บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 12 หน่วงในใจ

EP 12

"...แล้วฉันทำอะไรได้บ้าง" ร่างเล็กทรุดตัวลงบนพื้น ร่างกายอ่อนปวกเปียก เธออยากให้ความจริงที่รับรู้ในตอนนี้เป็นฉากในความฝัน "ฮึก..ฮือออ"

"กุมความลับของฉันให้มิดไง สิ่งที่เธอต้องทำ"

"...." พิมเสนนิ่งเงียบ มีเพียงเสียงสะอึกสะอื้นรํ่าให้ มือบางยกขึ้นปาดนํ้าตาเป็นระยะๆ พระรามเห็นเธอนิ่งเงียบ ชายหนุ่มจึงกดเปิดคลิปที่เขายังไม่ลบออกมาขู่เธอ เขาย่อตัวลงแล้วยื่นหน้าจอโทรศัพท์ไปตรงใบหน้าหวานที่ก้มหน้าก้มตาเสียใจ..

'พั้บๆๆๆๆ อ๊ะๆ..อื้อ!'

"น นายยังไม่ลบคลิปออกอีกเหรอ.." ใบหน้าเปื้อนคราบนํ้าตาซีดเผือก ริมฝีปากสั่นเทา อับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี

"ใช่ อนาคตเธอแลกกับความลับของฉัน เธอเริ่มฉันเริ่ม ถ้าเธอเงียบฉันก็จะเงียบ"

"..." มือบางเสยผมขึ้นลวกๆ ต่อไปนี้ชีวิตเธอคงไม่เป็นอิสระต่อไป..

"ว่าไง?"

"...ชีวิตเพื่อนฉันที่ตายไป มันจะตายไปพร้อมกับความเจ็บปวดแบบนั้นจริงๆหรอ นายไม่คิดจะสำนึก หรือขอโทษ.."

"หุบปาก ตายไปแล้วก็ตายไปดิ ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่า แค่ตอบสิ่งที่ฉันถาม" พระรามกดปิดคลิป สายตาเพ่งมองเธอต้องการคำตอบ

"ถ้ามันต้องแลกด้วยอนาคตของฉัน..ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้.." พิมเสนหมดทางเลือก ทุกคนต่างมีความฝันเป็นของตัวเองและการเรียนแพทย์ก็เป็นเพียงความฝันสูงสุดเดียวที่เธอต้องการ..และเป็นสิ่งที่แม่เธอภาคภูมิใจ..

ถึงแม้อนาคตของเธอมันจะแลกมาด้วยชีวิตของเพื่อน..แต่เธอไม่มีวันปล่อยให้เพื่อนรักตายฟรีแน่นอน..

"ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน.."

"จบแล้วใช่ไหม เรื่องที่จะพูด?"

"..." เขากระตุกยิ้มมุมปาก และหยัดกายลุกขึ้น เป็นสัญญาณแทนคำตอบ แล้วร่างหนาก็เดินจากห้องไปไร้เสียงตอบกลับใดๆ

เมื่อลับร่างพระรามพิมเสนก็ปล่อยโฮออกมา มือบางกำหมัดแน่นจนตัวสั่นเทา ก่อนที่โทรศัพท์จะสั่นเครือขึ้นมาอีกครั้งเป็นเบอร์ของนาเดียร์...

ครืด~ ครืด~

"ฮัลโหลค่ะแม่.." เสียงแผ่วเบากรอกลงไป สองมือประคองโทรศัพท์เอาไว้ไม่ให้ล้วงหล่นจากมือ

(พ พิม แม่เองนะลูก ด เดีย ฮึก...)

"พิมรู้แล้วค่ะแม่ ด เดี๋ยวพิมไปหานะคะ อึก" มือบางยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น เมื่อได้ยินเสียงร้องให้ของอิงอรที่มีเพียงลูกสาวคนเป็นความหวังของครอบครัว..

