บท
ตั้งค่า

ตอนที่4 เริ่มต้นไล่ล่า

ภายในห้องพักห้องหนึ่งของโรงเตี๊ยมแห่งเดิม ร่างงามสง่าของจ้าวจิ่นหลงยังคงนั่งสงบเรียบนิ่งอยู่ในนั้น เขาเพียงนั่งนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น เมื่อได้รับฟังความจากลูกน้องของเขาที่ได้ไปสืบทราบมาให้ได้ยิน

ข่าวที่ได้รับฟังคำการรายงานจากลูกน้องของเขานั้น เป็นข่าวคราวประวัติความเป็นมาของสตรีนางหนึ่ง

นางผู้ซึ่ง...

ได้ตัวเขาแล้ว...

กลับไม่รับผิดชอบ!

“นางเป็นอดีตองค์หญิงของแคว้นเฉินแห่งนี้นามว่าเฉินเจียวเหมยพะย่ะค่ะองค์ชาย นางสร้างเรื่องจนถูกถอดยศสืบเนื่องมาจากไม่ยินยอมที่จะเป็นองค์หญิงบรรณาการพะย่ะค่ะ”

คำกล่าวรายงานยาวเหยียดของสายสืบประจำตัวแห่งจ้าวจิ่นหลงทำเอาจ้าวจิ่นหลงถึงกับเลิกคิ้วคมเข้มขึ้นอย่างฉงน

สายสืบยังคงเอ่ยคำอย่างต่อเนื่องไม่มีตกหล่น “ในปีนั้นเป็นปีที่นางจะต้องเดินทางไปเป็นองค์หญิงบรรณาการให้แก่องค์ชายนะ พะย่ะค่ะ”

“หืม...” จ้าวจิ่นหลงถึงกับส่งเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“องค์หญิงบรรณาการแห่งข้าเช่นนั้นหรือ”

“พะย่ะค่ะ” สายสืบก้มหัวรับคำอย่างมั่นอกมั่นใจ

จ้าวจิ่นหลงเริ่มหรี่ตาลงเพื่อคบคิดแลวิเคราะห์

ในปีนั้นเขาที่เป็นองค์ชายแคว้นจ้าวจะต้องเดินทางมาเชื่อมสัมพันธ์กับองค์หญิงบรรณาการของแคว้นเฉินเพื่อให้สัญญาสงบศึกเป็นที่สมบูรณ์ แต่ทว่า...เมื่อมาถึงแคว้นเฉินแล้ว กลับกลายเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ทั้งหลายที่ต่างพากันมารอต้อนรับเขา แทนที่จะเป็นองค์หญิง

ในปีนั้นฮ่องเต้แคว้นเฉินทรงให้เหตุผลว่าองค์หญิงที่มียังทรงอ่อนเยาว์เกินไป พวกนางยังคงอยู่ในวัยเพียงไม่เกินห้าหนาวเท่านั้น และต่อมาอัครเสนาบดีหลิวจึงได้นำตัวบุตรสาวของเขานามว่าหลิวหลีมาแนะนำตัวให้แก่เขา และนางก็ได้ทำการอุกอาจคุกเข่าขอร้องบิดาของนางต่อหน้าเขาว่าต้องการเพียงนายทหารคนหนึ่งคนเดียวเท่านั้น นายทหารท่านนั้นนามว่าจูหยวนจาง เขาเองก็รู้จัก แน่นอนว่าจูหยวนจางก็รู้จักเขา

นั่นจึงทำให้เขาลงสัญญานามสงบศึกมือเปล่าโดยไม่ได้สตรีบรรณาการกลับไป

จ้าวจิ่นหลงหรี่ตาคมเข้มสีนิลลงพลางคิด

เฉินเจียวเหมยอย่างนั้นหรือ?

องค์หญิงบรรณาการที่บังอาจหนีเขาไปอย่างนั้นหรือ

นางหนีเขาไปแล้วคราหนึ่ง อย่างนั้นหรือ

อันใดกัน?

ครั้งนั้นนางหนีเขาไปอย่างไม่ใยดีก็ว่าหนักหนาพอตัวอยู่แล้ว

แต่ครั้งนี้...

