EP 7 - แค่เพื่อนกัน
“อยากเป็นของเล่นพวกมันกันนักหรือไง !” จากเสียงคุยเล่นกับเพื่อนก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเสียงเข้มดุขึ้นมาในทันที
“เอ๊ะ เดี๋ยวค่า หล่อนหงุดหงิดอะไรขึ้นมาคะ” เฟมี่หรี่ตาลงเหมือนจับผิด ก็นะ คนอย่างเฟียร์เคยเก็บสีหน้าอะไรได้ที่ไหน ถ้าไม่พอใจก็ดึงสีหน้าออกในทันที ยิ่งอยู่ดี ๆ หงุดหงิดแบบไม่มีสาเหตุขึ้นมาแล้วละก็...
ดูออกค่ะสาว !
“ใครหงุดหงิด ฉันก็แค่เตือนพวกแก”
“จ้า ไม่หงุดหงิดเลยเนอะ”
“อย่าว่าเฟียร์มันสิยัยเฟมี่ หล่อนก็คิดเอาเถอะ ยัยเฟียร์อยู่กับแก๊งหนุ่มหล่อขนาดนี้ ไม่หวั่นไหวเลยก็แปลก” นีน่าหันไปเอ็ดเฟมี่พลางหันกลับมาคุยกับเฟียร์ต่อ
“เออ ถามจริง แกอยู่กับพวกเขาแบบนี้ ไม่รู้สึกอะไรกับใครสักนิดเลยอะเหรอ”
ใช่ไหม สามหนุ่มเป็นถึงแก๊งหนุ่มฮอตประจำมหาวิทยาลัย ที่สาว ๆ แอบกรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แล้วเพื่อนสาวอย่างเฟียร์เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น จะไม่มีหวั่นไหวสักนิดก็ไม่น่าเป็นไปได้
“จะให้ชอบใครยะ ไอ้ไฟก็ญาติไหม ส่วนพายุก็ทั้งกะล่อนทั้งชอบกวนประสาท หมอนั่นตัดไปได้เลยไม่ใช่สเปก” เฟียร์ไล่เรียงจากคนที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้มากที่สุด เธอมองไปทางพายุก่อนที่สายตาเฉี่ยวจะไปหยุดมองอีกคนที่ไม่ได้เอ่ยถึง
“งั้นเพลิงนี่ใช่สเปกปะ” เฟมี่ขยับเข้ามาใกล้ พลางจับไหล่มนทั้งสองของเฟียร์ให้หันไปทางเพลิงชัด ๆ ไม่ว่าเปล่ายังเอียงหน้ากระซิบที่ข้างหูของเพื่อนพร้อมกับจ้องมองไปยังคนเดียวกัน
“หืม ทำไมเงียบ” นี่น่ามองสายตาของเฟียร์ที่มองเพลิงอยู่ ก่อนจะลอบยิ้มออกมา
เมื่อเฟียร์เงียบ ไม่ปฏิเสธและตอบรับโดยทันทีแบบนี้
แสดงว่า...
“ไม่คิดอะไร แค่เพื่อนกัน” เฟียร์ตอบไม่เต็มเสียงพร้อมกับละสายตาออกจากเพลิง
“ว้า แต่เพื่อนที่คบแกมาตั้งแต่มัธยมดูออกนะคะสาว” นีน่ายิ้มกรุ้มกริ่ม อาศัยความเพื่อนที่คบกับเฟียร์นานที่สุดเอ่ยขึ้น ก็นะ… ทั้งสายตาที่มองเพลิง ทั้งน้ำเสียงเวลาพูดถึงเขา มันปกปิดไม่ได้เลยสักนิด รับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนสาวเริ่มรู้สึกอะไรกับอีกคน
“อย่ามามั่ว” เฟียร์ส่ายหน้าปฏิเสธ ทว่าแววตาคู่เฉี่ยวที่เคยดูมั่นใจกลับฉายแววไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเอง
ก่อนที่เธอจะโดนเพื่อนสาวทั้งสองคนคาดคั้นมากกว่านี้...
“เฟียร์ !”
เสียงของพายุจากด้านหลังก็ตะโกนดังขึ้นเหมือนช่วยเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าเฉี่ยวรีบหันไปหาเพื่อนชายที่โบกไม้โบกมือเรียกเธอทันที
“ไปนะ ทำหน้าที่ก่อน” เฟียร์หันกลับมาบอกเพื่อนสาว เพราะการแข่งขันรอบแรกใกล้จะจบ เธอจะต้องไปโบกธงหมากรุกเมื่อรถคันแรกเข้าสู่เส้นชัยแล้ว
ร่างสวยหุ่นเซ็กซี่ในหน้าที่เรซควีนเดินกลับไปยังจุดโบกธง สายตาเฉี่ยวเหลือบไปเห็นเพลิงที่กำลังยกยิ้มตรงมุมปาก แต่สายตาเขากลับส่งไปทางด้านหลังเธอ
หึ… เฟียร์เดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนสาวทั้งสองกำลังโบกไม้โบกมือทักพวกเขาอยู่ และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อเธอหันไปมองยังเพื่อนสาวที่อยู่ด้านหลัง สองสาวกำลังท่าทางตามที่เฟียร์คิดเอาไว้ให้เพลิงและพายุด้วยท่าทางดี๊ด๊า
เกินเบอร์มาก !
…
เมื่อการแข่งขันจบลงทั้งสามแมตช์ ผลชนะคือ ไฟ เพลิง และพายุ ชนะผู้ท้าแข่งมาได้อย่างชิล ๆ จากนั้นทั้งหมดก็ชวนกันมาที่ผับประจำอย่างเช่นทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้แปลกกว่าทุกครั้งเพราะมีเฟียร์เพิ่มมาด้วย หลังจากที่เธอเริ่มสนิทกับพวกเขาก็ไปไหนมาไหนกับทั้งสามคนมากขึ้น
-Fear -
“สองสาวที่เธอยืนคุยด้วยเมื่อตอนเย็นคือเพื่อนเหรอ”
ฉันที่กำลังกระดกเหล้าเข้าปากหันไปมองพายุพร้อมทำตาขวางทันทีที่มันเอ่ยถึงนีน่ากับเฟมี่
“หยุดคิดเลย” เพราะฉันรู้ไงล่ะว่าไอ้บ้าพายุกำลังคิดอะไรอยู่ บังอาจมาก กับเพื่อนฉันมันก็ไม่เว้น !
“หวงเหรอ ?” มันถอยหน้าออกไปกระดกแก้วเหล้าในมืออย่างเซ็ง ๆ
“หวงดิ ไม่อยากให้เพื่อนมาเป็นของเล่นของพวกนาย” พวกนายในความหมายของฉัน ก็หมายถึงทั้งสามคนที่นั่งเก๊กหน้าหล่อ ๆ อยู่ตรงนี้ทั้งหมดนั่นแหละ และฉันก็จงใจพูดประชดถึงพวกมันทั้งสามคนด้วย
“หึ” ไฟแค่นหัวเราะในลำคอพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ คล้ายไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริง
“ได้ไงวะ ทุกคนที่เข้ามากูก็ไม่เคยบังคับเลยนะเว้ย เต็มใจกันทั้งนั้น” พายุยักไหล่ดูไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดที่ฉันประชดไปเลยสักนิด
“ค่า แต่ก็ควรเลือกบ้างเนอะ ไม่ใช่อะไรมาเข้าปากก็กินหมด” ฉันละหมั่นไส้มันสุด ๆ อย่างที่บอกว่าพวกนี้กินไม่เลือกจริง ๆ นั่นแหละ
“มึงด่ากูแต่สะเทือนไปทั้งโต๊ะ” พายุเบนสายตาไปหาอีกสองคนที่นั่งฟังอยู่เงียบ ๆ
ฉันก็หันไปตามสายตาของมันนะ แล้วก็เจอสายตาของเพลิงที่มองมาที่ฉันอยู่ก่อนแล้ว
สายตาแบบนั้นของเขาหมายความว่าไง
สายตานิ่ง ๆ ที่ชอบมองฉันอยู่ประจำแบบนั้น มันทำให้ฉันไม่เคยเดาความคิดเขาได้เลย
แม้จะรู้สึกประหม่ากับสายตาของเพลิง แต่ฉันก็ยังทำเป็นไม่แคร์พลางไหวไหล่เบา ๆ ให้พายุ ทั้งที่ความจริงภายในใจกำลังหวั่นไหวเพราะแววตาคู่คมของเพลิงเอามาก ๆ
“ชิ ใครจะรับก็รับไป ไปเต้นกับเพื่อนดีกว่า”
เพราะทนต่อสายตาจากเพลิงไม่ไหว สายตาของเขามันทำฉันรู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองยังไงก็ไม่รู้ ฉันเลยหาข้ออ้างเพื่อออกไปเต้นกับเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ตรงด้านหน้าฟลอร์ทันที
แต่พอฉันทำท่าจะลุก
“ไปด้วยดิ” พายุก็ลุกตามทันที
“ไม่ต้องมา ที่ด่าเมื่อกี้ไม่เข้าหูเลยหรือไง” ฉันแว้ดใส่ไปหนึ่งที
“ไม่สน เพราะเพื่อนมึงส่งสายตาเรียกกูมานานสองนานแล้ว” ไม่สนจริง ๆ เพราะมันพูดเสร็จก็เดินนำไปก่อนเลย
“ชิ” ฉันได้แต่จิปากใส่มันตามหลังและเดิมตามไปยังโต๊ะเพื่อน ๆ ที่เต้นกันอยู่