(จ้ะลูก ฮึก ฮืออ พิมพอจะรู้ไหม ทำไมเดียร์ต้องทิ้งแม่ไปแบบนี้..)

"ไว้เดี๋ยวพิมเล่านะคะ.."

(ถ้าอย่างงั้นแม่ขอตัวจัดการเรื่องงานศพยัยเดียร์ก่อนนะลูก ฮึก มันกระทันเกินไป..)

"แข็มแข็งไว้นะคะ เดี๋ยวหนูไปหา.."

(ฮือ ฮึกก ข ขอบใจนะลูก)

"งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ.."

(จ้ะ..)

ตี้ด ! ปลายสายถูกตัดไป โทรศัพท์ก็ล่วงลงพื้นไปโดยปฏิกิริยา พิมเสนยกมือขึ้นปาดนํ้าตาออก แล้วเดินไปจัดการตัวเองและเรื่องลาเรียนไปช่วยงานศพนาเดียร์ที่ต่างจังหวัด..

อีกด้าน..

ปรื้นน!! ปรื้นน!! พระรามเหยียบคันเร่งจนมิด ภายในใจรู้สึกสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถุงแตก? ท้อง? เป็นไปได้ยังไง? มือหนาตบเข้าที่พวงมาลัยไปทีแล้วขับรถมุ้งหน้าไปยังมหาลัยไม่นานBMW คันหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดข้างสนาม เป็นจุดสนใจของสายตาทุกคู่ที่กำลังทำกิจกรรมต่างๆอยู่ ในเวลาเกือบสองทุ่ม

พระรามเดินลงมาจากรถมุ้งหน้าไปยังแสตนที่ว่างแล้วหย่อนก้นนั้งลง มือหนาล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบด้วยความเครียด

เขาเพียงสงสัยอะไรบางอย่าง..

"อ้าว พระรามทำไมวันนี้ไม่ไปซ้อมกับเพื่อนล่ะ" ข้าวฟ่าง แฟนสาวของเวหาที่พึ่งเดินไปเข้าห้องนํ้ามาและกลับมายังจุดเดิมพบเข้ากับพระรามเอ่ยทักขึ้น ร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มหย่อนก้นนั้งลงเว้นระยะห่างเอาไว้

"ติดธุระ"

"อ๋อ" ข้าวฟ่างฉีกยิ้มเจื่อนๆคบกับเวหามานานมีเพียงพระรามนี้แหละที่เธอค่อนข้างกลัวเป็นพิเศษและไม่กล้าเข้าไกล้

"ไอ้เชี้ยราม ถ้ามึงจะมาป่านนี้มึงมาทำไมว่ะ" คินเดินเข้ามายังแสตน พลางถอดเสื้อซ้อมออกแล้วเช็ดเหงื่อตามลำตัวท่อนบน

"...." พระรามนิ่งเงียบ ปรายสายตามองไปยังยูริที่หิ้วถังนํ้าด้วยท่าทางลำบากเพราะศึกหนักเมื่อคืน

"เห้ยๆไอ้ยู มึงไหวป้าวนั้น" เค ที่กำลังเลื่อนโทรศัพท์เล่นรีบวิ่งไปฉุดถังนํ้ามาไว้ในมือ

"กูไหว"

"ไปนั้งเถอะมึงอ่ะ สภาพเหมือนโดนรุมโทรม" เคพูดจบทุกสายตาก็หันไปมองที่ยูเป็นตาเดียวยกเว้นเวหาที่สนใจเพียงแฟนสาวหน้าตาอ่อนหวาน

"ฮั้นแหน้ นี้ยูแอบมีแฟนไม่บอกพวกเรารึป้าว"

"ไม่หรอก.."

