เรื่องไม่เป็นเรื่อง
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาครับ ..."ขันทองเอ่ยอนุญาตขึ้น
แกร๊ก
"ขันทอง...ทำไมลูกเสียมารยาทกับน้าภาแล้วก็น้องดาขนาดนั้น ขันทองไม่รักษาหน้าของแม่เลยนะ แม่ไม่เคยสอนขันทองให้พูดกับผู้หญิงรุนแรงขนาดนั้นนะลูก ..."ศุจีเดินเข้ามาในห้องของลูกชายได้ เธอก็พูดในสิ่งที่เธอไม่พอใจออกมาทันที เธอพยายามเก็บความไม่พอใจเอาไว้ จนนาดากับแม่กลับไปแล้ว เธอถึงขึ้นมาหาลูกชายบนห้อง
"ผมขอโทษนะครับแม่ ..."ขันทองพูดพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษแม่ไปด้วย
"แม่ขอได้ไหม หมั้นกับ ..."
"แม่ลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ ..."ขันทองสบตากับแม่แล้วถามขึ้นเสียงเรียบ
"หือ...? ลืมอะไร ..."ศุจีเอียงหน้าเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะถามลูกชายออกมาด้วยใบหน้าที่งงเต็มที่
"ลืมขอโทษผมไงครับ ..."
"ขอโทษ...? ขอโทษเรื่องอะไร ..."ศุจียิ่งงงเข้าไปใหญ่ เธอไม่รู้ว่าลูกชายหมายถึงอะไร
"แม่บอกให้ผมหมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง โดยที่ไม่ถามความสมัครใจของผมสักคำ ไม่พอแค่นั้น แม่ยังถามผมต่อหน้าสองแม่ลูกคู่นั้นอีก ..."
"แต่แม่ ..."
"ผมยังพูดไม่จบครับ เรื่องแต่งงานหรือเรื่องหมั้น มันเป็นเรื่องใหญ่ของคน...คนหนึ่งเลยนะครับ ใช่ไหมครับแม่ ..."ขันทองถามแม่ด้วยนํ้าเสียงที่คาดคั้น
"มันก็ใช่ แต่นี่แม่เป็นคนเลือก ..."
"แต่ทำไม...แม่ถึงทำเหมือนกับว่า แค่เดินออกไปหน้าปากซอย แล้วซื้อแกงถุงละยี่สิบบาทกลับมากินเองล่ะครับ มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับแม่ ..."ขันทองถามแม่ของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"งั้นเอาใหม่ แม่ขอโทษ แต่ขันทองลองคบกับ ..."
"ไม่ครับ เรื่องแฟนหรือเรื่องคู่ของผม ผมจะเป็นคนจัดการเอง จะไม่มีนาดาหรือครอบครัวของนาดา เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของผม แม่เข้าใจใช่ไหมครับ ..."ขันทองพูดแทรกขึ้น ก่อนที่แม่ของเขาจะพูดจบ
"ขันทอง...ฟังแม่ก่อนได้ไหม แม่เข้าใจสิ่งที่ขันทองพูดนะลูก ก็แค่ลองคบดู ถ้าไม่ชอบก็แยกย้ายกันไปแค่นั้นเอง ..."ศุจีพูดกับลูกชายด้วยนํ้าเสียงที่ขอร้อง
"ใครเสนอความคิดนี้มาเหรอครับแม่…หึ ..."ขันทองถามแม่ ก่อนที่เขาจะยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เพราะเขาก็พอที่จะรู้ ว่าใครเป็นคนเสนอความคิดนี้
"มันไม่สำคัญ ..."
