บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 29 สงครามประสาท

EP 29

พิมเสนที่ได้ยินเสียงยูริได้สติก่อน ใบหน้าหวานและมือบางผละออกจากร่างหนากระทันหัน

"พอก่อน.."

"Chip.." พระรามสบถออกมาเมื่ออารมณ์ที่กำลังไปได้ดีหยุดกลางคัน แถมเจ้ายักษ์ของชายหนุ่มมันก็ผงาดขึ้นมาอย่างน่าอาย

"เข้าไปห้องนํ้าก่อน เดี๋ยวฉันไปหายูเอง" เธอกระซิบบอกเสียงแผ่วเบา

"อื้อ" พระรามงัวเงียลุกขึ้นจากร่างเล็กด้วยท่าทีเสียดาย ชายหนุ่มเดินยีผมหายเข้าไปในห้องนํ้า

พิมเสนถอนหายใจออกมาเธอโล่งอกขึ้นมาบ้าง พร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงจัดผมเผ้าให้เข้าที่ ในสมองคิดหาคำแก้ตัวไปด้วย ร่างเล็กเดินไปเปิดประตู..

"?"

"มีอะไรรึป้าว ฉันเข้ามาเอาของที่ห้องรามหน่ะ.." พิมเสนพูดแก้ตัว เธอจ้องมองยูริไม่วางตา เมื่อถูกจับผิดด้วยสายตา

"ไหนบอกลงไปข้างล่าง?"

"ป่ะ ไปคุยกันที่ห้องก่อน" พิมเสนปิดประตูห้อง และจูงมือยูริมายังห้องตัวเอง สองสาวเดินมานั้งที่โซฟา

"ยังไงๆ"

"ก็ไปข้างล่างมาแล้ว นึกได้เลยแวะเอาของก่อน"

"อ๋อออ" ยูริพยักหน้าตอบพร้อมกับอมยิ้ม เธอมั่นใจจริงๆว่ายังไงพิมเสนก็ต้องชอบพระราม และมันก็เป็นไปตามอย่างที่เธอคิด แต่เธอก็เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับก่อนถึงเวลาที่ทั้งคู่ชัดเจนทุกคนคงรู้เอง..

ส่วนเรื่องของเธอก็ต้องมูฟออนต่อไป..

อีกด้าน..

"เวขาา~" ข้าวฟ่างเดินเข้ามาหาแฟนหนุ่มที่นั้งจ้องโทรศัพทฺ์บนเตียงใบหน้าบึ้งตึง หล่อนหย่อนก้นนั้งลงบนตักพร้อมกับซุกแผงอกกว้าง ด้วยท่าทีออดอ้อน

"ครับ" เวหาวางโทรศัพท์ลงข้างกายด้วยท่าทางเหนื่อยๆ

"ข้าวมีเรื่องจะบอกด้วยแหละ.."

"ว่าไง"

"ข้าวได้เป็นนางแบบด้วย พรุ่งนี้จะเริ่มเดินทางไปถ่ายที่ต่างจังหวัดวันแรก ข้าวเลยอยากมาขออนุญาติเวก่อน.."

"เอาสิ ข้าวเก่งอยู่แล้ว"

ฟอด~ เธอหอมแก้มแฟนหนุ่มไปหนึ่งที แต่คนที่ถูกหอมกลับเพียงฉีกยิ้มออกไป เหมือนไม่ค่อยเต็มใจนัก สีหน้ายิ้มแย้มของคนตัวเล็กจึงเจื่อนลงเล็กน้อย "เวเป็นอะไรรึป้าวคะ ทำไมดูหน้าเครียดๆ"

"ป้าว คิดมากเรื่องงานส่งอาจารย์นิดหน่อย.."

"เอาหน่า แฟนข้าวเก่งที่สุดแล้ว~"

"ครับ"

"สู้ๆนะคะ ข้าวไปเก็บกระเป๋าก่อน"

"โอเคครับ" เธอลงจากตักเวหา และเดินยิ้มแป้นไปเก็บกระเป๋า เตรียมตัวออกเดินทาง

"เวไปส่งข้าวอยู่ห้างก่อนได้ไหมคะ พอดีข้าวอยากซื้อของใช้นิดหน่อย ก่อนจะไปคอนโดเพื่อรอไปพร้อมกับทีมงาน.."

"พรุ่งนี้ให้เวไปส่งที่สนามบินก็ได้.." เวหามองแฟนสาวอย่างไม่เข้าใจนัก

"ไม่ได้ค่ะ พี่ๆทีมงานบอกว่าต้องไปพร้อมกันเท่านั้น"

"ก็ได้.."