"จริงหรออออ ไม่ใช่มีแต่ไม่บอกพวกเรานะ" ข้าวฟ่างเอ่ยแซว

"ไอ้ยูมันไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบหรอก ถึงมีมันก็ไม่เอาอยู่แล้ว จริงไหมไอ้ยู?" เวหามองไปที่ยูริ ดวงตากลมโตหลุบมองตํ่า

"อืม" ร่างเล็กเดินมาหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย

"แต่ถ้าไอ้ยูมันแต่งหน้าซักหน่อย แต่งตัวซักนิด ผู้ชายตรึม กูฟันธง!"

แปะ!

"ไปเก็บถุงเท้ามึงสัส พ่องดิใส่ถุงเท้าข้างเดียวเตะบอล" เคตบเข้าที่หัวแฝดน้อง พลางโบ้ยปากไปยังถุงเท้ายาวข้างเดียวที่ถูกผึ่งไว้ที่แสตนอีกฝั้ง เพราะมันโดนนํ้าที่เขาใช้ล้างหน้าก่อนเตะบอล

"คนมันจ๊าบ" พูดจบร่างหนาก็รีบวิ่งไปหยิบถุงเท้าตัวเอง

"กูกลับล่ะ" ยูริเอ่ยขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง

"มึงกลับยังไง?" พระรามที่สูบบุหรี่เงียบๆครุ่นคิดเพียงคนเดียวถามขึ้น เขาเป็นห่วงสภาพของเพื่อนสาว

"บิ๊กไบซ์"

"ขับไหวหรอ สภาพยูดูไม่ได้จริงๆนะ" ข้าวฟ่างที่กำลังซับเหงื่อตามกรอบหน้าเวหาหันมาร่วมสงสนทนา

"ได้"

"ให้ข้าวกับเวไปส่งดีกว่าไหม ทางผ่านพอดีเลย รถก็ให้คินเคขับกลับให้"

"อ้าวเวร.." เคสบถออกมา

"ก็ดี มึงกลับกับไอ้เวเถอะ หรือจะให้กูไปส่ง"

"กูกลับเอง.."

"ไอ้ยู กลับกับกูเหมือนเดิมอย่าทำให้มันวุ่นวาย" เวหาที่กลัวยูริกลับไปทำงานแบบนั้นอีก พูดดักทางเอาไว้ ร่างเล็กที่หิ้วกระเป๋าพาดบ่าหันกลับมามอง

"อืม" ยูริขานรับอย่างว่าง่าย เธอกำลังจะทำให้มันไม่เหมือนเดิมจึงพยายามรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเอาไว้..

"งั้น ข้าวว่าเรากลับเลยดีกว่า.." ข้าวฟ่างเดินไปหยิบของใช้ส่วนตัวของเวหาขึ้นมาถือ แต่โดนเวหาแย่งมาถือไว้แทน

"เดี๋ยวถือเอง.."

"ก็อยากถือให้เธองัยย.." ข้าวฟ่างเกาะท่อนแขนกำยำเอาไว้ เธออ้อนแฟนหนุ่มด้วยท่าทางน่ารัก

"อ้อนแบบนี้ ไปอ้อนบนเตียงดีกว่า.."

"หิ้วววว..." แฝดสยองและคนเเถวๆนั้นเอ่ยแซวพร้อมกัน ก่อนที่ร่างของใครบางคนจะเดินเข้ามาร่วมวง

"ยังไม่กลับอีกหรอว่ะไอ้เว" มาร์ครุ่นพี่ในคืนนั้นเดินเข้ามาทัก ชายหนุ่มปรายตามองยูริด้วยความสนใจ

"กำลังจะกลับ ไปนะพวกมึง" เวหาตัดความรำคานด้วยการบอกลาเพื่อนๆในแก๊งแล้วเดินผ่านหน้ายูริไป เขาส่งสายตาให้เธอเดินตามมาก่อนจะทำตัวเป็นปกติ..

ยูริที่อยู่ในสถานะการแบบนี้กลั้วขำออกมาเบาๆ ถามว่าเจ็บไหมก็เจ็บดี..

