ตอนที่ 6 โสด
“แตม ธาม ทางนี้ ๆ” มิ้นที่เดินไปเข้าห้องน้ำและกำลังจะเดินกลับโต๊ะบังเอิญเห็นธามคีรีและเฌอแตมเดินเข้าประตูผับมาก็ยกมือเรียกเพื่อนทั้งสองแข่งกับเสียงดนตรี
ธามคีรีถือโอกาสที่นักท่องราตรีกำลังลุกเต้นเบียดเสียดกันแข่งกับเสียงเพลงที่กระหึ่มคว้ามือเฌอแตมเดินเข้าไปหามิ้นที่ยืนรออยู่ทางด้านหน้า
“ปล่อยมือได้แล้ว เดี๋ยวใครเขาก็คิดว่ามึงกับกูเป็นแฟนกันหรอก” ก่อนจะถึงที่โต๊ะเฌอแตมก็พยายามบิดข้อมือออกจากมือของธามคีรีที่จับเธอให้เดินฝ่าฝูงชนคนเที่ยวจนจะถึงโต๊ะที่เพื่อนคนอื่นนั่งอยู่โดยมีมิ้นเดินนำหน้า
“ผู้ชายที่อยู่ในนี้ไม่มีใครดีพอให้มึงอ่อยหรอก ไม่ต้องคิดอยากให้เสียของ”
“หึ่ย! หมาในปากมึงคลอดลูกหรือไงธาม กูไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นสักหน่อย กูก็แค่โสดมั้ย มาเที่ยวมันก็ต้องมีชายตามองหนุ่ม ๆ บ้าง ทีพวกมึงยังมองสาวเลยมันก็เหมือนกันนั่นแหละ” เฌอแตมสะบัดมือออกในจังหวะสุดท้ายก่อนที่จะเดินถึงโต๊ะที่มีแชมเปญและวายุนั่งอยู่
“มาแล้วเหรอวะ มานั่งนี่เลยไอ้แตมพวกกูเมาแล้วเนี่ย” แชมเปญขยับเก้าอี้ตัวข้างให้เฌอแตมนั่งพร้อมแก้วเหล้าจากวายุที่วางลงตรงหน้าทันทีที่เฌอแตมนั่งลง
“ขอบใจมากเพื่อนยุ เหมือนเดิมใช่มั้ย” เฌอแตมชูแก้วเหล้าถามวายุ
“เหมือนเดิมผสมน้ำล้วน” วายุตอบ พร้อมวางอีกแก้วที่ผสมโซดาลงตรงหน้าธามคีรี
“ขอบใจ” ธามคีรีบอกกับวายุก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“แล้วนี่มึงเอาเสื้ออะไรมาคลุมตัววะแตม ดูขัดหูขัดตาแปลก ๆ” แชมเปญถาม
“ก็กูรีบมาไงเลยไม่ได้เปลี่ยนผ้า ชุดข้างในมันเป็นชุดพีจีที่ใส่ทำงาน มันโป๊นิดหน่อยก็เลยเอาเสื้อที่ธามมันมาคลุม” เฌอแตมหันไปตะเบ็งเสียงบอกเพื่อนแข่งเสียงเพลงที่กำลังดัง
“โอ๊ย ไม่ต้องคลุมมันหรอกถอดออกเลย เวลานี้ไม่มีใครมาสนใจใครหรอกค่ะมึง ดูพวกกูค่ะ” แชมเปญชี้ให้เฌอแตมดูการแต่งตัวของตัวเองและมิ้น ก่อนจะยื่นมือไปหาเฌอแตมหมายจะถอดเสื้อแจกเก็ตที่เฌอแตมใส่ไว้ออกให้
“พวกมึงทำอะไรกัน” วายุถามเมื่อเห็นแชมเปญและเฌอแตมดึงเสื้อกันไปมา
“กูกำลังบอกให้มันถอดเสื้อตัวนี้ออก จะคลุมเพื่อ? มาเที่ยวผับไม่ได้ไปฟังเทศน์โชว์นิดโชว์หน่อยให้เป็นอาหารตาผู้ชายบ้าง” แชมเปญที่เริ่มเมาหันไปบอกวายุ
“แต่ว่า...” เฌอแตมยังลัลเลที่จะถอด
“หรือมึงกลัวไอ้ธาม” มิ้นที่เมาเหมือนกันโพล่งขึ้นมาจนเฌอแตมต้องรีบปฏิเสธ
“บ้า กูจะกลัวมันทำไม”
“ถ้าไม่กลัวมันจะเคืองที่มึงต้องสลัดเสื้อราคาแพงของมันออก มึงก็ถอดค่ะถอด” แชมเปญยังคงเร้าไม่เลิก
เฌอแตมหันไปมองธามคีรีแล้วก็ต้องใจหายวาบ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าว่าสายตาเรียบนิ่งที่มองมาที่เธอนั้นมันแฝงความดุดันแปลก ๆ แต่เธออาจจะคิดไปเองก็ได้