"เวไม่โกรธข้าวใช่ไหม" ข้าวฟ่างที่กำลังสารวลกับการจัดกระเป๋าหันมามองเวหาเป็นระยะๆ

"ไม่ครับ เวเข้าใจ" พูดจบร่างหนาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แล้วพล็อยหลับไปจากการซ้อมบอล จนเวลาล่วงเลยจนถึงสองทุ่ม..

"เวตื่นนนน" มือบางสะกิดไหล่หนาไปสองสามที ส่งผลให้เวหาที่หลับอยู่ค่อยๆรู้สึกตัวและลืมตาขึ้นมา "ไม่สบายรึป้าวเนี่ย" เธอใช้หลังมืออังหน้าผากเวหา

"ป้าว ข้าวเสร็จยัง"

"เรียบร้อยแล้วค่ะ"

"...." เวหาเอี้ยวตัวลุกขึ้นยืนตรง พร้อมกับยืดเส้นยืดสาย ร่างหนาเดินไปหยิบกระเป๋าตังพร้อมโทรศัพท์เตรียมตัวเดินออกมาจากห้อง "มาเวช่วย'

เวหาแย้งกระเป๋าลากจากเธอมา ก่อนที่ข้าวฟ่างจะเกาะลำแขนคนตัวโต แล้วทั้งคู่ก็เดินมายังที่จอดรถ มุ้งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า

@ร้านหมูกระทะ

"นี้มันสองทุ่มยี่สิบนาทีแล้ว เพื่อนๆที่น่ารักของกูยังมาไม่ถึงซักคน" เคบ่นพร้อมกับตวัดขาขึ้นไขว้กัน ตอนนี้บนโต๊ะก็มีอาหารพร้อมกิน บวกกลิ่นหอมชวนหิว ซึ่งโต๊ะที่เลือกนั้งก็เป็นโต๊ะยาวนำมาต่อกัน ส่วนคนอื่นๆก็มากันครบแล้ว..

"เดี๋ยวก็คงมาแหละ..." พิมเสนที่มาพร้อมกับยูริพูดขึ้น เธอนั้งติดกับคนอื่นๆอีกฝั้งเป็นยูริ ตรงกันข้ามคือเค ถัดจากเคคือคินที่นั้งตรงข้ามยูริอีกที

"กูว่าพวกแม่งขั้วสาวอยู่แน่นอน.."

"เออจริง ไม่เหมือนเรารักเพื่อน" สองแฝดที่ไม่จริงจังกับใครพูดกัน เคยื่นมือไปคีบหมูขึ้นมาเป่าสองสามทีแล้วจุ่มลงบนถ้วยนํ้าจิ้มรสเด็ดขึ้นมาเคี้ยวด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

"หวัดดีพวกมึง" มาร์คกับขิมที่ค่อนข้างสนิทกับสองแฝดเดินมาทัก

"หวัดดีพวกไม่หล่อนั้งก่อนดิ โต๊ะนั้นแม่งเต็มแล้ว" คินชวน

"เออ" มาร์คเดินมาหย่อนก้นนั้งข้างๆยูริ แต่หญิงสาวเพียงนิ่งเงียบ

"แล้วกูอ่ะไอ้เหี้ยมาร์ค" ขิมพูดขึ้น สายตามองพิมเสนไม่วาง พร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่มตามประสาคนเจ้าชู้

"เรื่องของมึงดิสัส"

"เค กูอยากนั้งที่มึงว่ะ ลุกดิมึงไปนั่งข้างไอ้คินฝั้งนู้น" ขิมควักมือไล่เพื่อน

"อ้าวๆอะไรหว่า มีอะไรถึงอยากนั้งตรงนี้"

"บรรยากาศมันดี" ชายหนุ่มพูดพร้อมกระตุกยิ้ม

"แน่ใจว่าบรรยากาศดี คนดีด้วยอ่ะป้าวว"

"ประมาณนั้น" ขิมตอบพร้อมกระตุกยิ้มแล้วหย่อนก้นนั้งลงแทนที่เค ส่วนเคเองก็เดินไปนั้งข้างคินอีกฝั้ง

พิมเสนที่รู้ตัวเองดีว่าโดนแซวเธอเพียงยิ้มตอบกลับไปตามมารยาท ไม่ได้ตอบโต้กลับไป

"ไม่ต้องไปสนใจ พวกนี้มันแค่แซวเล่นๆ" ยูริเอ่ยบอกเธอ พิมเสนเพียงพยักหน้าตอบและหันไปสนใจของกินต่อ

"มึงรู้ได้ไงไอ้ยูว่ากูแซวเล่นๆ"