นางหนีเขา

ทั้งๆ ที่...

นาง...

นาง...

ฮึ่ม! ยิ่งคิดยิ่งอับอาย เสียเชิงชายอย่างยิ่งยวด

นางเป็นสตรีชนิดใดกัน

ไยถึงทำกับเขาได้ถึงเพียงนี้

เขาที่เป็นถึงบุรุษผู้สูงศักดิ์

เขาที่มีรูปร่างสง่างามสมส่วน

เขาที่มีใบหน้าหล่อเหลาเหนือชาย

เขาที่มีดีทุกอย่างทุกด้านเหนือบุรุษทั้งหลาย

แต่นาง...

นางกลับทำกับเขาเยี่ยงนี้

ได้อย่างไรกัน?

เมื่อจ้าวจิ่นหลงคิดได้อย่างนั้น คิ้วคมเข้มพลันขมวดเข้าหากันมุ่น ใบหน้าได้รูปคมคายพลันตึงเครียด รูปร่างสง่างามสมส่วนพลันกระตุกลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ก่อนเอ่ยสั่งการด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทรงพลัง

“ข้าจะต้องไล่ล่านางให้มาเป็นชายาของข้าให้จงได้”

จบคำจ้าวจิ่นหลงเพียงยกยิ้มมุมปากสีแดงสดอย่างเจ้าเล่ห์ดุดัน ด้วยมาดของผู้สูงศักดิ์เปี่ยมพลังเหลือร้าย

ภายในโรงหมอของเฉินเจียวเหมย

หญิงสาวยังคงนั่งต้มยาห้ามครรภ์อย่างหมายมาดไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากวิ่งหนีบุรุษผู้หนึ่งอย่างนึกอับอายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ก่อนจะวิ่งวกวนกลับเข้ามายังโรงหมอแห่งนี้

นางดื่มไปแล้วหลายหม้อ แต่นางก็ยังคงต้องดื่มต่อไป

ดื่มจนกว่านางจะมั่นใจว่านางจะไม่ตั้งครรภ์อย่างแน่นอน

อา...

บุรุษอะไร

ช่างมีเรี่ยวแรงมากมายมหาศาล

เขากระทำการอย่างนั้นกับนางอยู่จนตลอดเกือบทั้งคืน

ทำอยู่หลายครั้งหลายครา

ทำแล้วทำอีกอยู่นั่นล่ะ

ฤทธิ์ของยาสูตรพิเศษก็ช่างเหลือร้าย

ไยนางถึงเป็นหมอที่เก่งกาจปานนี้กัน ผสมยาที่มีอิทธิฤทธิ์ร้ายแรงเยี่ยงนั้น ได้อย่างไร...

น่าเจ็บใจยิ่งนัก

ยิ่งคิดยิ่งอับอาย

อับอายเหลือจะกล่าว

นางจะทำอย่างไรดี

ในขณะที่เฉินเจียวเหมยยังคงนั่งครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องราวของตนเองอยู่นั้นเสียงประตูโรงหมอพลันเปิดออกเสียงดัง

เฉินเจียวเหมยไม่เสียเวลาหันหลังไปมอง นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปทางหลังโรงหมอในทันที

บุคคลที่เข้ามาในโรงหมอแห่งนี้ถึงกับงุนงง เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่ต้องการมาหาซื้อยาไปกินแค่เพียงเท่านั้น

ไยท่านหมอต้องหนีเขาไป เขาไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริงๆ แล้วจะหยิบยาไปต้มกินเองได้หรือไม่กัน ชาวบ้านท่านนั้นได้แต่ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจในชีวิตของตนเอง

เฉินเจียวเหมยที่ลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีมาทางด้านหลังของโรงหมอเป็นผลสำเร็จแล้วนั้น นางจึงหยุดยืนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเหลือกำลัง

อา...

ไม่ดีแน่

หากยังเป็นอย่างนี้อยู่ไม่ดีแน่ๆ

ชีวิตอันแสนจะอิสรเสรีและสงบสุขของนาง ต้องหายไปจากชีวิตน้อยๆ นี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

นางควรจะทำอย่างไรดี

นางจะลืมเรื่องคืนนั้นไปได้หรือไม่

นางควรลืมมันเสีย

อย่าได้ใส่ใจ

นางต้องไม่ใส่ใจ

นางต้องลืมมัน

ลืมมันให้จงได้

ลืมมันไป...

เมื่อเฉินเจียวเหมยคิดได้อย่างนั้นแล้ว นางจึงยืนตั้งสติ ทำสมาธิ แล้วเพียงหลับตา

หญิงสาวยืนหลับตาพิงกำแพงหลังโรงหมออยู่อย่างนั้น

นางยังคงกำหนดลมหายใจเข้าออกอยู่อย่างนั้น เพื่อที่จะได้ตั้งจิตภาวนา ให้นางได้ลืมเลือนมันเสีย เรื่องในคืนนั้น

นางต้องการจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในคืนนั้น

คืนนั้นทั้งคืนนั่น

กับบุรุษแปลกหน้าผู้นั้น นางจะต้องลืมเขาให้จงได้

เฉินเจียวเหมยเพียงหลับตาพลางคิด

ใบหน้ารูปงามของเขาที่กำลังขยับอยู่ใกล้ๆ นางในคืนนั้น ดวงตาคมกริบทอประกายร้อนแรงใส่หน้านางในคืนนั้น จมูกของเขาที่โน้มเข้ามาหานางพร้อมๆ กับริมฝีปากสีแดงสดของเขาที่โน้มเข้ามาหาใบหน้าของนางนั้น เขาโน้มเข้ามา โน้มเข้ามา

แล้วจูบนาง...

อา...

ใช่...

เขาจูบนาง...

อย่างนี้ล่ะ...

เฉินเจียวเหมยยังคงหลับตาพลางคิดถึงภาพระหว่างนางกับบุรุษแปลกหน้าที่กำลังแนบชิดเบียดเสียดกันไปมาทั้งใบหน้า ทั้งเรือนร่าง แต่ทว่า...

นางเพียงแค่คิดเท่านั้น แล้วทำไม...

ทำไมมันถึงรู้สึกสมจริงเยี่ยงนี้ ความอุ่นซ่านอย่างนี้

ริมฝีปากแนบชิดอย่างนี้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หญิงสาวจึงลืมตา

และนางก็ได้เจอ

บุรุษผู้นั้นกำลังจูบนาง

เขาจูบนางอยู่! เมื่อไหร่กัน!

เฉินเจียวเหมยถึงกับตาโตในขณะที่ริมฝีปากของนางกำลังถูกจ้าวจิ่นหลงกดจูบอย่างไม่ยั้งอยู่ตรงกำแพงหลังโรงหมอแห่งนี้

เขากำลังจูบนาง จูบนานแล้วหรือไม่ จูบนางตั้งแต่เมื่อไหร่ ไยนางถึงรู้สึกคุ้นชิน ไม่สิ! ไยนางถึงไม่รู้ตัว ได้อย่างไรกัน

จ้าวจิ่นหลงที่เดินเข้ามายังโรงหมอแล้วเห็นไหล่บางๆ ของสตรีนางนี้กำลังยืนพิงกำแพงหลับตาอยู่คล้ายกับว่ากำลังรอเขาอยู่กระนั้น

เขาจึงไม่รอช้า รีบเดินเข้ามาหานางแล้วตอบสนองนางในทันที

เขาก้มหน้าจูบนางอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะที่นางเพียงหลับตาให้เขาจูบ เขาก็จูบ เขาจูบนางอยู่หลายที รสชาติดีไม่เบา

จ้าวจิ่นหลงยังคงก้มหน้าก้มตากดจูบเฉินเจียวเหมยอยู่อย่างนั้น

เฉินเจียวเหมยที่เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าถูกบุรุษเจ้าของใบหน้าที่นางกำลังนึกถึงอยู่ กำลังกระทำการอย่างย่ามใจ นางจึงรีบบิดใบหน้าของนางให้เบือนหนี ในขณะที่มือของนางรีบดันแผงอกของเขาให้ออกห่าง

แต่นี่...

คนหรือรากไม้กัน

ไยถึงแน่นเหนียวหนึบหนับอย่างนี้

ไย...

ผลัก ไม่ ออก....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel