

“ที่มันชอบแกล้งกูเพราะว่าหลังจากแม่มันตาย พ่อก็พากูกับแม่เข้าบ้าน และก่อนแม่จะเข้าบ้าน แม่กูเคยเป็นเมียน้อยพ่อมาก่อน”

นี่คงเป็นอีกเหตุผลที่ไอ้ตรีไม่ค่อยอยากพูดเรื่องพ่อหรือครอบครัวของตนเองให้ใครฟัง รวมทั้งฉันด้วย

“ไอ้โท มันตายเพราะเกิดอุบัติเหตุรถชนเมื่อห้าปีก่อน”

“เฮ้ย น่าสงสารเหมือนกันนะ”

“ใช่ มันน่าสงสารมาก”

ไอ้ตรีพูดพร้อมกับทำตาแดง เหมือนกำลังจะปล่อยโฮ ฉันเลยเข้าไปกอดมัน

“ขอโทษว่ะ กูไม่น่าถามมึงเลย และกูเข้าใจแล้วว่าทำไมมึงถึงไม่เคยพูดถึงพี่มึงเลย แต่ที่ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องลอนดอนคือยังไง”

“ตอนที่กูกับแม่กลับมาที่กรุงเทพฯ กูเรียนมอสี่แค่เทอมเดียว พ่อก็ส่งกูไปเรียนที่ลอนดอนกับไอ้โท แต่พอไอ้โทเสีย กูก็กลับมา แต่อย่างที่รู้นั่นแหละ กูไม่ได้กลับไปอยู่บ้าน เพราะที่นั่นกูก็ไม่มีแม่แล้ว และพ่อกูก็...ไม่ได้อยากให้กูอยู่ที่นั่นด้วย”

“โห พ่อมึงใจร้ายมากนะ รับลูกคนอื่นมาเป็นลูกบุญธรรมได้ แต่ไล่ลูกตัวเองออกจากบ้าน”

“กูเป็นลูกที่ไม่ดีเองแหละ”

“โห ไอ้เวรนั่นดีตายล่ะ กูล่ะงงพ่อมึงจริงๆ รับคนแบบนั้นเป็นลูกบุญธรรมได้ยังไง สักวันมันจะก่อเรื่องให้เดือดร้อน นิสัยเสียแบบนั้น แล้วตอนที่มันพูดถึงพี่มึงว่าลงนรกไปแล้ว คือมันพูดออกมาได้ไงวะ”

“มันเกลียดไอ้โท เพราะตอนมันมาอยู่บ้านแรกๆ โดนไอ้โทเล่นงานซะอ่วม”

“ไอ้พี่มึงคนนี้ก็นะ ชอบแกล้งคนจังเลย”

“ก็ไอ้แทนไทปากหมาใส่มันก่อน และไอ้โทมันเป็นไม่ยอมคนด้วยไง”

"""""""""""""""

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel