EP 8 - คู่ปรับเก่า
ที่หน้าฟลอร์
เมื่อมาถึงเพื่อนตัวดีสองตัวก็ดี๊ด๊ากันใหญ่ที่พายุมาร่วมด้วย อย่างที่ว่ามันเฟรนด์ลี่เข้ากับคนง่ายและกะล่อนแบบสุด ๆ ทำให้เข้ากับพวกเพื่อนของฉันได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมันหล่อ… ว่าไม่ได้
แล้วเราทั้งสี่ก็เต้นกันไปตามเพลง ฉันก็เต้นยั่วบ้าง เต้นเอามันบ้าง แล้วแต่อารมณ์ แล้วแต่เพลง
ระหว่างนั้น ไม่วายที่สายตาฉันจะเหลือบไปมองยังโต๊ะของพวกเราที่อยู่ตรงโซนวีไอพีเป็นระยะ ทว่าเมื่อมองไปทีไรก็เจอกับสายตาเพลิงจ้องมองมาตลอดอยู่เช่นกัน
ฉันเบนสายตากลับทำเป็นไม่สนใจ
แต่…
ก็ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรกับสายตาของเขา
มันทำให้ฉันหวั่นไหวเอามาก ๆ พยายามบอกตัวเองไม่สนใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปสบกับสายตาคู่นั้นอยู่ดี
“เต้นกัน” พายุสะกิดบ่าฉันให้หันไปหามัน ฉันเลยละสายจากเพลิงแล้วหันไปเต้นคู่กับพายุ ยั่ว ๆ บด ๆ ตามสไตล์ไปสักพักจนจบเพลง
“เพลงนี้ไม่มันว่ะ ขอพัก” ฉันบอกกับกลุ่มเพื่อนก่อนจะขอตัวเดินไปที่โต๊ะของพวกนางที่อยู่ใกล้กับฟลอร์ เมื่อมาถึงโต๊ะก็จัดการชงเหล้าเองแบบเข้ม ๆ ก่อนจะกระดกดื่มเป็นน้ำเปล่า
“อ่า”
รสชาติขมบาดคอใช้ได้เลย
แต่ก็นะ… รสชาติเหล้าถึงแม้จะขมบาดคอแต่ก็หวานบาดใจ ยังไงวันนี้ฉันก็สามารถเมาได้เต็มที่ เพราะอย่างน้อยก็มีไฟมาด้วย
ถ้าเมามากอย่างเก่งก็ให้มันแบกกลับแค่นั้น
เมื่อหมดแก้ว ฉันถึงกับก้มหน้ากุมศีรษะตัวเองเพราะเริ่มมึนจากฤทธิ์เหล้าบวกการที่เต้นแบบสุดเหวี่ยงเมื่อกี้ แถมเสียงเพลงรอบข้างที่ยิ่งดังกระหึ่มก็ยิ่งรู้สึกมึน
ทว่า…
“เฟียร์”
เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกฉันจากด้านหลัง ส่งผลให้ผงกหัวขึ้นมาพร้อมกับหันกลับไปมอง
“อ้าว พี่บากิ” ใบหน้าหล่อเหลาของพี่บากิที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดียืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมส่งยิ้มมาให้
“เพื่อน ๆ เราไปไหนกันหมดล่ะ”
“เต้นอยู่โน้นค่ะ” ฉันพยักเพยิดหน้าไปทางกลุ่มเพื่อนที่เต้นอยู่ เพื่อบอกให้พี่บากิหันไปยังตำแหน่งเพื่อนสาวที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนานกับพายุ
“ดูท่าจะสนุกกันอยู่นะ” เสียงพี่บากินิ่งลง สายตาที่มองไปทางเพื่อนของฉันกับพายุดูเรียบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด
หรือฉันคิดมากไปเอง ?
“เอ่อ… วันหลังขอชวนยูกิมาด้วยได้ไหมคะ เฟียร์ไม่ได้เจอยูกินานแล้วด้วย” ฉันหันไปยิ้มอ้อนให้กับพี่บากิที่กำลังละสายตาจากเฟมี่ นีน่า และพายุ แล้วหันมามองฉัน
แต่เขานิ่งและไม่ตอบอะไร
“นะคะ น้า” เมื่อเห็นพี่บากินิ่งไปฉันก็ส่งสายตาออดอ้อนไปหนึ่งกรุบ
ที่ต้องขออนุญาตพี่บากิก็เพราะ พี่บากิก็คือพี่ชายยัยยูกิ นั่นเอง
“เอาไว้พี่จะลองคิดดู”
แต่ทว่าในตอนนั้นเอง
“เฟียร์ !” พายุเดินมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มันตะโกนเรียกชื่อฉันเสียงดังน้ำเสียงคล้ายกับไม่พอใจ พร้อมกับคว้าหมับ ! จับที่ข้อมือฉันอย่างแรงก่อนจะฉุดกระชากฉันให้ลุกขึ้น
“อ๊ะ อะไรของนายเนี่ย !”
“กลับโต๊ะ !” พายุพูดกับฉันแต่สายตากลับจ้องไปที่พี่บากิเหมือนแทบจะกินเลือดกินเนื้อเลยก็ว่าได้
และ... มันก็กระชากฉันให้เดินตามมันมา
“นาย เป็นบ้าอะไรเนี่ย” ฉันบ่นตลอดทางที่โดนมันกระชาก เอาจริงนะ ฉันไม่เคยเห็นมุมนี้ของพายุเลยสักครั้ง เวลาโกรธสายตาของมันโคตรน่ากลัว ต่างกับเวลามันขี้เล่นราวกับคนละคน
“ไอ้บ้าเจ็บ เดินช้า ๆ หน่อยดิวะ”
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีสิทธิ์ทำฉันเจ็บ
“ปล่อยยยย ทำไมนายเป็นคนอย่างนี้ฮะ !!” ฉันตวาดพร้อมกับสะบัดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมของมันในทันทีที่เราสองคนเดินกลับมายังโต๊ะที่มีไฟกับเพลิงนั่งอยู่
“มีอะไรกันวะ” ไฟเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเลิกคิ้วขมวดอย่างสงสัย
“ก็มัน...” ฉันนั่งลงโซฟาอย่างแรงด้วยความไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ แต่หยุดพูดไว้เพียงแค่นั้น เพราะพูดไปก็เปล่าประโยชน์ มันพาเดินมาถึงตรงนี้แล้วนี่
ที่สำคัญไม่ใช่อะไร ฉันหงุดหงิดมากก็จริง แต่พอเจอสายตาของเพลิงตรงหน้าทำให้ฉันพูดไม่ออก มันเหมือนคล้าย ๆ โดนปรามให้หยุดโวยวายไปเอง
“ไอ้นั่นเป็นศัตรูพวกกู จะคุยหรือคั่วกับใครก็เลือกหน่อยดิวะ” พายุพูดออกมาอย่างหัวเสีย
ฉันหันไปมองหน้ามัน และถึงกับร้อง อ๋อ
เก็ทกับตัวเองในใจ
ก็ใครจะไปรู้ว่าพี่บากิเป็นศัตรูกับกลุ่มนี้ มิน่าเมื่อครู่พี่บากิก็นิ่งไปเหมือนกัน คงเพราะสาเหตุนี้สินะ
“ใคร ?” เพลิงเลิกคิ้วมองหน้าพายุพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
จากที่ฉันกำลังจะอ้าปากอธิบาย… ว่าไม่รู้
ไม่รู้มาก่อนว่าพี่บากิเป็นศัตรูกับพวกมัน ถึงกับต้องเม้มปากตัวเองให้ปิดสนิททันที
“ไอ้บากิ” พายุหันไปบอก ฟังจากเสียงนิ่ง ๆ และปฏิกิริยาของพายุ เดาว่าพี่บากิน่าจะเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของพวกนี้แน่ ๆ
แต่แล้วไง…
“ศัตรูพวกนาย แต่ไม่ใช่ศัตรูฉันนี่” ฉันพูดออกไปลอย ๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจ
ก็มันจริง…
พี่บากิคือพี่ชายของยูกิ ไม่ใช่ศัตรูฉันสักหน่อย
“เฟียร์ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะเว้ย ถ้ามันรู้ว่ามึงเป็นอะไรกับพวกกู แล้วมันทำให้มึงเดือดร้อนจะทำไง”
ไฟเตือนฉันด้วยน้ำเสียงซีเรียส คล้ายกับต้องการเตือนฉันอย่างจริงจัง
“ไม่มีทางอะ ฉันสนิทกับพี่บากิมาตั้งนาน เขาไม่มีทางทำให้ฉันเดือดร้อนแน่ ๆ ที่สำคัญฉันรู้จักกับพี่เขาก่อนนายพาฉันมาอยู่กลุ่มนี้ซะอีก”
ฉันเถียงไฟทันควัน
แต่ในตอนนั้นเอง
ปึง !
เสียงวางแก้วน้ำของเพลิงกระแทกเข้ากับโต๊ะเสียงดังจนฉันสะดุ้ง ! ฉันเหลือบมองเขาทางหางตา เห็นอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังรินเหล้าใส่แก้วที่เพิ่งถูกวางลงอย่างแรงเมื่อครู่
ก็ไม่อยากจะคิดอีกแหละว่า...
เขาทำใส่ฉันหรือเปล่า…
ไม่มั้ง บางทีเขาอาจจะแค่มือหนัก หรืออาจจะเมาแล้วกะระยะวางแก้วไม่ถูกก็เป็นได้
ทั้งที่บอกตัวเองแบบนั้น แต่ทำไมฉันถึงได้คิดมากกับท่าทีที่นิ่งเฉยของเพลิง
มันทำตัวไม่ถูกนะเว้ย !
“กูว่ามึงเลิกรั้น แล้วฟังที่พวกกูบอก” ไฟเอ่ยเสียงซีเรียสอีกครั้ง มันทำตัวอย่างกับเป็นพ่อฉันชัด ๆ
ซึ่งฉันไม่ชอบให้คนมาสั่ง
และไม่มีสิทธิ์มาสั่งด้วย !
จะให้เลิกยุ่งได้ยังไง ก็นั่นพี่ชายของยูกิซึ่งเพื่อนสนิทของฉันเหมือนกัน ไอ้พวกบ้านี่ไม่เข้าใจและไม่ฟังเหตุผลฉันเลยสักนิด
“ชิ” ฉันจิปากไม่พอใจ
“ไม่น่ามาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกนายเลย” ฉันเอ่ยพูดใส่พวกมันอย่างหัวเสีย ว่าจบฉันลุกสะบัดตัวเดินหนีจากพวกมันทันที
มันน่าหงุดหงิด !
หงุดหงิดอะไรก่อนดี ! มันน่าหงุดหงิดไปหมดเลย !