"โชคดีมึง" คินโบกมาลายูริ

"..." มือบางโบกกลับสองสามรอบ

"แล้วนี้ยูกลับยังไง.." มาร์คเดินเข้ามาหาร่างเล็ก..

"ไอ้ยู กลับ" เวหาที่ได้ยินคำเอ่ยทักพูดสวนขึ้นมาทันควันแล้วหันกลับมามองเธอ

"..." ยูริไม่ได้ตอบอะไรมาร์คกลับไป เธอเดินตามร่างของทั้งสองคนไปด้วยความยากลำบากใจ..

ลับร่างยูริมาร์คจึงเดินกลับด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก วันนี้เวหาดูแปลกๆกับเขาทั้งที่แต่ก่อนก็เคยไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ

"เป็นไรครับท่าน ท่าทางปลงๆ"

"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย.." พระรามตอบกลับ แฝดสยองเห็นอาการผิดปกติของเพื่อนจึงเข้ามานั้งประกบคนละข้างแล้วดึงมวลบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ

"เล่า"

"ช่างมันเถอะ"

"อ้าวไอ้เวรแล้วแบบนี้พวกกูจะรู้ไหมครับเนี้ย"

"ไม่ต้องรู้ไง นั้งเป็นเพื่อนกูเฉยๆก็พอ" พระรามบอกแค่นั้นก็นั้งครุ่นคิดเหม่อมองไปยังสนามไร้ซึ่งผู้คน เขาไม่ชอบระบายอะไรแย่ๆให้คนอื่นฟัง เพราะเขาเองก็ไม่ชอบรับฟังเรื่องแย่ๆของใครมาเก็บให้คิดมากเหมือนกัน..

"ตามสบายครับท่าน" คินเอ่ยปิดท้าย แล้วความเงียบก็เข้ามาครอบงำ มีเพียงควันยุหรี่ที่ลอยพุ่งทะยานไปตามสายควัน..

ต่างจังหวัด..

"หยุดร้องได้แล้วพิม เดี๋ยวหนูเดียร์จะไม่ไปไหนเอานะลูก.." นภาลูบศรีษะทุยที่ร้องให้ซบอกเขา ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดตั้งแต่วันแรกของพิธีจนถึงวันเผาศพ..

"ฮึก ฮือออ" พิมเสนร้องให้จนร่างกายอ่อนแรง ไม่ต่างจากอิงอร เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากอกผู้เป็นแม่

"ไม่ร้องนะคะคนเก่งของแม่ ป่ะเอาดอกไม้ไปไหว้ศพหนูเดียร์ให้ไปสู่สุขติกัน.."

"ค่ะแม่" มือเหี่ยวย่นปาดนํ้าตาที่แก้มเนียนใสออก ทั้งสองจูงมือกันไปไหวศพนาเดียร์

พิมเสนหยิบดอกไม้จันทร์สีขาวขึ้นมาแล้วยกมือไหว้ศพเพื่อนรักด้วยนํ้าตาคลอเบ้าพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างในใจ..

'กูขอโทษนะเดียร์..ถ้ากูทำอะไรผิดลงไปมึงอโหสิกรรมให้กูด้วยนะ..กูรักมึงมากนะเว้ย แต่เวลาของมึงไม่น่ามีน้อยขนาดนี้เลย ไปสู่สุขติในภพภูมิที่ดีนะมึง..'

เธอวางไว้ดอกไม้ลง สบตากับใบหน้ายิ้มแย้มที่อยู่ในกรอบรูป แล้วค่อยๆเดินถอยห่างออกมากลับเข้าไปในงานรอเวลาเผาจนทุกอย่างเสร็จสิ้น ทุกคนที่มาร่วมไว้อาลัยก็ต่างทยอยกลับ รวมถึงพิมเสนเองที่เดินมาลาอิงอรก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติ..