“หรือมึงจะดื่มย้อมใจอีกแก้ว” แชมเปญถาม
“ไม่ต้อง ถอดก็ถอดค่ะเพื่อน” เฌอแตมตัดสินใจถอดเสื้อคลุมที่เป็นแจ็กเก็ตของธามคีรีออกแล้วพาดไว้ที่เก้าอี้ ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าเธอจะเอียงอายหรือไม่เคยแต่งตัวโป๊ แต่คำพูดของธามคีรีก่อนที่จะมาที่นี่ต่างหากที่ทำให้เธอหมดความมั่นใจกับชุดที่ใส่
“ว้าว ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อน” แชมเปญร้องอย่างพอใจเมื่อเฌอแตมสลัดเสื้อตัวนอกออก เผยให้เห็นชุดสาวพีจีแบบเกาะอกสีแดงสดตัดกับผิวที่ขาวผ่องทั้งผมที่ยาวดัดเป็นลอนของเฌอแตมแล้วแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังปฏิเสธไม่ได้ว่าสวยแซ่บจริง
“พึ่งเคยเห็นมึงใส่เกาะอก สวยว่ะแตม” วายุที่ได้เห็นก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยชมเพราะเฌอแตมในลุคส์นี้สวยเซ็กซี่จริง ๆ
“มึงชมหรือมึงพิศวาสมันกันแน่” แชมเปญหันมาหาวายุ
“ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนกูคงต้องตอบว่าพิศวาสว่ะ แต่มันคือเพื่อนกูคงตอบได้แค่ว่ากูชม” วายุตอบตามจริง
“มึงล่ะธาม ไม่ชมมันหน่อยเหรอวะ” มิ้นถามธามคีรีที่เอาแต่ดื่มเงียบ ๆ
ธามคีรีใช้สายตาที่ไม่มีใครอ่านออกมองเฌอแตมโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่นจนหมดแก้วแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้น
“มึงจะไปไหน” วายุรีบถามคนที่พึ่งมาแต่ทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะไปอีก
“ข้างนอก” เสียงเรียบบอกแล้วลุกเดินออกจากโต๊ะไปทันที
“อะไรวะ ไอ้ชินกับไอ้เฟียสยังไม่กลับมาไอ้ธามชิงไปอีกคนอีกละ” วายุบ่นเซ็ง ๆ
“ มึงไปเลยค่ะเพื่อนจะออกไปรมควันหรือหลีสาวก็เชิญพวกมึงไปเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงพวกกู พวกกูก็จะหลีหนุ่มเหมือนกัน” แชมเปญหันมาบอกกับวายุ
“ไม่ได้! พวกมึงเป็นผู้หญิง แล้วดูรอบ ๆ สิมีแต่คนเมาทั้งนั้นกูก็บ่นไปงั้นแหละ” วายุยังคงรักษากฎของกลุ่มอย่างเหนี่ยวแน่นแม้ว่าจะอยากออกไปสมทบกับพวกผู้ชายด้านนอกก็ตาม
เฌอแตม แชมเปญ มิ้น ใช้เวลาในชั่วโมงสุดท้ายก่อนผับเลิกดื่มอย่างคุ้มค่ากับเวลา แชมเปญ และมิ้นดูจะไปไกลกับคำว่ากรึ่มมาก ในขณะที่เฌอแตมนั้นก็เริ่มมึนไม่น้อย ทั้งสามสาวเดินออกมาเต้นตรงทางเดินที่ไม่ห่างจากโต๊ะที่นั่งมากนัก ซึ่งตอนนี้ทางเดินนั้นกลายเป็นฟลอร์สำหรับนักเที่ยวและนักดื่มไปแล้ว
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มทักทายพร้อมยื่นแก้วมาตรงหน้าของเฌอแตมเพื่อขอชนแก้ว
เฌอแตมที่ตอนนี้เริ่มกรึ่มได้ที่หยุดเคลื่อนไหวร่างกายที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกพร้อมแชมเปญและมิ้น เมื่ออยู่ ๆ มีมิตรใหม่เดินเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานใสทักทายกลับพร้อมยื่นแก้วที่อยู่ในมือไปทักทายมิตรภาพใหม่ที่เข้ามา
