4
พลอยเพชรเดินหนีการันต์กลับบ้าน ก่อนจะหยุดชะงักอยู่ตรงทางเข้าบ้าน
“เฮียจะตามฉันมาทำไม” เธอหันไปถามเขาอย่างรำคาญ
“ตามไปอยู่ด้วย”
“ตามมาอยู่กับฉันทำไม” พลอยเพชรเอ่ยถามคนหน้ามึน ที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ด้วยใบหน้าเหลอหลา ตกใจน่ะสิ จู่ ๆ เขาบอกว่าจะมาอยู่ด้วย
“ไม่เห็นหรือไงว่าม๊าไล่เฮียออกจากบ้าน ไม่ตามมาอยู่กับพลอยแล้วจะให้เฮียไปอยู่ที่ไหน”
“จะอยู่ที่ไหนก็ไปอยู่เถอะ ฉันไม่ให้เฮียมมาอยู่ที่บ้านของฉันหรอกนะ คนนินทาตาย” พลอยเพชรพูดอย่างเอาเรื่อง แค่นี้ชีวิตของเธอก็วุ่นวายพอแล้ว
“แล้วที่เพชรท้องโย้แต่ยังไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตนคนไม่นินทาหรือไง” ประโยคนั้นของเขาแทงใจดำของเธอยิ่งนัก
“แล้วเฮียจะพูดย้ำทำไม” เธอหน้าบึ้งใส่เขา
“เฮียแค่เตือนสติเพชร เฮียบอกแล้วไงว่าเฮียเป็นผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ”
“ถ้าฉันไม่ท้องเฮียก็คงไม่รับ”
“เพชรหลบหน้าเฮีย ตั้งแต่วันนั้น ทั้ง ๆ ที่เฮียพยายามมาหาเพชรตลอด”
“มาหาทำไม”
“ก็อยากเห็นหน้า” ประโยคของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้ามองอย่างคาดไม่ถึง
“เฮียอย่ามาพูดอะไรแบบนี้”
“ทำไมจะพูดไม่ได้”
“เพราะฉันรู้ว่าเฮียรักเวมากไง”
“เวคืออดีต ตอนนี้เขาเป็นเมียคนอื่นไปแล้ว”
“แต่ถ้าเวไม่ใช่เมียคนอื่น เฮียก็ยังคงรักเวอยู่ใช่ไหมล่ะ” เธอเอ่ยถามอย่างจริงจัง
“เคยรักมากกว่า แต่ยังไงเวกับเฮียก็คงไม่มีวาสนาต่อกัน เราคงไม่ใช่คู่กัน”
“ความเลวร้ายที่เฮียทำเอาไว้กับฉัน ฉันไม่มีวันลืมง่าย ๆ หรอกนะ มาพูดแค่นี้คิดว่ามันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือไง” เธอปิดประตูรั้วใส่หน้าเขา
“เดี๋ยวก่อนสิเพชร”
“ไสหัวกลับไปเลยนะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก” พลอยเพชรพูดแค่นั้นก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน เรื่องที่เขาข่มเหงเธอวันนั้นมันเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะให้อภัย พลอยเพชรลืมมันไม่ลงจริง ๆ และพื้นฐานของเขาก็ไม่ได้รักเธอแต่แรก เธอจึงไม่อยากให้เขาต้องมารับผิดชอบเพราะคำว่าลูก คนเราไม่ได้รักกันจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไรกัน มีแต่จะเบื่อหน่าย เกลียดขี้หน้ากัน พูดไม่เข้าหูก็มีแต่จะทะเลาะเบาะแว้ง ไม่สบายใจกันเสียเปล่า ๆ
“นังเพชร นังตัวดีกลับมาแล้วเหรอ” เสียงเข้มของมารดาทำให้พลอยเพชรชะงัก
“แม่มีอะไรอีก ฉันกลับมาเหนื่อย ๆ แทนที่แม่จะพูดดี ๆ ด้วย แต่ทำเสียงดังเหมือนเกลียดกันนักหนา”
“กูนี่นะเกลียดมึง ถ้ากูเกลียดมึง กูไม่อุ้มท้องมึงมาหรอก นังสารเลว นังร่าน นังง่าย แกไปนอนกับไอ้การันต์จนท้องใช่ไหม” ประโยคของมารดาทำให้พลอยเพชรชะงัก
“ใครบอกแม่” พลอยเพชรเอ่ยถามเสียงเบา รู้ว่าตัวเองผิดอยู่เต็มประตู มือน้อยจิกไปกับกางเกงยีนส์ตัวเก่งที่ชอบสวมใส่อยู่บ่อย ๆ การทำความผิดแล้วถูกมารดารู้เข้าคือสิ่งที่เธอกลัวที่สุด เพราะหลังจากนี้คือประโยคด่าทอไม่เหลือชิ้นดีที่มารดามีต่อเธอ
ท่านจะไม่ถามว่าทำไม ถึงถามก็ไม่ต้องการคำตอบ ไม่ถามหาเหตุผล ไม่ถามว่าเธอเป็นยังไงบ้าง มันเกิดขึ้นด้วยสาเหตุอะไร และเธอเป็นคนผิดหรือไม่ ต้องการให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรือไม่
ไม่มีเลยสำหรับผู้หญิงคนนี้ที่เธอเรียกว่าแม่มาตั้งแต่เล็ก ๆ
“เขารู้กันทั้งจังหวัดแล้วมั้ง คลิปที่แกไปยืนเถียงกับอีเจ๊หงส์มันฉอด ๆ หน้าโรงพยาบาล ใครสอนให้มึงเป็นคนแบบนี้ มึงไม่มียางอายเลยหรือไง ตัวเองท้องทั้ง ๆ ที่ยังไม่แต่งงาน แต่ไปเกาะแข้งเกาะขาผู้ชาย ประกาศปาว ๆ ว่าท้องใส่หน้าแม่ผัวตัวเอง เจริญละมึง กูเคยพูดไว้แล้วว่าน้ำหน้าอย่างมึงไปอยู่ที่ไหนไม่ได้หรอก ไปอยู่บ้านแม่ผัวเขาก็ไล่ออกมาเหมือนหมูเหมือนหมา เพราะสันดานมึงมันไม่ดี”
“แล้วทำไมฉันต้องไปพึ่งพาอาศัยคนอื่นอยู่ด้วย ฉันมีมือมีเท้าทำงานหาเงินเองได้ ทำไมต้องไปเกาะคนอื่นกินด้วย” ประโยคดูถูกของมารดาทำให้เธอเสียใจอีกครั้ง
หลายครั้งแล้วที่ท่านทำให้เธอต้องร้องไห้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาก็คือ ยิ่งร้องไห้เสียใจเท่าใด มารดาก็จะยิ่งซ้ำเติม มองเธออย่างสมน้ำหน้า
“ปากดีนักนะมึง มึงต้องให้พ่อกับแม่ของมันมาสู่ขอ ไม่อย่างนั้นกูไม่ยอม ลูกสาวทั้งคนจะให้ไปเที่ยวนอนกับผู้ชายจนท้องแล้วไม่มีใครรับผิดชอบไม่ได้”
“เขาด่าขนาดนั้นยังจะไปให้เขามารับผิดชอบอีกเหรอแม่ แม่คิดอะไรของแม่นี่”
“ก็ทำไมมึงไม่ทำก่อนคิด มึงไปร่านไปแรดแบขาให้มันเอา ไปนอนกับมันจนท้อง ก็ต้องให้พ่อแม่มันมาสู่ขอ มารับมึงเป็นเมียสิ มึงจะอุ้มท้องไม่มีพ่อประจานความร่านของมึงเหรอ”
“ฉันไม่ได้ร่านไม่ได้แรด แต่มันปล้ำฉัน ฉันไม่ได้ยินยอม”
“มึงคิดเหรอว่ากูจะเชื่อมึง แต่เอาเถอะ มึงพูดไปแบบนี้ก็ดีกับตัวมึงเอง ถ้ามึงบอกว่ามึงสมยอมก็มีแต่อายกับอาย แต่ถ้าไอ้การันต์ปล้ำมึง มึงก็ไม่ยอม อย่างน้อยมึงก็ยังมีค่าบ้าง”
