ตอนที่ 1 อุบัติเหตุ
"ยาที่หมอฉีดให้อาจทำให้ง่วงซึม แนะนำให้คนไข้รีบกลับไปพักผ่อนนะครับ หรือถ้ามีอาการปวดก็ให้ทานยาแก้ปวดได้เลย แต่ถ้าปวดมากจนผิดปกติให้รีบมาหาหมอด่วนเลยนะ...นี่ครับบัตรนัด"
'รมิดา' ก้มหยิบซองยาในถุงขึ้นมาดู และเหมือนเดิมมันคือยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ซึ่งคุณหมอได้กำชับไว้ว่าหากมีอาการปวดเพียงเล็กน้อยให้ทานแค่ยาพาราเซตามอลก็พอ เนื่องจากยาแก้ปวดชนิดรุนแรงหากทานติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะและอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ หญิงสาวเก็บเอกสารและยาไว้ในกระเป๋าก่อนจะมุ่งหน้าไปยังป้ายรถเมล์เพราะต้องรีบกลับบ้าน โรงพยาบาลเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง เข้าๆออกๆจนพยาบาลจำหน้าได้เพราะโรคที่เธอเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี
เนื้องอกในสมองคือโรคที่รมิดากำลังเผชิญอยู่ ตอนอายุ 17 ปี เธอได้รับการผ่าตัดไปแล้วหนึ่งครั้ง ชีวิตของเธอเคยผ่านความเป็นความตายมาก่อน ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะรอดเพราะคุณหมอได้บอกกับคุณแม่ไว้ว่าเธอมีโอกาสรอดแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เดชะบุญที่พระเจ้ายังไม่พรากชีวิตของเธอไป แต่ดูเหมือนว่าการผ่าตัดเนื้องอกในครั้งนั้นจะทำให้อาการของเธอดีขึ้นมาได้แค่แป๊บเดียว เพราะหลังจากนั้นเธอก็ตรวจพบเนื้องอกอีกจุดและมันเป็นจุดที่ค่อนข้างอันตราย คุณหมอไม่รับปากว่าถ้าผ่าตัดไปแล้วเธอจะหายจากโรคหรือจะหายไปจากโลก
รมิดาตัดสินใจไม่เข้ารับการผ่าตัดรอบสอง เพราะกลัวจะไม่โชคดีเหมือนรอบแรก คุณหมอจึงให้กินยาประคับประคองอาการเพราะอย่างน้อยเนื้องอกมันก็ไม่ได้ลุกลามไปไหนยังเป็นแค่จุดเล็กๆ มีบ้างที่รู้สึกปวดหัว เวียนหัว แต่อาการมันก็ยังไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นยังสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้
"บ่ายสามแล้วหรอ" รมิดาแหงนหน้ามองพระอาทิตย์ ช่วงนี้เป็นหน้าร้อน แดดในตอนบ่ายจึงร้อนมาก ร้อนจนเหงื่อเปียกชุ่มขมับ เท้าเล็กรีบก้าวข้ามถนนเพราะทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เนื่องจากคุณหมอให้งดข้าวงดน้ำก่อนเข้ารับการตรวจเลือด
ข้างหน้ามีร้านอาหารเล็กๆที่เธอชอบมานั่งกินเป็นประจำเพราะมีราคาถูก รมิดากำลังจะก้าวขาข้ามถนน แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหน้ามืดวิงเวียนจนก้าวขาไม่ออกโดยไม่ทันสังเกตว่ากำลังมีรถหรูวิ่งมาด้วยความเร็วสูง
ปี๊ดดดด!!!
"กรี๊ดดดด!!!"
โคร่มมมม!!!
ภาพสุดท้ายที่รมิดาเห็นก่อนสลบก็คือภาพรถหรูคันหนึ่งหักหลบกะทันหันจนเกิดพลิกคว่ำข้ามเลนไปชนกับต้นไม้ใหญ่ เสียงเครื่องยนต์กระแทกกับต้นไม้ดังโครม รมิดาพยายามตั้งสติหมายจะวิ่งเข้าไปช่วยเจ้าของรถที่เธอเพิ่งตัดหน้าไป...แต่ก็ไปไม่ถึง เธอล้มฟุบลงกลางทางท่ามกลางเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือของคนในละแวกนั้น
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนขับเป็นใคร หากเขาตายมันคงเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต...เพราะเธอเป็นคนเดินตัดหน้ารถ
@โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
คุณหมอหนุ่มสุดหล่อดีกรีนักเรียนนอกถอดชุดกราวด์ออกหลังจากผ่าตัดคนไข้เคสสุดท้ายเสร็จ ทีปกร หรือ หมอพีท คือศัลยแพทย์หนุ่มฝีมือดีที่จบทางด้านประสาทศัลยศาสตร์จากประเทศเยอรมันด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาเป็นถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทยและพ่อของเขาก็ยังเป็นถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง เนื่องจากความเพรียบพร้อมทั้งด้านรูปทรัพย์และนามทรัพย์ทำให้เขาถูกพูดถึงและเป็นที่หมายปองของสาวๆหลายๆคนทั้งในและนอกโรงพยาบาล เพราะตระกูลของเขาเป็นถึงผู้ดีเก่า เรียกได้ว่าคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดของแท้
"ไง เคสสุดท้ายยากไหม" หมอแดน หรือ ดานิเอล ทักทายศัลยแพทย์หนุ่มฝีมือดีที่เพิ่งผ่าตัดคนไข้เสร็จ เขาคือเพื่อนสนิทของทีปกรสมัยเรียนอยู่ที่ประเทศเยอรมัน แต่ดานิเอลจบทางด้านออร์โธปิดิกส์
"ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความสามารถของศัลยแพทย์มือหนึ่งหรอก"
"พอได้รางวัลนี่เอาใหญ่เลยนะ" ดานิเอลแซวขำๆ หลังจบเคสทั้งสองมักจะนั่งคุยกันแลกเปลี่ยนปัญหาระหว่างวัน เพราะอาชีพหมอเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความเครียดค่อนข้างสูง
"เป็นไงวะ วันนี้ได้ยินว่ามึงรับแต่เคสหนักๆ"
"วันนี้เกิดอุบัติเหตุหลายที่ บางเคสก็ผ่าตัดด่วนจนแทบไม่ได้พัก ตอนดึกยังต้องอยู่เวรต่ออีก เหนื่อยชะมัด!"
"เอาน่า พ่อกูจ้างมึงมาเป็นหมอนะโว้ยไม่ได้จ้างมาบ่น" ทีปกรยัดแฟ้มคนไข้ไว้ในกระเป๋าเพราะวันนี้มีอีกหลายเคสที่ต้องกลับไปเคลียร์ที่บ้านเพื่อเตรียมแผนการรักษา "กูกลับก่อนนะ ส่วนพวกมีเวรก็สู้ต่อไป"
"เออ สู้ชีวิตแต่ชีวิตดันสู้กลับ"
ทีปกรโบกมือลาเพื่อนสนิทและกำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องแต่ทันใดนั้นมือถือเครื่องหรูก็แผดดังขึ้น เป็นเบอร์ของน้องสาวโทรมา สงสัยจะขออนุญาตไปเที่ยว
"ว่าไงแพม"
"คะ..คุณพีทใช่ไหมคะ!" ปลายสายไม่ใช่น้องสาวแต่ดันเป็นคนรับใช้ที่บ้าน
"ใช่ มีอะไรเหรอส้ม"
"คะ..คุณแพมเกิดอุบัติเหตุค่ะ คุณพีทรีบมาห้องฉุกเฉินที..ตะ...ตอนนี้คุณแพมอาการแย่มาก!!"
"ว่าไงนะ! แพมเกิดอุบัติเหตุ!!"
"ค่ะ คุณพีทรีบมานะคะ ตอนนี้คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายร้องไห้ใหญ่เลยค่ะ!"
"ได้! ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!"