EP 1 - เธอชื่อเฟียร์
Bad Engineer 1 - เธอชื่อเฟียร์
จุดเริ่มต้น... ของเรื่องราวทั้งหมด
@มหาวิทยาลัย King
ร่างบางในชุดนักศึกษารัดรูปก้าวเท้าเข้ามาในพื้นที่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ท่ามกลางอุณหภูมิสามสิบแปดองศาของแสงแดดที่ร้อนจัด ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นวันแรก
สายตาคู่เฉี่ยวกวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อหาคนที่นัดเธอมาเจอ ทว่ากลับเห็นแต่สายตาจิกกัดจากบรรดานักศึกษาหญิงที่กำลังนั่งจ้องมองมาทางเรือนร่างเพรียว พร้อมกับท่าทางซุบซิบนินทาราวกับกำลังพูดถึงการมาเยือนของเฟียร์
“บ้าเอ๊ย ไอ้ไฟมันอยู่ไหนของมันวะ” เสียงหวานสบถออกมาอย่างหัวเสีย เธอทั้งร้อนทั้งรู้สึกรำคาญ แม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูง แต่ก็ไม่ชอบการตกเป็นเป้าสายตาผู้คน
ถึงอย่างนั้น ด้วยความที่เป็นคนสวย หุ่นดี ผิวขาวมีออร่า มองตรงไหนก็ไม่มีจุดบกพร่องเลยสักนิด ทำให้เธอโดดเด่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เดิน รวมถึงมีบุคลิกที่ดูเป็นสาวเฉี่ยวและเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง กอปรกับการแต่งกายด้วยเสื้อนักศึกษารัดรูปบวกกับกระโปรงสั้นโชว์ขาเรียวยาวบนส้นสูงหลายนิ้วที่น้อยนักจะมีนักศึกษาหญิงใส่กัน ทำให้ยิ่งเสริมความเด่นเป็นที่จับตามอง
เรียวคิ้วสวยบนใบหน้าเหวี่ยงขมวดกันเป็นปมอย่างไม่ชอบใจ ก่อนที่สายตาคู่เฉี่ยวจะกวาดมองรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาลูกพี่ลูกน้องของเธอ
ที่จะพอเห็น… ก็มีกลุ่มผู้ชายหลายกลุ่มนั่งตามโต๊ะหินอ่อนข้างทางเดิน ที่ต่างพากันมองเธอด้วยสายตาแทะโลมพร้อมกับรอยยิ้มชวนให้ขนลุก
ใบหน้าสวยทำมุมปากคว่ำด้วยความไม่ชอบใจกับสายตาพวกนั้น ดวงตาคู่งามกรอกตาฉวัดเฉวียนดึงสีหน้าพร้อมกับปรายตากลุ่มผู้ชายเหล่านั้นตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างนึกรังเกียจ ส่วนกลุ่มผู้หญิงที่เอาแต่จับกลุ่มซุบซิบนินทาก็เช่นกัน เธอตวัดสายตาเหวี่ยงใส่กลุ่มคนเหล่านั้นอย่างไม่แคร์
ก็ลองหาเรื่องสิ แม่พร้อมตบ !
หญิงสาวกลุ่มนั้นชะงักทันทีที่เห็นสายตาเอาเรื่องของเฟียร์ รีบกระวีกระวาดก้มหน้าหลบเป็นพัลวัน
“เฟียร์” เสียงทุ้มจากคนทางด้านหลังทำให้เจ้าของใบหน้าสวยสายตาเฉี่ยว เปลี่ยนเป็นหันไปเหวี่ยงใส่คนที่เรียกเธอแทน
“วันแรกก็เอาเลยนะ” ไฟเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ
“อะไร ! ฉันเดินมาของฉันเฉย ๆ นะ” ร่างบางไหวไหล่มนเบา ๆ อย่างไม่แคร์
ซึ่งมันก็จริง เธอเดินมาเฉย ๆ ของเธอ แต่คนพวกนั้นต่างหากที่มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอง
ก็แค่มองกลับ ผิดตรงไหน ?
“แต่สายตามึงอะ เบา ๆ ลงหน่อยเถอะถ้าไม่อยากย้ายมหา’ลัยอีก” ไฟเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
เฟียร์เป็นลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของเขา เนื่องจากหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนหน้าเหวี่ยงโดยเฉพาะสายตาที่พร้อมจะหาเรื่องคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอต้องย้ายมหาวิทยาลัยช่วงกลางเทอมปีสองแบบนี้ เพราะไปมีเรื่องกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดิม บวกกับความหน้าเหวี่ยงและนิสัยไม่ยอมใครแบบนี้
“ฉันไม่ได้เป็นคนอยากย้ายมหา’ลัยสักหน่อย” สายตาเฉี่ยวหันกลับมาสบตากับดวงตาคมกริบอย่างเอาเรื่อง
“เออ ๆ กูรู้ ปะ ไปคุยกันใต้ตึก ตรงนี้มันร้อน” ไฟตัดบทเพราะคนตรงหน้าเขาเริ่มจะร้อนยิ่งกว่าอากาศไปเสียแล้ว
“แต่ก็คงไม่ร้อนเท่าหัวฉันตอนนี้หรอก !” เสียงหวานแกมหงุดหงิดบ่งบอกอารมณ์ออกมาทั้งคำพูด สายตา และการกระทำ
“เออ ! กูเชื่อ !” ชายหนุ่มแอบบ่นพึมพำพร้อมกับเดินนำเข้าไปยังโรงอาหารที่มีเพื่อน ๆ ของเขานั่งรออยู่ที่นั่น
“เฮ้ย ๆ ไอ้ไฟเอาสาวที่ไหนมาวะ อย่างแจ่ม...”
พายุ เป็นคนแรกที่เห็นทั้งสองคนถึงกับรีบเอ่ยแซวในทันที เมื่อเพื่อนชายเดินเข้ามาพร้อมกับสาวสวยหุ่นดี แต่พอเห็นสีหน้าของร่างบางแสนสวยเท่านั้นแหละ คำพูดที่จะเอ่ยแซวเหล่านั้นได้กลืนลงคอไปจนหมดสิ้น
“พูดต่อดิ” ไฟที่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองกำลังจะพูดอะไรต่อแต่กลับหยุดไว้จนประโยคขาดห้วงหายไป เขาจึงท้าให้อีกฝ่ายพูดต่อให้จบประโยคที่อยากจะแซว
พายุได้แต่ส่ายหัวเม้มปากเอาไว้อย่างรู้ตัวว่าเจอกับคนที่ไม่ควรจะเล่นด้วย เพราะสายตาเฉี่ยวกับคิ้วขมวดและลุคดูแรงของหญิงสาวที่อยู่ทางด้านหลัง ทำให้บรรยากาศภายในโต๊ะเปลี่ยนไปทันทีที่ เฟียร์ เดินเข้ามา
“หวัดดี เราพายุ” แม้จะรับรู้ถึงรังสีอะไรบางอย่างในสายตาของร่างบาง แต่คนที่เข้ากับคนง่ายและกะล่อนอย่างเขาก็เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าหล่อที่ยิ้มแย้มเป็นกันเองตามสไตล์
“ดี เราเฟียร์” เสียงหวานแนะนำตัวเองกลับอย่างห้วน ๆ
“อย่างตึงสัส” พายุเอ่ยยกยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่เคยเจอใครแบบเธอมาก่อน ทั้งอึ้ง ทั้งแปลกใจ และประทับใจในเวลาเดียวกัน
“มึงเปลี่ยนมาชอบแบบนี้แล้วเหรอวะ” ก่อนจะหันไปทำท่าเอ่ยกระซิบถามไฟที่ยื่นอยู่ข้าง ๆ
“เชี่ยเหอะนี่ลูกพี่ลูกน้องกู เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันแรก คณะอะไรนะ ?” ไฟอธิบายให้เพื่อนฟัง ก่อนจะหันมาเอ่ยถามเฟียร์ที่ยืนอยู่อีกฝั่ง
“นิเทศฯ” เธอเอ่ยตอบลูกพี่ลูกน้องแต่สายตากลับจ้องมองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่นั่งก้มหน้ากำลังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ตรงหน้าเหมือนไม่ได้ใส่ใจต่อการมาเยือนของผู้มาใหม่เลย
“แล้วนั่น ?”
“มันชื่อเพลิง”