“ชื่อเอ็มครับ ถ้าจำไม่ผิดเรียนอยู่บริหารใช่มั้ยครับ” หนุ่มหล่อหน้าเข้มแนะนำตัวเองก่อนจะถามยิ้ม ๆ พร้อมส่งสายตาที่หยาดเยิ้มไปให้เป้าหมาย
“รู้จักด้วยเหรอคะ” เฌอแตมเอียงคอถามคล้ายแปลกใจที่อีกฝ่ายรู้จักเธอ
“สาวสวยคณะบริหารมีไม่เยอะหรอกครับ โดยเฉพาะสาวสาวดาวคณะ”
“หืม เหมือนเจอแฟนคลับ” แชมเปญที่เห็นเฌอแตมมีผู้ชายเข้าหาก็หยุดเต้นแล้วเข้าไปมีส่วนร่วม
“จะให้บอกชื่อด้วยหรือเปล่า ว่าชื่อะไรกันบ้าง” เอ็มคล้ายอยากบอกให้รู้ว่าเขาสนใจพวกเธอมานานแล้วโดยเฉพาะสาวสวยนามว่าเฌอแตม
“ว้าว! ดูจะรู้จริง ไหนว่ามาสิใครชื่ออะไรบ้าง” มิ้นที่เข้ามาแจมอีกคนถามชายหนุ่มตรงหน้าพวกเธอ
“เฌอแตม แชมเปญ แล้วก็…มิ้น” เอ็มไล่ชื่อทีละคน ในช่วงที่เพลงบนเวทีจบลงพอดี
“มึงดูนั่น เหยื่อกำลังติดกับแต่ไม่รู้ใครจะเป็นกับใครจะเป็นเหยื่อ” เตชินเอ่ยขึ้นมาเรียกให้ทุกสายตามองไปที่กลุ่มเพื่อนสาว
“ไอ้ผู้ชายนั่นใครวะหน้าคุ้น ๆ” เฟียสพูดพร้อมทำท่าครุ่นคิด
“ ไอ้เอ็มคณะวิศวะปี 3” เสียงที่เรียบห้วนของธามคีรีตอบเพื่อน
“ห่าละ งั้นไม่ต้องเดาแล้วว่าใครจะเป็นเหยื่อใครจะเป็นกับ ถ้าเหยื่อติดกับมันก็ต้องผู้หญิงนั่นแหละที่เป็นเหยื่อ อยู่ที่ว่าไอ้หมอนั่นมันเลงเหยื่อคนไหนไว้” วายุพูดราวกับรู้นิสัยผู้ชายที่เข้ามาสานสัมพันธ์กับเพื่อนสาวดี
“จะคนไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ พวกมันเป็นผู้หญิงมีแต่เสียกับเสียมึงก็รู้สันดานไอ้หมอนั่นดี ใครจะออกไปกันหมา” เตชินถามออกมา
พวกผู้ชายหันมามองหน้ากันก่อนจะหันไปประเมินสถานการณ์ที่กลุ่มเพื่อนสาวอีกครั้ง จู่ ๆ สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อธามคีรีเสนอตัวว่าจะไปเป็นไม้กันหมาให้พวกผู้หญิง
“กูเอง” เสียงเรียบเอ่ยก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้งแล้วลุกเดินตรงไปยังเป้าหมายทันที
“กูหูฝาดหรือว่าตาฝาดหรือเปล่าวะ” เฟียสเอ่ยออกมาแบบงง ๆ การที่ธามคีรีผู้ที่ชอบใช้สมองแก้ปัญหามากกว่าการปะทะซึ่ง ๆ หน้าออกตัวไปเป็นไม้กันหมาให้กลุ่มเพื่อนสาวด้วยตัวเองมันเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน ปกติจะเป็นเขากับไอ้วายุ มากกว่าที่ชอบเผชิญหน้า ส่วนไอ้ธามกับไอ้ชินจะเป็นแบล็คให้อีกทีหนึ่ง
เป๊าะ!!
“โอ๊ย! มึงดีดหน้าผากกูทำไมไอ้วายุ” เฟียสทั้งตกใจทั้งเจ็บที่ถูกวายุดีดหน้าผาก
“หูตามึงยังฝาดอยู่มั้ย เห็นชัดหรือยังว่ามันเดินไปโน่นแล้ว” วายุโบ้ยหน้าไปทางที่เพื่อนสาวทั้งสามยืนอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า และตอนนี้ธามคีรีก็กำลังเดินไปหาพวกเธอ
