บทนำ
บทนำ
‘ไอร์’ กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองดูลูกสาววัยสี่ขวบ ตักไอศกรีมเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองอยู่ในร้านไอศกรีมแห่งหนึ่งย่านธุรกิจใจกลางเมืองหลวง วันนี้เจ้าตัวมีนัดกับ ‘ต๋อง’ เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสี่ปี หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย
ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยจนถึงวันนี้ ไม่นานหลังจากนั้นคนคุ้นเคยที่ไม่ได้เจอกันเสียนานก็เดินยิ้มมาแต่ไกล
“โทษทีว่ะพอดีติดรถมันติด” เมื่อเดินมาถึงเสียงเข้มก็เอ่ยขอโทษเพื่อนที่มาช้ากว่ายี่สิบนาที ช่วงเวลาสี่ปีที่ห่างกันทำให้ความสนิทสนมและคุ้นเคยในอดีต มันไม่แน่นแฟ้นเหมือนแต่ก่อน ทั้งสองยังอาย ๆ ไม่กล้าสบตากันดีนักได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ให้กัน
“ไม่เป็นไร ทำอย่างกับกูไม่เคยรอมึงงั้นล่ะ” ไอร์ยิ้มเหมือนที่เคยยิ้มให้ก่อนจะหันไปหาลูกสาว “น้องอันดาไหว้ลุงต๋องสิคะ” เขาบอกกับลูกสาวตัวเล็กที่กำลังสนใจไอศกรีมในถ้วยอยู่
“สวัสดีค่ะลุงต๋อง” เจ้าตัวเล็กยกมือไหว้อย่างนอบน้อม สมกับที่ถูกเลี้ยงดูสั่งสอนมาเป็นอย่างดี
“สวัสดีครับคนสวย หนูกี่ขวบแล้วครับ”
“น้องอันดาสี่ขวบแล้วค่ะ”
“น่ารักน่าชังเชียว” ต๋องมองลูกสาวของเพื่อนรักด้วยความเอ็นดู พลางนึกสงสัยในใจว่าเพื่อนแต่งงานตั้งแต่ตอนไหน ทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน และที่สำคัญมันไม่น่าเป็นไปได้ที่เพื่อนจะ...แต่งงานกับผู้หญิง “นี่มึงแต่งงานตอนไหนวะกูไม่เห็นรู้เรื่อง” เมื่อได้ยินคำถามเจ้าตัวถึงกับหน้าชาขึ้นมาทันที เขากลัวเหลือเกินว่าจะมีพิรุธจนอีกคนสงสัย
“อย่าถามถึงเรื่องนี้เลย กูไม่อยากพูดถึงมันอีก รู้แค่ว่ากูมีลูกสาวที่น่ารักคนนี้ก็พอแล้ว” เขายิ้มให้เพื่อนก่อนจะถามต่อ “แล้วมึงล่ะแต่งงานมีลูกรึยัง” เขาไม่อยากถามคำถามนี้เลย เพราะกลัวคำตอบที่ได้ยินมันจะทำให้เจ็บปวด แค่ห่างกันมาสี่ปีเขาก็เจ็บปวดมากพอแล้ว
“นี่ล่ะที่กูนัดมึงมาวันนี้ กูจะเอาการ์ดงานแต่งมาให้มึง” แม้จะเป็นการแจ้งข่าวที่น่ายินดีให้กับเพื่อน แต่สายตาคมกลับไม่กล้ามองใบหน้าที่คุ้นเคย เพราะกลัวจะเห็นความเจ็บปวดของอีกคน เขาไม่แน่ใจว่าไอร์ยังคิดกับเขาแบบนั้นอยู่อีกหรือเปล่า แต่แต่งงานทั้งทีเขาก็อยากให้เพื่อนคนนี้ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย หยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เพื่อน
ไอร์พยายามบังคับมือไม่ให้สั่นแต่มันก็ทำไม่ได้อยู่ดี เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาไปรับการ์ดสีชมพูใบนั้นมา ส่วนใบหน้าสวยก็ยิ้มแห้ง ๆ ให้อย่างฝืนทน
“ยินดีด้วยนะเพื่อน ในที่สุดมึงก็เจอคนที่ใช่ซะที แล้วผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใครกันวะ” เขาพยายามฝืนถามออกไป แม้ข้างในจะร้องไห้โฮอยู่ก็ตาม
“เป็นรุ่นน้องที่ทำงานว่ะ” ต๋องตอบกลับอย่างไม่เต็มเสียง
ระหว่างที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดอยู่นั้น ลูกสาวตัวเล็กของไอร์ก็เอ่ยขึ้นมา...
“คุณแม่คะน้องอันดาหิวน้ำ”
ต๋องหันขวับไปมองหน้าเพื่อนรักด้วยความสงสัย เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหมที่เด็กคนนั้นเรียกไอร์ว่าแม่
“ทำไมลูกถึงเรียกมึงว่าแม่...บอกกูมา!” เขาจ้องหน้ารอคำตอบอย่างไม่วางสายตา หวังว่าเด็กคนนี้คงไม่ใช่ลูกของเขาหรอกนะ แค่ครั้งเดียวในคืนนั้นมันจะเป็นไปได้ไหม...ต๋องคิดในใจ
“เอ่อ....คือว่า”
8 ปีก่อนหน้านี้..........