"สำคัญครับ แม่คิดดูสิครับ ใครเป็นคนที่เสียหาย ถ้าคบกันแล้วไปกันไม่ได้ ..."ขันทองถามเสียงเข้ม
"ก็...ก็น้องดา ..."ศุจีอ้อมแอ้มพูดออกมาเสียงเบา
"ผู้หญิงดีๆที่ไหนครับ กล้าเสนอความคิดแบบนี้ออกมา ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถ้าจะบอกว่าทำไปเพราะความรัก รักก็ควรที่จะมีสติมากกว่านี้นะครับ นอกซะจากว่า...ผู้หญิงคนนั้นจะเห็นแก่ตัว ..."ขันทองพูดขึ้นเสียงเรียบ
"ขันทอง...อย่าว่าผู้หญิงลับหลังแบบนี้นะลูก แม่ไม่ชอบ ..."ศุจีว่าให้ลูกชายด้วยความไม่พอใจ
"ถ้าไม่อยากให้ผมว่าต่อหน้าและลับหลัง ก็อย่ามายุ่งกับผมอีก พอนะครับ...ผมไม่อยากทะเลาะกับแม่เพราะเรื่องของผู้หญิงคนนี้ ..."ขันทองสบตากับแม่แล้วพูดขึ้น
"แล้วมันจะอะไรนักหนา กับแค่ลองคบดู ..."ศุจีถามลูกชายอีกครั้งอย่างไม่ยอมง่ายๆ
"เพราะว่าผมไม่ได้ชอบนาดาไงครับ ถ้าผมจะชอบ ผมชอบไปนานแล้ว เพราะว่านาดาตามตื้อผมมานานแล้ว แม่ออกไปเถอะครับ ผมมีรายงานที่จะต้องทำ ..."ขันทองบอกแม่ของเขาเสียงเข้ม ก่อนที่เขาจะก้มหน้าทำงานของตัวเองเงียบๆ
"เฮ้อ...!! ..."ศุจีถอนหายใจออกมาอย่างอึกอัด ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากห้องของลูกชาย
...
เพล้ง...ง !!
โครม...ม !!
กรี๊ด...ด !!
หมับ...บ
"น้องดา...ใจเย็นๆลูก น้องดาอย่าทำแบบนี้นะลูก น้องดาของแม่เป็นคนสวยนะลูก มีคนมาชอบน้องดาตั้งเยอะ เราหาคนใหม่...คนที่เขารักลูกก็ได้หนิ น้องดาลูก...อย่าทำอย่างนี้เลยนะแม่ขอ ..."วัลภาพูดด้วยนํ้าเสียงที่ขอร้อง พร้อมกับกอดลูกสาวเอาไว้แน่น
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านแล้ว นาดาก็เข้าห้องนอนส่วนตัว ก่อนที่เธอจะอาละวาดทำลายข้าวของอย่างที่เห็น หลังจากที่ตลอดทางที่กลับมาในรถ นาดานั่งเงียบจนน่ากลัว
"ไม่...ขันทองจะต้องเป็นของดาคนเดียวค่ะแม่ ..."นาดากัดฟันพูดเสียงเบา แต่หนักแน่นเหมือนกับคนที่ไม่ยอมอะไรง่ายๆ
แกร๊ก
"น้องดาลูก ..."
หมับ...บ
"พ่อ...พ่อช่วยดาด้วยค่ะ ..."นาดาสะบัดตัวให้หลุดจากแม่ แล้วเข้าไปกอดพ่ออย่างออดอ้อน
"ใจเย็นๆนะลูก ลูกสาวคนสวยของพ่อ ลูกจะไม่มีวันผิดหวังแน่นอนลูก ..."เสี่ยดิลกกอดลูกสาวเอาไว้แน่นด้วยความสงสาร เขากลับมาบ้านทันที ที่เมียของเขาส่งข้อความไปหา แล้วบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่บ้านของขันทองให้เขาฟัง เขารู้ทันทีเลย ว่าลูกสาวคนสวยของเขาต้องอาละวาดแน่ๆ
"ขันทองไม่ไว้หน้าดาเลยค่ะพ่อ ฮือๆ ไม่เคยมีใครทำกับดาอย่างนี้มาก่อนเลย ฮือๆ ดารักขันทองจริงๆนะคะพ่อ ฮือๆ ..."นาดาบอกพ่อไปร้องไห้ไป ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่หัวใจแทบสลาย
"น้องดาเงียบก่อนลูก น้องดาอยู่เงียบๆอย่างสวยๆไปก่อน แล้วที่เหลือพ่อจะเป็นคนจัดการเอง ..."เสี่ยดิลกบอกลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน
"พ่อจะทำยังไงคะ ..."นาดาหยุดร้องไห้ทันทีเหมือนปิดสวิตช์ไฟ ก่อนที่เธอจะถามพ่อด้วยความใจร้อนที่อยากจะรู้
"ใช่ค่ะ คุณจะทำยังไงเหรอคะ ..."วัลภาเองก็ถามด้วยความสงสัยที่อยากจะรู้เหมือนกัน เพราะว่าเหมือนสามีของเธอ ดูมั่นใจซะเหลือเกิน
"เอาเป็นว่าคุณดูแลลูกอย่างเดียวก็พอ เดี๋ยวที่เหลือผมจะเป็นคนจัดการเอง ..."เสี่ยดิลกสบตากับเมียแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ
"พ่อคะ เร็วๆนะคะ ดากลัวว่าพี่เดชคุณจะแย่งขันทองไปจากดา ..."
"น้องดา...!! พูดอะไร...!! ..."วัลภาถามลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจ
"น้องดาอย่าพูดแบบนั้นนะลูก เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า เขาจะมองพี่ชายเราไปในทางที่ไม่ดี แล้วน้องดาก็ไม่ต้องกลัวด้วย พ่อไม่ทางยอมให้พี่เขาเดินผิดทางแน่นอน ..."เสี่ยดิลกบอกกับลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"มันเรื่องอะไรคะคุณ ..."วัลภามองหน้าสองพ่อลูกแล้วถามด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ถึงเธอจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่สัญชาตญาณบอกเธอว่า มันต้องเป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้แน่ๆ
"พี่เดชคุณกำลังจีบขันทองอยู่ค่ะ และกำลังจะแย่งขันทองไปจากดาค่ะแม่ ..."
"น้องดา...!! ..."สองผัวเมียเรียกลูกสาวออกมาพร้อมกัน แต่คนละความรู้สึก
"แม่จะเป็นลม เฮ้อ...อ ..."วัลภาพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะเข่าทรุดลงไป
"คุณภา...!! น้องดา...พ่อบอกแล้วว่าอย่าพูด เดี๋ยวพี่ชายของน้องดาจะเสียหายเอาได้ แล้วแม่เขาก็รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ด้วย ..."เสี่ยดิลกบอกลูกสาว พร้อมกับพยุงเมียของเขาให้นั่งบนเตียงไปด้วย
"ไม่รู้ล่ะ พ่อต้องกันพี่เดชคุณออกไปจากขันทองให้ดาด้วย ..."นาดาพูดอย่างไม่ยอมและเอาแต่ใจ
"ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมคะคุณ ..."วัลภาถามสามีของเธอเสียงสั่น
"คุณภา...คุณไม่ต้องคิดมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ใช่ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด ..."เสี่ยดิลกบอกเมียด้วยนํ้าเสียงที่หนักแน่น เพื่อไม่ให้เมียของเขาคิดมาก
"แม่นอนพักเถอะค่ะ พ่อคะ...ดาขอคุยกับพ่อได้ไหมคะ ..."นาดาสบตากับพ่อแล้วพูดด้วยท่าทางที่จริงจัง ก่อนที่เธอจะจูงมือพ่อของเธอ ออกมาจากห้องนอนของเธอ แล้วปล่อยให้แม่ของเธอมองตามหลังของเธอกับพ่อ เอาไว้ที่ห้องของเธอ
"น้องดามีอะไรจะคุยกับ ..."
"พ่อบอกดาได้ไหมคะ ว่าพ่อจะทำวิธีไหนคะ ทำไมพ่อดูมั่นใจจัง ว่าพ่อจะช่วยดาได้ ..."นาดาถามแทรกขึ้นอย่างใจร้อน ก่อนที่พ่อจะพูดจบ
"เอาไว้ ..."
"ไม่ค่ะ...พ่อต้องบอกดาเดี๋ยวนี้ค่ะ ดาอยากรู้ตอนนี้เลยค่ะ ดารู้ว่าพ่อต้องมีแผนอยู่ในใจอยู่แล้ว ไม่งั้นพ่อคงจะไม่มั่นใจขนาดนี้หรอกค่ะ ..."นาดาพูดอย่างคนที่ใจร้อนและเอาแต่ใจตัวเอง
"พ่อจะให้อาจารย์ของพ่อช่วย ..."เสี่ยดิลกยอมบอกลูกสาวออกมาในที่สุด เพราะว่าเขารู้จักนิสัยของลูกสาวเขาดี ว่าไม่มีทางยอมแน่ๆ ถ้าเขาไม่บอก
"อาจารย์...? ยังไงคะพ่อ แล้วอาจารย์ของพ่อเขาจะมาช่วยอะไรพ่อได้คะ แล้วเขาจะช่วยเราได้จริงเหรอคะ ..."นาดาถามพร้อมกับมองหน้าของพ่ออย่างคนที่ไม่เข้าใจ
"น้องดาก็รู้ว่า...ถ้าพ่อไม่มั่นใจ พ่อไม่มีทางพูดออกมาเด็ดขาด แล้วอาจาย์ของพ่อคนนี้ เขาก็ช่วยพ่อมาหลายครั้งแล้ว เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้น เรื่องของลูกเป็นเรื่องที่เล็กมาก ไม่ได้เสี่ยวเดียวของเรื่องพ่อ ที่เขาช่วยพ่อหรอกลูก น้องดาอย่าเป็นห่วงไปเลย พ่อจะไม่ยอมให้คนในครอบครับของเรา ออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด ..."เสี่ยดิลกพูดขึ้น เขาจะไม่มีทางยอมให้ลูกชายคนเดียวของเขา รักเพศเดียวกันเป็นอันขาด เขาให้คนไปตามสืบมาแล้ว ลูกชายของเขาตามจีบขันทองอยู่จริงๆ และเสียเงินซื้อรถไปหลายล้าน ทั้งที่ตัวเองมีรถรุ่นที่ดีกว่าอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรกับเรื่องนี้ เพราะว่ายังไงซะ ขันทองก็ต้องมาเป็นลูกเขยของเขาอยู่ดี
"พ่อพูดแบบนี้ ดาอยากเห็นอาจารย์ของพ่อแล้วสิคะ ว่าเขาจะช่วยดาได้ยังไง ..."นาดาสบตากับพ่อแล้วพูดด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"เอาไว้แล้วพ่อจะให้น้องดาเจอกับอาจารย์ของพ่อ ถ้าถึงเวลานั้น พ่อขอคุยกับอาจารย์ของพ่อก่อน ..."เสี่ยดิลกบอกลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน
"อย่านานนะคะพ่อ ดาไม่อยากปล่อยเอาไว้นานค่ะ ขันทองจะต้องมาสยบอยู่แทบเท้าของดานะคะพ่อ ..."นาดาสบตากับพ่อด้วยสายตาที่ออดอ้อน
"ได้สิลูก...ไม่มีใครเหมาะสมกับลูกสาวคนสวยของพ่อ เท่ากับขันทองอีกแล้ว และขันทองจะต้องอยู่ในโอวาทของลูกสาวพ่อด้วย ..."เสี่ยดิลกพูดอย่างเอาใจลูกสาวคนเดียวของเขาเต็มที่
"จุ๊บ ดารักพ่อที่สุดในโลกเลยค่ะ ดาจะรอนะคะพ่อ ..."นาดาจุ๊บที่แก้มของพ่อด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะกอดพ่อเอาไว้แน่นจนเต็มรัก เพราะว่าพ่อตามใจเธอและได้ให้สัญญากับเธอแล้ว
...
"พวกมึง...เลิกเรียนแล้วไปไหนกัน ไปท่องราตรีกันหน่อยไหม พวกเราอายุครบแล้วนะเว้ย ไม่อยากลองไปเที่ยวกันหน่อยเหรอ ..."จิถามขึ้นในเช้าของวันต่อมา ที่พวกเขามารวมกลุ่มกันแล้ว เมื่อวานเขากับบอยแล้วก็ณิชา ซื้อเสื้อผ้าสำหรับออกเที่ยวกลางคืนกันมาเยอะมาก ทำให้เขาอยากออกไปเที่ยวกลางคืนดูบ้าง เพราะว่าพวกเขายังไม่เคยได้ออกไปเที่ยว ตามสถานที่บันเทิงเลย เลิกเรียนแล้วก็กลับบ้าน พอดีกับมาเจอเรื่องของเจษกับศรัณย์ด้วย ทำให้พวกเขาไม่ได้ออกเที่ยวกลางคืนเลย
"จิ...มึงไม่กลัวผีแล้วเหรอ ..."เจษถามขึ้น
"จบไปแล้วไม่มีแล้วไม่ใช่เหรอ ผีเผออะไรพวกเนี่ยอ่ะ มึงจะกลัวทำไมเจษ มึงมีศรัณย์คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ..."บอยพูดขึ้น เพราะว่าเขาเองก็อยากออกไปเที่ยวเหมือนกันกับจิ
"มึงดูศรัณย์ด้วย ศรัณย์จะไปในที่แบบนั้นเหรอ แล้วศรัณย์ก็ไม่ยอมให้กูไปด้วย มึงเลิกคิดเถอะ ..."เจษดับฝันของเพื่อน เพราะว่าเขารู้จักศรัณย์และกลุ่มเพื่อนดี ว่าต้องรักษาศีลอย่างเคร่งครัดแค่ไหน
"แงะ...อดเลย ..."จิพูดขึ้นอย่างเสียดาย เขาก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ เพราะเขาก็พอจะรู้ดี พอๆกับเจษนั่นแหละ แต่ที่เขาถามเผื่อจะฟลุ๊คแค่นั้นเอง
"แค่เรียนก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว เมื่อคืนทำงานกว่าจะได้นอน มึงยังจะหอบสังขารไปอีกเหรอจิ ..."ณิชาถามขึ้น
"มึงเป็นอะไรวะขันทอง ตั้งแต่มาแล้วไม่พูดไม่จา ..."เจษถามขึ้น หลังจากที่เขาผิดสังเกต ขันทองไม่เคยนั่งเงียบแบบนี้มาก่อน ปกติขันทองก็จะล้อจิเล่นแล้ว แต่วันนี้เงียบมากจนดูผิดปกติ ในขณะที่สามหนุ่ม ไทม์กับสตาร์แล้วก็ศรัณย์ เงียบกันเป็นปกติอยู่แล้ว
"เรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่าไปสนใจเลย เสียเวลาเปล่าๆ ..."ขันทองพูดเสียงเรียบ โดยที่หน้าของเขานิ่งมาก ไม่มีรอยยิ้มเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
"เรื่องไม่เป็นเรื่อง...? แต่ก็ทำให้มึงเงียบและดูแปลกมากนะวันนี้ กูว่าต้องเป็นเรื่องแล้วล่ะ มึงคายออกมาเลย กูอยากรู้…เร็วสิ ..."จิพูดอย่างคาดคั้นให้ขันทองพูดออกมา
"เมื่อวานกูกลับบ้านไป นาดากับแม่อยู่ที่บ้านของกู นั่งคุยกับแม่กูอยู่ ..."ขันทองพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะหันไปสบตากับไทม์ เพราะว่าไทม์แยกกับเขาเป็นคนสุดท้าย และรู้ว่าแม่ของเขาโทรตามให้เขากลับบ้านด่วน ไทม์เองก็มองเขาด้วยความสนใจขึ้นมาทันทีเหมือนกัน
"ห๊ะ...นาดาอ่ะนะ อยู่ที่บ้านมึงกับแม่ ..."บอยถามด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจ ในขณะที่คนอื่นๆก็อยู่ในอาการเดียวกัน
"ใช่ แม่กูบอกว่าจะให้กูหมั้นกับนาดา แต่อย่าไปสน ..."
"ห๊ะ...!! หมั้น…!! ..."ทุกคนอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ
"เรื่องจริงเหรอ แล้วมึงว่าไงอ่ะ ..."ไทม์ถามขึ้น หลังจากที่เขาหายตกใจแล้ว เป็นใครจะไม่ตกใจ เพราะในกลุ่มก็รู้กันดีว่า ขันทองหนีนาดามาตลอด และนาดาก็ตามตื้อมาตลอดเช่นกัน
"กูไม่ตกลง แล้วก็ไม่มีทางตกลงด้วย ก็เลยมีเรื่องผิดใจกับแม่นิดหน่อย ..."ขันทองพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเงียบไป ในขณะที่เพื่อนๆยังนั่งงงกันอยู่