"ก็แปลว่ามึงคิดจริงงง" คินแซว

"ว่าแต่วันนี้เวหาไม่มาหรอ" มาร์คที่นั้งจ้องหน้ายูริมาซักพักเอ่ยถาม เขาหวังเคลมเธอตั้งแต่วันนั้นที่แต่งตัวลุคแซ่บๆแล้ว

"ไม่รู้"

"มันจะมาอยู่แต่คงอีกซักหน่อย" เคตอบแทน พร้อมรินเบียร์ใส่แก้ว สายตามองบนเวที

"หมูไหม้หมดละสัส แดกๆมัวแต่คุย" คินเบิกตากว้างเมื่อเห็นหมูบางชิ้นเริ่มเกรียมขึ้นมาเพราะไม่ได้พลิก

ทั้งหมดจึงตั้งหน้าตั้งตากิน พิมเสนที่ปรับตัวไม่ทันกับพวกที่มาไหม่ เอาแต่กินเงียบๆไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า เพราะรับรู้ถึงสายตาของใครบางคนที่กอดอกจ้องมองอยู่พร้อมจิบเบียร์ไปด้วย

"เงยหน้าบ้างก็ได้นะ เดี๋ยวเอ็นคอก็เคล็ด" พิมเสนที่โดนขิมแซว หยุดชะงัก

"มึงเล่นจ้องซะขนาดนั้นใครแม่งจะกล้ามองว่ะ" คินส่ายหัว

"เก็บอาการหน่อย" มาร์คเตือนสติ

"....ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาพัวพันกับพวกเด็กวิศวะได้ล่ะ"

"แล้วมึงรู้ได้ไงว่าพิมไม่ได้เรียนวิศวะ" เคพูด

"...ดูจากตัวแล้ว" สายตาวาบวามมองร่างกายขาวผ่องน่าหลงใหลอย่างชอบใจและหยุดที่รำคอระหง คนนี้ต่อให้มีแฟนก็จะแย่ง "น่าจะบอบบาง"

"อื้อ ฉันไม่ได้เรียนวิศวะหรอก เพื่อนต่างคณะ" พิมเสนยอมปริปากพูด

"คบเพื่อนผู้ชายเยอะๆแบบนี้ แฟนไม่ว่าหรอ"

แปะ ! สองแฝดตบมือพร้อมกัน "ถามเหมือนพวกกูเป๊ะ"

"แล้วคำตอบ?"

"กูว่าไม่โสด" มาร์คพูด

ยูริที่เห็นท่าทีของขิมที่พูดจารุกรานเธอเรื่อยๆ และรู้ดีว่าพิมเสนคิดกับพระรามยังไง จ้องมองเพื่อนสาวอย่างนึกเป็นห่วง "พิมมันมีแฟนแล้ว"

"แล้วรู้ได้ไงว่ะไอ้ยู วันนั้นมึงไม่ได้มานิ" คินสงสัย วันนั้นก็คือวันที่พิมเสนโดนสองแฝดแกล้งวางยาเกือบตาย

"ก็วันนี้กูไปคอนโดพิมไง"

"ว้าาา เสียดาย" ขิมกอดอกพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางไม่จริงจังนัก มีแฟนแล้วไง?

แคร์ซะที่ไหน...

"ตบมือสิครับ เสด็จมาถึงแล้ว" คินพูดเมื่อสายตาดันไปเห็นพระรามและเวหาเดินมุ้งหน้ามายังโต๊ะพร้อมกัน

ทุกคนจึงหันไปมองที่สองหนุ่มและตบมือขึ้นพร้อมกันพร้อมกับเอ่ยแซวกันใหญ่

"มาช้า มึงสองคนเลี้ยง" คินชี้หน้าคาดโทษ

"เหี้ยไรว่ะ"

"พวกขี้งก ไม่จนหรอกหน่าา" ขิมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มนึกขัน ทำให้พระรามมองไปยังต้นเสียงและเห็นว่าพิมเสนนั้งตาแป๋วมองมาที่ชายหนุ่มตรงข้ามกับขิม

สองหนุ่มพร้อมใจกันหน้าบึ้ง พระรามเลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจแล้วหย่อนก้นนั้งลงข้างๆเค ส่วนเวหาที่ไม่ชอบเป็นอย่างมากก็เดินดุ่มๆมาหายูริ

"มานี้หน่อย กูมีเรื่องจะคุยด้วย" ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์เอาไว้

"อืม" ยูริที่ไม่อยากนั้งไกล้มาร์คเอาซักเท่าไหร่ เธอก็ลืมเรื่องเมินใส่เอาไว้ก่อนและเดินตามเวหา

"นั้งสิ เรื่องมันยาว" มือหนาลากเก้าอี้ออกมาให้เธอนั้งข้างๆ

"...." สองสาวมองกันตาละห้อย ก่อนที่เวหาจะกดไหล่บางให้นั่งลง เพราะนึกว่ามองมาร์ค

นั้นทำให้ยูริมองอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอก็รู้ดีว่าเวหากำลังทำให้เธอห่างจากมาร์ค และนั้นก็ส่งผลให้สองหนุ่มจ้องมองกันปานจะฆ่าด้วยสายตา..

