ดื่มด่ำและท้าทาย
ชายหนุ่มค่อย ๆ สอดใส่แก่นกายของเขาเข้าไปในช่องแคบ มันเข้าไปได้แค่ส่วนปลายที่บานของเขาเท่านั้น เขาก็แทบจะไม่ไหวแล้ว เขาแทบจะปล่อยน้ำขาวขุ่นของเขาออกมาอีกรอบ เพราะช่องรักของเธอนั้นมันคับแคบมากจริง ๆ มันบีบรัดส่วนปลายของเขาแทบจะระเบิด
“อ้าาาา….ซี๊ดดดด” เสี่ยหนุ่มถึงกับครางออกมา
“อ๊ะ…. เบา ๆ ก่อนนะคะ อืมมมมม”
หญิงสาวสะดุ้งเอ่ยออกมา เพราะรู้สึกถึงเยื่อพรหมจรรย์ของเธอได้ฉีกขาดไปแล้ว ถึงแม้ว่าเสี่ยหนุ่มจะยังสอดใส่เข้าไปไม่มิดก็ตาม แต่เธอก็รู้สึกถึงความคับแน่นเหมือนร่างกายของเธอแทบจะแตกแยกเป็นเสี่ยง ๆ
“ฉันจะทำเบา ๆ เธออย่าเกร็ง”
เสี่ยหนุ่มพูดปลอบประโลมเธอ แล้วก็โน้มตัวลงมาประกบจูบเธออย่างอ่อนโยน ให้เธอได้มีผ่อนคลายอารมณ์มากกว่านี้
“อ๊ะ อ่าาาาาา ค่ะ ฉันจะทำให้ตัวเองผ่อนคลายกว่านี้” หญิงสาวตอบรับคำ
“อืม เพราะฉันก็จะทนไม่ไหวเหมือนกัน หากว่าเธอยังไม่ผ่อนคลาย ของเธอมันบีบรัดฉันแน่นจนเกินไป ซี๊ดดดดด”
เสี่ยหนุ่มปลุกประโลมให้หญิงสาวได้ผ่อนคลายแล้วเขาก็ค่อย ๆ ดันท่อนเนื้อของเขาเข้าไปอีกจนสุดลำ แล้วก็แช่มันไว้แบบนั้น เพราะช่องรักของหญิงสาวมันแน่นจนเกินไป จนเขาแทบจะขยับไม่ได้
เมื่อร่างกายหญิงสาวเริ่มปรับตัวเข้ากับท่อนเนื้อและไม่มีอาการเกร็งแล้ว ชายหนุ่มจึงเริ่มขยับสะโพกเข้าออกเบา ๆ
“อ๊ะ อ๊ะ อ้าาาาา” หญิงสาวส่งเสียงคราง
“ยังเจ็บอยู่มั้ย” เสี่ยหนุ่มกระซิบถามที่ข้างหูของหญิงสาวเบา ๆ จนเธอรู้สึกขนลุกด้วยความเสียว
“มะ ไม่เจ็บแล้วค่ะเสี่ย อ้าาาาาา” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงกระเส่า
“เรียกผมว่าเหมันต์”
เสี่ยหนุ่มมองดูใบหน้าหวาน ๆ ที่กำลังส่งสายตายั่วยวนเขาไม่ไหว เขาจึงอยากจะอนุญาตให้เธอได้เอ่ยเรียกชื่อเขาในตอนนี้ และต้องการให้เธอเรียกชื่อเขา ให้เขาเอาเธอแรง ๆ
ปกติเขาไม่เคยให้ใครได้เรียกชื่อของเขาเลย ผู้หญิงคนอื่นเรียกเขาว่าเสี่ยกันทุกคน แต่สำหรับผู้หญิงใต้ร่างเขาคนนี้ เป็นคนแรกที่เขาอยากจะให้เธอได้เรียกชื่อเขาตอนที่ร่วมรักกัน
“คุณเหมันต์ อ่า ซี๊ดดดดดด ฉันไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ฉันเสียวมาก ฉันอยากให้คุณทำแรงกว่านี้อีกค่ะ อ้าาาา”
“ได้ ผมจะทำให้ครั้งแรกของคุณมีความสุขที่สุด ดังนั้นเราสองคนมาทำให้วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดก็แล้วกันนะ อ้าาาา”
ทั้งสองคนก็ร่วมบทรักกันทั้งคืนอยากดื่มด่ำกับความสุข เสี่ยหนุ่มพึงพอใจในตัวหญิงสาวมาก จนเมื่อถึงเวลาหกโมงเช้า เสี่ยหนุ่มก็ต้องหยุดเกมรักในครั้งนี้ เพราะว่าเขาต้องแต่งตัวและกลับไปที่คฤหาสน์ของเขาแล้ว เขาต้องไปเข้าร่วมพิธีหมั้นกับผู้หญิงที่เขาหมายปองไว้มานานแล้ว เขาจึงได้ให้เงินเธอไป 5 แสนบาท มากกว่าที่ได้ตกลงกับเจ้แต้วไว้ แล้วก็ออกไปจากโรงแรมทันที
เหมันต์เป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และยังมีธุรกิจร้านเพชรและอัญมณีอีกด้วย เขาถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่สาวต่างหมายปอง แต่เขาก็มีคนที่หมายปองแล้วเหมือนกัน นั่นก็คือว่าที่คู่หมั้นของเขาที่จะเข้าร่วมพิธีหมั้นกันในวันนี้นั่นเอง
“เหมันต์ ต่อไปนี้อาขอฝากให้หลานดูแลพราวมุกให้ดีด้วยนะ” คมสันพ่อของพราวมุกบอก
“ครับคุณอา ผมจะดูแลพราวมุกให้ดี คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“ตอนนี้ก็แค่พิธีหมั้นอยู่ เหลืออีกตั้ง 3 เดือนกว่าจะถึงพิธีแต่งงาน มาบอกสั่งกันตั้งแต่ตอนนี้ งั้นพอถึงวันที่แต่งงานก็คงจะไม่มีอะไรพูดแล้วมั้งคะ 555” สุวิทย์พ่อของเหมันต์เอ่ย
“5555”ทุกคนหัวเราะกันอย่างมีความสุข
พราวมุกคู่หมั้นสาวทำสีหน้าเขินอาย เธอทำตัวเรียบร้อยมาตลอด เป็นกุลสตรีไทยที่ดี ผู้ชายส่วนมากในแวดวงธุรกิจล้วนแล้วจับตามองอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้กันทั้งนั้น รวมถึงสุวิทย์ด้วยเหมือนกัน โชคดีที่พราวมุกนั้นก็ชอบคอกับลูกชายของเขาอยู่พอดี สุวิทย์จึงได้เคยเอ่ยพูดกับคมสันพ่อของพราวมุกว่าอยากจะให้ครอบครัวของพวกเขาทั้งสองได้เกี่ยวดองกัน
“พี่เหมันต์คะ”
“ครับ”
“พี่ไม่อยากจะถามมุกหน่อยเหรอคะว่าทำไมคุณพ่อถึงอยากให้เราสองคนรีบหมั้นกันและก็รีบแต่งงานกันให้เร็วที่สุดด้วย” พราวมุกทำท่าทางเขินอายเล็กน้อยในตอนพูด หญิงสาวทำท่าทางเหมือนกับว่าไม่ได้รู้ความคิดของพ่อตัวเอง
“ท่านก็คงอยากจะอุ้มหลานแล้วมั้ง” เหมันต์เอ่ยเล่นอย่างอารมณ์ดี เพราะเขารู้สึกว่ามีความสุขมากที่จะได้พราวมุกมาเป็นภรรยา
“โถ่ พี่เหมันต์ก็….”หญิงสาวทำท่าทางเขินอาย
“จะเรื่องอะไรก็ช่างเถอะ พี่ก็รอมุกมาตั้งหลายปีแล้ว ตอนนี้พี่ดีใจมากที่พ่อของมุกยอมให้เราสองคนได้แต่งงานกันเสียที”
“พี่จะไม่ทำแบบเดิมใช่มั้ยคะ”
เหมันต์รู้ดีว่าที่หญิงสาวพูดนั้นหมายความว่าอะไร เขารู้ว่าที่ผ่านมาเขาเป็นผู้ชายเพย์บอย มีผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า พ่อของเธอจึงไม่ยอมให้ทั้งคู่แต่งงานกันสักที แต่ครั้งนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรที่พ่อของพราวมุกมาพูดเรื่องแต่งงานด้วยตัวเองก่อน แถมยังอยากให้แต่งงานกันให้ไวที่สุดด้วย
“พี่จะเลิกทำตัวแบบเดิม พี่จะมีมุกแค่คนเดียว”
“ขอบคุณนะคะ”
พราวมุกเข้าสวมกอดชายหนุ่มไว้อย่างดีใจ