"พิมลานะคะคุณแม่.." มือบางยกมือขึ้นไว้อิงอรที่สภาพทรุดโทรมหมองเศร้า

"แข้มแข็งเข้าไว้ หมั่นทำบุญให้หนูเดียร์ตลอด มีอะไรก็โทรหาฉันกับลูกได้เสมอ"

"ขอบใจพวกเธอสองคนมากเลยนะ ที่มาช่วยงานตลอด"

"เดินทางกลับดีๆกันล่ะ" ยายจันทร์ ยายของนาเดียร์ยื่นมือของสองแม่ลูกมาจับไว้

"ค่ะ คุณยาย" พิมเสนขานรับ

"ถ้าอย่างนั้นหนูพาลูกลาเลยนะคะ" นภายกมือไหว้ลาผู้มีอายุมากกว่าพร้อมพิมเสน

"เจริญๆนะลูก" ลํ่าลากันเสร็จ ทั้งสองก็เดินหิ้วกระเป๋าเดินทางคนละใบเดินออกมา มุ้งหน้าไปยังสถานีรถเพื่อตีตั๋วกลับกรุงเทพฯ หากเป็นคนอื่นคงเดินทางกลับด้วยเครื่องบินเพื่อความสะดวกสะบาย แต่ทั้งสองเลือกที่จะเดินทางกลับด้วยรถเมล์เพราะถานะทางบ้านไม่ค่อยดี..

หลายชั่วโมงถัดมา...

@กรุงเทพมหานครฯ

พิมเสนที่เดินทางกลับมาถึงเธอเลือกลงที่จะลงห้างเพราะต้องการซื้อหนังสือไปอ่านเพิ่ม ร่างเล็กเดินนวยนาดออกมาจากร้านพร้อมหิ้วหนังสือเอาไว้ในมือ

เธอเดินทอดน่องไปเรื่อยๆจนสายตาไปสะดุดกับเข้ากับร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาเเพง จึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูแต่ไม่คิดที่จะซื้อมัน..

"รามคะแพมอยากได้อีกอ่ะะ ได้ไหมคะ" เสียงออดอ้อนของใครบางคนดังเล็ดลอดเข้ามาในโซนประสาท พิมเสนหยุดชะงักเมื่อคุ้นกับชื่อ ตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมา

พระรามโทรหาเธอเป็นร้อยสาย..

เมื่อนึกได้ดังนั้นพิมเสนจึงรีบเดินออกจากร้าน เพราะยังไม่อยากทะเลาะกับพระราม เธอเดินมาเรื่อยๆและมาหลบยังมุมเสา

พระรามมองตามแผ่นหลังบางไปแวบๆ เขาควักเงินปึกหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้หญิงสาว

"ซื้อแล้วคืนนี้ไปรอฉันที่ห้อง"

"รามจะไปไหนคะ"

"ไม่ใช่เรื่องของเธอ" พูดจบมือหนาก็ล้วงถุงกางเกงเดินออกมาจากร้าน หนีเข้าไปยังไงก็ตามเจออยู่ดี..

หมับ !

"อ๊ะ.." พิมเสนที่กำลังพิมแชทคุยกับคิรันโดนพระรามแย่งโทรศัพท์ไปจากด้านหลัง ร่างเล็กถูกฉุดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

"โทรไปเป็นร้อยสายหูตึงรึไง ถึงไม่รับ?"

"อย่าหาเรื่องกันได้ไหม ปล่อย"

"..." เขาไม่สนใจคำพูดของเธอเรียวคิ้วขมวดยุ้ง พระรามเพ่งสายตามองแชทที่เธอพิมค้างไว้ จู่ๆในใจมันก็หงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมาแปลกๆ

"เดี๋ยวนี้ชอบหาเรื่องใส่ตัวนะ.."

.

.

.

เหมือนมีใครบางคนหวงทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน รึป้าวนะ? 5555555555555555

IMAGE : ยูริ

IG : puimekster

Next..

"อาบนํ้าเป็นเพื่อนฉันสิ เดี๋ยวคืนให้ :)"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel