เพื่อนที่รักอยากให้สุดใจ

16.0K · อัพเดทล่าสุด
นกกระจิบ
12
บท
9
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขา...แอบรักเธอมาทั้งชีวิต แต่ได้อยู่ข้างเธอแค่ในฐานะ ‘เพื่อนสนิท’ เธอ...เพิ่งถูกคนรักเก่าทิ้งอย่างไม่ใยดี แล้วหันมาพึ่งพิงเขาในวันที่หัวใจพัง หนึ่งค่ำคืนของความอ่อนแอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ไม่อาจย้อนคืน เมื่อเขารักเธอมาก...จนยอมปลอบใจด้วยร่างกายแต่ยิ่งใกล้ ยิ่งลึก ยิ่งห้ามใจไม่ไหวและเธอก็เริ่มหวั่นไหว...ในวันที่เขาไม่ใช่แค่เพื่อนอีกต่อไป “

นิยายรักโรแมนติกหนุ่มเจ้าสำราญแบดบอยคู่รักลิขิตโรแมนติกความอยากเป็นเจ้าของเจ้าเล่ห์18+

ตอนที่ 1 เพื่อนคนเดิม

ตอนที่ 1

เพื่อนคนเดิม

ค่ำคืนวันศุกร์อันเงียบเหงาถูกปกคลุมด้วยม่านฝนพรำไม่ขาดสาย เสียงเม็ดฝนที่กระทบลงบนหลังคาและหน้าต่างกลายเป็นบทเพลงเศร้าคลอเคลียบรรยากาศภายนอกที่เย็นยะเยือก แต่ภายในห้องพักของเขา แสงไฟสีนวลยังคงสว่างไสว เปล่งประกายอบอุ่นเหมือนกำลังรอคอยการมาเยือนของใครบางคน

“ธีร์...”

เสียงเรียกชื่อเขาดังมาจากโทรศัพท์ที่สั่นเบา ๆ บนโต๊ะกระจกใสสะอาด ชื่อของเธอปรากฏหราบนหน้าจอ พร้อมกับภาพโปรไฟล์ที่เขาเลือกเก็บไว้ตั้งแต่วัยมัธยมปลายภาพใบหน้ายิ้มหวานสดใสที่เขาเคยเฝ้ามองมานับพันวัน

แต่ทว่า เสียงของเธอในยามนี้กลับแผ่วเบา สั่นเครือจนจับใจ ราวกับคนที่กำลังร่ำไห้จนแทบสิ้นเรี่ยวแรงจะเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้

“ฮึก...นายอยู่ไหน ขอฉันไปหาหน่อยได้ไหม ฉัน...ฉันไม่เหลือใครเลย”

หัวใจของธีร์หล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ความรู้สึกหน่วงหนึบแล่นไปทั่วทั้งร่าง เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยถามเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะลึก ๆ แล้วเขารู้ดีว่าผู้ชายคนนั้นกำลังจะเดินจากชีวิตเธอไปตลอดกาล และนี่...คือโอกาสที่เขาเฝ้ารอมานานแสนนาน โอกาสที่จะได้เข้าไปยืนอยู่ตรงจุดที่เคยเป็นช่องว่างในใจเธอเสมอมา

เพียงสิบห้านาทีต่อมา เสียงกริ่งประตูที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น ร่างบางของพริมปรากฏอยู่ตรงหน้าในสภาพเปียกปอนไปทั้งตัวจากสายฝนที่กระหน่ำลงมาไม่หยุดหย่อน เสื้อเชิ้ตสีขาวบางเฉียบที่แนบเนื้อจนเผยให้เห็นทรวดทรงข้างในอย่างเด่นชัด กางเกงยีนส์ขาวยาวก็เปียกปอนไปตามกัน เรือนผมสีน้ำตาลเข้มเปียกลู่แนบใบหน้าขาวซีด ใบหน้าหวานซึ้งที่เคยสดใสบัดนี้กลับบวมช้ำจากอดีต มือเรียวเล็กยกขึ้นกอดตัวเองราวกับกำลังพยายามปลอบประโลมความเจ็บปวดที่เกาะกุมอยู่ภายใน สะโพกผายที่เคยงดงามกลับส่ายไหวเล็กน้อยจากการทรงตัวที่ลำบากเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เริ่มออกฤทธิ์

“เข้ามาก่อน เดี๋ยวไม่สบาย”

ธีร์เอ่ยเสียงพร่าพลางรีบคว้าแขนเรียวเล็กของเธอเบา ๆ แล้วพาเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวัง มือของเขาสั่นระริก ทว่าไม่ใช่เพราะความหนาวเหน็บจากอากาศภายนอก แต่เป็นความตื่นเต้นที่ปะปนกับความห่วงใยอันท่วมท้น พริมในยามนี้ดูราวกับลูกแมวน้อยที่บาดเจ็บ ดวงตาคู่สวยบวมช้ำจนแทบจะปิดไม่ลง หน้าอกเล็ก ๆ กระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วจากการพยายามกลั้นสะอื้นที่กำลังถาโถม

เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกแนบเนื้อเผยให้เห็นเงารูปร่างและผิวพรรณภายในอย่างชัดเจน ราวกับจงใจจะดึงดูดสายตาของเขาให้หลุดโฟกัสไปจากความทุกข์ระทมที่เกาะกินเธออยู่

“เขาบอกว่าฉันน่ารำคาญ...เขาไม่รักฉันแล้ว”

เสียงของเธอขาดห้วงพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อท่วม ดวงตาแดงก่ำจับจ้องไปที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างไร้จุดหมาย เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาเล็ก ๆ กลางห้องราวกับไร้เรี่ยวแรงจะยืนอยู่ได้อีกต่อไป

ธีร์ทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเธออย่างอ่อนโยน มือหนึ่งจับมือเรียวเล็กของเธอไว้แน่น อีกมือหนึ่ง ค่อย ๆ ปาดเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มใสอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาอ่อนโยนเกินกว่าคำพูดใด ๆ จะบรรยาย

“แล้วเธอคิดว่าฉันยังอยู่ข้างเธอทำไม...”

เสียงของเขาต่ำพร่า นุ่มลึก ราวกับมนตร์สะกดที่ต้องการจะปลอบโยนและเยียวยาบาดแผลในใจของเธอไปพร้อมกัน คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความหมายที่ซ่อนเร้น ความรู้สึกที่เก็บงำมานานปี

“เธอไม่ต้องการเขาอีกแล้ว...เพราะเธอยังมีฉัน”

เวลาเคลื่อนคล้อยไปอย่างเชื่องช้า เสียงฝนภายนอกที่เคยเป็นเพลงเศร้า บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงเสียงรองพื้นที่เติมเต็มความเงียบที่อบอวลไปด้วยอารมณ์สั่นไหว พริมวางแก้วเบียร์ที่อยู่ในมือลงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอนตัวลงซบไหล่กว้างของธีร์อย่างแสนอ้อนวอนราวกับต้องการที่พึ่งพิง

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแชมพูที่ติดอยู่บนเรือนผมของเธอ ผสมผสานกับกลิ่นฝนจาง ๆ จากผิวกาย ทำให้ธีร์ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก รับเอาความหอมละมุนนั้นเข้าไปเต็มปอด ความใกล้ชิดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก่อเกิดความหวั่นไหวในหัวใจของเขา

“ถ้าเธอไม่เหลือใคร...ก็อยู่ตรงนี้ อยู่กับฉัน” เขากระซิบชิดข้างหูเธอ เสียงพร่าแหบพร่าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากลมหายใจของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย

เธอหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเขาช้า ๆ ดวงตาที่แดงช้ำจากการร้องไห้สบเข้ากับดวงตาคมเข้มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาในชีวิต ริมฝีปากของเขาขยับเข้ามาใกล้...ใกล้...จนลมหายใจอุ่นร้อนรินรดกันและกัน ความประหม่าและความรู้สึกบางอย่างผสมปนเปกันในอากาศ

แต่แทนที่เธอจะผละหนีหรือผลักไส เธอเลือกที่จะหลับตาลงอย่างช้า ๆ เป็นการอนุญาตให้เขาทำในสิ่งที่หัวใจเขาปรารถนา

จูบแรกของเขานุ่มนวล อ่อนโยนจนหัวใจของเธอสั่นสะท้าน ริมฝีปากของเขากดทับลงมาอย่างแผ่วเบา ราวกับกำลังปลอบประโลมจิตใจที่บอบช้ำ ไม่ใช่เพื่อการครอบครอง แต่เพื่อเยียวยาบาดแผลที่ฝังลึกในวิญญาณ

พริมขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะยกมือเรียวเล็กขึ้นวางทาบบนแผงอกของเขา สัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวไม่แพ้กัน เธอไม่ได้มีท่าทีจะผลักไสเขาออกไปเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เธอยิ่งขยับกายให้แนบชิดยิ่งขึ้นไปอีก จนร่างบางของเธอเคลื่อนขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาโดยไม่รู้ตัว

“นาย...อย่าปล่อยฉันได้ไหม”

เธอพูดเสียงแผ่วเบาชิดริมฝีปากของเขา สายตาที่เต็มไปด้วยความเว้าวอนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมเข้มของธีร์

“คืนนี้...ขออยู่กับฉันหน่อย...ในฐานะอะไรก็ได้”

คำขอร้องที่เต็มไปด้วยความเปราะบางนั้นเปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่จุดประกายไฟแห่งความปรารถนาให้ลุกโชนขึ้นในอกของธีร์

ธีร์รั้งเธอเข้าสู่อ้อมกอด กระชับแน่น ร่างของทั้งคู่แนบชิดกันจนไม่เหลือช่องว่างของอากาศระหว่างกันเลยแม้แต่น้อย มือของเขาค่อย ๆ ลูบไล้แผ่นหลังของเธอขึ้นลงอย่างอ่อนโยน สัมผัสที่ปลอบประโลมผสมผสานกับความเร่าร้อนที่เริ่มก่อตัวขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาเป่ารินรดอยู่ตรงต้นคอ ทำให้เธอขนลุกวาบไปทั้งร่าง

“คืนนี้...เธอจะเป็นของฉัน” เสียงของเขาพร่า กระซิบชิดริมหู

“และฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกเลย”