บทย่อ
"เมื่อคืนเราอาจจะร้อนก็ได้""แต่อากาศตอนนี้มันโคตรหนาวเลยนะ" อนลแย้ง เพราะเหตุผลที่คนข้างตัวยกมากับอุณหภูมิภายในห้องขัดแย้งกันสุดๆ"ฉันเชื่อตัวเอง""ห๊ะ !?""หันหน้าไปทางอื่นเดี๋ยวนี้"ศรุตาออกคำสั่งเสียงดัง แล้วโกยเสื้อผ้าของตัวเองมาถือไว้ด้วยสองมืออย่างรวดเร็วเอาล่ะ... เรื่องที่เกิดขึ้นมันก็แค่ความผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย ระหว่างเธอกับเขาไม่มีอะไรเกินเลยทั้งนั้น ร่างกายไม่มีทางโกหกอย่างแน่นอน"ผมว่า...""เงียบน่า!"
บทที่ 1
...หกปีก่อน...
เสียงโหวกเหวกโวยวายของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมลงให้กันโดยง่าย ส่งผลให้ท้องถนนในบริเวณนั้นมีการจราจรติดขัดยาวเหยียดออกไปหลายร้อยเมตรท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุในช่วงเวลากลางวัน
"ลุงๆ มอเตอร์ไซค์มันซอกแซกไปตามช่องว่างข้างหน้านี่ไม่ได้แล้วหรอคะ"
นักศึกษาสาวที่ต้องรีบไปรายงานตัวกับรุ่นพี่ปีสองที่คณะเอ่ยถามคนขับวินมอเตอร์ไซค์ที่เธอซ้อนท้ายอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากวันนี้ที่คณะเรียกรวมนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งตอนบ่ายโมงตรง และถ้าหากเธอไปสายละก็ โดนสั่งลุกนั่งจนขาลากแน่
"โห รถมันติดขนาดนี้ ขยับไปไหนไม่ได้แล้วหนู"
คำตอบของคู่สนทนาทำเอาคนฟังต้องยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ แต่เธอจะไม่ยอมโดนทำโทษอย่างเด็ดขาด สาวเจ้าจึงตัดสินใจถอดหมวกกันน็อคออกจากศีรษะและส่งให้วินมอเตอร์ไซค์ทันที
"ค่ารถกี่บาทอะลุง"
"เฮ้ย! เดินจากตรงนี้ไปมหา'ลัยมันก็ไกลอยู่นะหนู แถมอากาศยังร้อนด้วย ไม่กลัวเป็นลมเป็นแล้งไปข้างทางหรือไง"
"หนูมีประชุมค่ะลุง ขืนรอให้อุบัติเหตุข้างหน้าเคลียร์กันได้ หนูคงโดนรุ่นพี่สั่งทำโทษจนขาลากแน่ๆ สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าค่ะ" ศรุตาบอกอย่างมั่นใจ เพราะด้วยดีกรีนักกีฬากรีฑาของโรงเรียนอย่างเธอไม่หวั่นต่อการวิ่งระยะไกลอยู่แล้ว
"เอ้าๆ ถ้าอย่างนั้นลุงลดให้เหลือยี่สิบ"
เจ้าของใบหน้าหวานกระจ่างใสระบายรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหยิบธนบัตรสีเขียวออกมาจากกระเป๋าเล็กๆ ข้างกระเป๋าเป้ที่ตนสะพายอยู่ยื่นให้กับลุงขับรถมอเตอร์ไซค์
"นี่ค่ะ"
"เอ้อ เดินระวังๆ นะหนู แถวนี้รถเยอะ แถมขับเร็วซะด้วย"
"ค่ะ"
หลังจากที่รับคำเสร็จสรรพ เจ้าของร่างที่เรียกได้ว่ามีน้ำมีนวลในระยะสุดท้ายก็วิ่งข้ามถนนไปอยู่บริเวณฟุตบาท เพื่อที่จะได้วิ่งต่อไปยังรั้วมหาวิทยาลัยของตน
ทว่ายังวิ่งไปได้ไม่ทันไร รถมอเตอร์ไซค์ที่แอบขึ้นมาขับบนทางเท้าก็เฉี่ยวชนเข้าที่บริเวณซีกซ้ายของศรุตาอย่างแรง จนเธอเซถลาหน้าทิ่มใส่พุ่มไม้ข้างทางด้วยสภาพที่ไม่น่าดูนัก
หญิงสาวส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ผู้หญิงที่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของคู่กรณีกลับส่งเสียงโวยวายขึ้นมาเหมือนว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก และคนที่ชนจนหน้าคะมำเป็นฝ่ายผิดเสียอย่างนั้น
"โอ๊ยย เสียเวลาจริงๆ เลย ที่ทางก็ตั้งกว้าง ทำไมถึงเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยห่ะ ถ้าฉันไปคัดเลือกดาวคณะไม่ทันขึ้นมาจะทำยังไง"
"ไม่เอาน่าฝน"
คนขับมอเตอร์ไซค์พยายามปรามแฟนสาวของตนให้ใจเย็นลงก่อน เพราะพวกเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาบนทางเท้าและมันก็ผิดกฎจราจรตั้งแต่ต้น ขืนเรื่องนี้ถึงตำรวจละก็ เขาต้องถูกพ่อและพี่สาวก่นด่าจนหูชาแน่ๆ
"ไม่ต้องมาห้ามกันเลยนะไฟ ถ้าฝนไปคัดตัวช้าแล้วชวดตำแหน่งดาวคณะขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ นี่มันคือโอกาสเดียวในชีวิตการเป็นเฟรชชี่ในรั้วมหา'ลัยเลยนะ"
"แต่เราทำเขาเจ็บนะ อย่างน้อยก็ควรจะพาไปคลินิกก่อน"
"แต่ฝนจะไปคัดตัวไม่ทันแล้วนะไฟ ก็แค่รถเฉี่ยวเองป่ะ ไม่ถึงตายหรอกน่า" พรพรรษาบอกอย่างหัวเสีย แล้วผลักไหล่แฟนหนุ่มเบาๆ เพื่อบอกให้เขารีบขับมอเตอร์ไซค์ไปได้แล้ว
"แต่ว่า..."