“นี่แม่ไม่เชื่อฉันเหรอ” พลอยเพชรพูดอย่างเสียใจ
“มึงจะพูดจริงหรือไม่จริง มึงก็ท้องไปแล้ว บ้านนั้นมันรวย สินสอดทองหมั้นต้องจัดเต็ม เรียกให้สมน้ำสมเนื้อมึงเป็นลูกสาวคนเดียวของกู จะให้อับอายขายหน้าใครไม่ได้” พิมพ์ใจพูดเสียงเฉียบ
“แม่คิดแต่เรื่องสมบัติคนอื่น ของของเขา อย่าไปบ้าความรวยคนอื่น เรามีของเราดีกว่าไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ”
“บ้าความรวยคนอื่นยังไง แต่งงานเป็นผัวเมียกัน สมบัติของผัวก็คือสมบัติของเมีย มันเป็นลูกชายคนเดียว แถมยังมีลูกกับมึงอีก ยังไงสมบัติพวกนั้นก็ต้องตกเป็นของลูกมึง”
“แม่!” พลอยเพชรเรียกมารดาอย่างอ่อนใจ
“ทำไม มึงเรียกกูเสียงดังทำไม มาทำแผลที่นมให้กูด้วย กูเจ็บนม เร็ว ๆ แล้วมึงก็ต้องไปบอกไอ้การันต์ให้ไปบอกพ่อแม่มันให้มาสู่ขอมึงเร็ว ๆ ท้องโตกว่านี้มึงจะใส่ชุดเจ้าสาวไม่ได้ แต่งซะตอนที่ท้องยังไม่โต จะได้ไม่ต้องอายคนไปมากกว่านี้”
แม้จะไม่อยากทำ แต่มันก็คือหน้าที่ของคนเป็นลูก เธอจัดการใช้น้ำเกลือเช็ดเต้านมให้มารดา ท่านเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สาม ถ้าต้องผ่าตัดเต้านมออก ก็ต้องทำแผลอีกนานหลายเดือนหรือเป็นปีกว่าจะหาย ซึ่งมารดาของเธออายุมากแล้ว เคยรักษามะเร็งโดยการฉายรังสีและฝังแร่มามากแล้ว หากจะต้องผ่าตัดหรือให้เคมีบำบัดอีก สภาพร่างกายของท่านจะรับไม่ไหว หมอเลยให้รักษาไปตามอาการ กินยาระงับความเจ็บปวดและทำแผลไปเรื่อย ๆ เพื่อฆ่าเชื้อ
ความจริงเธอก็เสียใจ น้อยใจที่โดนมารดาด่าว่าบ่อย ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เธอไม่ได้สารเลวพอที่จะทิ้งท่านไป คิดว่าตัวเองอาจจะต้องใช้เวรใช้กรรมให้หมดคือดูแลบุพการีทั้งสองจนกว่าจะจากโลกนี้ไป ดังนั้นถึงโดนด่าก็ต้องทน เพราะความเจ็บปวดทางร่างกายของท่านอาจจะมากมายหลายเท่าเพราะมีโรครุมเร้า เลยกลายเป็นคนอารมณ์หงุดหงิด พูดจาไม่ดีเช่นนี้
พลอยเพชรพยายามคิดในทางที่ดี ถึงแม้ว่าหลายครั้งเธอแทบจะทนไม่ไหวกับความปากร้ายของมารดาก็ตามที
พิมพ์ใจโทรศัพท์หาลูกชายทั้งสอง ทั้งคนโตและคนกลาง ให้มาช่วยพาท่านไปบ้านของลือกับหงส์ สองสามีภรรยาซึ่งเป็นบิดามารดาของการันต์
พอเจอหน้าเท่านั้นแหละ เจ๊หงส์ก็เหยียดปากสะบัดหน้าใส่ในทันที
“มาทำไม” เจ๊หงส์กระชากเสียงถาม
“ที่ฉันมาวันนี้ก็จะมาพูดเรื่องลูกของเธอกับลูกของฉันนั่นแหละ” พิมพ์ใจเปิดประเด็น ไม่เคยหงอให้ใคร พูดไม่เข้าหูเจอด่า