พิมเสนกลืนนํ้าลายเหนียวๆลงคอ แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ ทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาพระรามตลอด

ขิมมองใบหน้าหวานไม่วางตา พร้อมคีบเนื้อหมูใส่จานให้พิมเสน "เห็นกินแต่ผัก.." ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้ม

"ขอบใจนะ" เธอตอบกลับไปตามมารยาทพร้อมฝืนฉีกยิ้มบางๆ บรรยากาศตรงนี้มันชวนอึดอัดสิ้นดี อีกคนก็เอาแต่จ้องพร้อมบวก อีกคนก็รุกรามด้วยสายตาขึ้นเรื่อยๆ ที่หนักกว่านั้นพระรามลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ว..

หมับ !

"อ๊ะ.."

"ไปนั้งกับฉัน" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเธอ

"เห้ย ให้เธอนั้งตรงนี้แหละ"

"เสือก.."

"เป็นเหี้ยไร พูดดีๆดิว่ะ" ขิมสวนกลับในทันที

"หนักหัวมึงหรอ?"

"ไอ้รามใจเย็นๆ" คินที่เห็นว่าสถานะการไม่ค่อยดีพยายามพูดให้พระรามใจเย็น

"มึงหุปปากเถอะ"

"...เอางี้นายนั้งลงข้างๆฉัน" พิมเสนจับไหล่หนากดลงบนเก้าอี้ที่เดิมของยูริ ชายหนุ่มมองหน้าเธอหายใจฟึดฟัด "นะ เดี๋ยวป้อนจนอิ่มเลย" คำพูดของเธอทำให้พระรามยอมสงบสติ และนั้งลง ส่วนคนอื่นก็รู้สึกแปลกใจ

"โอเคนะ แดกกันดีๆอย่าตีกันประสาทกูจะแดก" คินยกมือห้ามและนั้งลงเก้าอี้ ลำพังเวหาที่หวงเพื่อนเกินเหตุก็ระวังยากแล้ว มาเจอคนอารมณ์ร้อนแบบพระรามเกือบจะซัดหมัดกันยิ่งปวดหัวหนักกว่าเดิม

สิ้นสุดคำพูดแต่สายตาของสองคนยังคงจ้องมองกันอยู่ พระรามมองเรียวขาคู่สวย ก่อนจะตะหงิดๆขึ้นมาในใจ

"ใส่มาอ่อยใครนักหนา.." ชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมตัวเองออก แล้วคลุมขาอ่อนเธอจนมิด

"ไม่ได้อ่อยใครซะหน่อย"

"ทีหลังจะเผาทิ้งให้หมด ไม่จำเป็นอย่าใส่อีก"

"...ไอ้รามทำขนาดนี้แฟนเธอไม่ว่าหรอ" ขิมถามพิมเสนขึ้นมา

"ไม่ต้องรู้ซักเรื่องก็ดี"

"กูถามมึงหรอ?"

"...เอ่อ เราก็ชอบเล่นกันประจำแบบนี้แหละเรื่องปกติ จริงมั้ยยู?" พิมเสนหันไปหายูริที่โดนเวหานั้งติดแจไม่ต่างจากเธอ..

"ห้ะ อ อ๋อ ใช่ๆ เห็นไหมนิมันนั้งติดกูแจเลย" ยูริอํ้าอึ้ง เธอมองไปทางมาร์คอยู่แค่แวบเดียวก็โดนเวหาบีบเอวไปหนึ่งที บ้าชะมัด...

"ไอ้พวกนี้มันหวงไรนักหนาว่ะ เพื่อนไม่ใช่เมียสติ" เคเกาหัวงุนงงเป็นท่าประจำ ประสาทจะแดกเมื่อต้องคอยระวังคนตีกันกลางโต๊ะ..

ทางด้านสองหนุ่มกลับคิดตรงกันโดยที่ไม่มีใครปริปากพูดออกมา..

เมียไม่ใช่เพื่อน..

.

.

.

จ้าเมียก็เมีย ขออนุญาติมองบน?55555555555555

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel