บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

บทที่ 4

“โอ๊ยยย...”

คาลมิลเดินไปถึงประตูห้องแล้ว แต่มือใหญ่ที่กำลังจับลูกปิดประตูต้องหยุดงัก เจ้าตัวหันขวับมาข้างหลังในทันทีที่ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด พอเห็นเมขลาทรุดตัวอยู่บนพื้นพรมมือเล็กกุมข้อเท้าตัวเองไว้ ก็รีบวิ่งกลับมาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

“คุณฮันนี่เป็นอะไรครับ”

คาลมิลไม่รู้เลยว่า สีหน้าและแววตาอันเป็นกังวล รวมทั้งน้ำเสียงที่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงของเขานั้น กำลังเข้าเกมของเมขลาทุกอย่าง

และดาราสาวเจ้าบทบาท ก็ตีสีหน้าเหยเกราวกับเจ็บปวดหนักหนา โดยไม่ลืมเรียกน้ำตาให้เอ่อคลอเบา รวมทั้งเอ่ยตอบเสียงสั่นเครือเพื่อเรียกคะแนนความสงสารจากกัปตันคาลมิล

“ฮันนี่...เดินสะดุดล้มนะคะ ตอนนี้ฮันนี่...เจ็บ...เจ็บข้อเท้ามากเลยค่ะ...สงสัยข้อเท้าจะแพลง”

คาลมิลเหลือบมองไปยังข้อเท้าข้างที่เมขลาเอามือกุมไว้ ก็เห็นว่าหญิงสาวสวมรองเท้าแบบส้นสูง ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ส้นของรองเท้าจะสะดุดพรมซึ่งปูอยู่ทั่วห้อง และก็สบถออกมาด้วยความโกรธ

ทว่า...หาใช่โกรธเมขลาจอมมารยาไม่! แต่เขากำลังโกรธพนักงานของโรงแรมที่ปูพรมไม่เรียบ กระทั่งทำให้เมขลาสะดุดล้มได้

“บ้าชะมัด! พนักงานปูพรมไม่เรียบแน่เลย จึงทำให้คุณฮันนี่สะดุดล้มได้ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ และผมจะลงโทษพนักงานของผมที่ทำให้คุณฮันนี่ต้องเจ็บตัวตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาพักในโรงแรมของเรา”

“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ อย่าทำโทษพนักงานเลยค่ะ ฮันนี่สงสารพวกเขา...”

บทแม่พระก็มา เมขลาสามารถเล่นละครได้ทุกบทบาทเพื่อสร้างคะแนนให้กับตัวเอง

“ฮันนี่ไม่ทันระวังเองนะคะเลยสะดุดล้มเข้า อีกอย่าง...ฮันนี่ดันใส่รองเท้าส้นสูงด้วย ส้นของรองเท้าก็เลยไปติดกับพรมนะคะ”

ขณะเอ่ยโทษตัวเอง เมขลาก็บีบน้ำตาให้หยดแหมะมาโดนหลังข้อมือของคาลมิล ยิ่งส่งให้ชายหนุ่มสงสารเธอจับใจ จนต้องรีบเอื้อมมือมาเช็คคราบน้ำตาให้

“อย่าร้องไห้นะครับ ผมเห็นน้ำตาของคุณแล้วใจไม่ดีเลย”

คาลมิลมีความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เรียกได้ว่าแพ้น้ำตาของเมขลาจนทำอะไรแทบไม่ถูกเลยทีเดียว

“ค่ะๆ ฮันนี่จะไม่ร้องไห้ค่ะ”

เมขลาตอบเสียงสั่น แต่ยังคงตีสีหน้าเหยเกอยู่เหมือนเดิม พร้อมกับโอดครวญดูน่าสงสารจับใจ

“แต่...ตอนนี้ฮันนี่เจ็บข้อเท้ามากเลยค่ะ

“ขอผมดูข้อเท้าของคุณฮันนี่หน่อยนะครับ”

คาลมิลเอ่ยขออนุญาตอย่างสุภาพและให้เกียรติด้วย ชายหนุ่มรอจนกระทั่งเมขลาพยักหน้ารับ จึงเอื้อมมือไปจับตรงข้อเท้าของหญิงสาว แต่แล้ว...มือใหญ่ต้องชะงักอยู่กลางอากาศ และเกิดอาการสั่นเทากับการกระทำของหญิงสาว

ขณะคาลมิลหลุบสายตามองข้อเท้าข้างที่เธอเสแสร้งว่าเจ็บปวดหนักหนา และกำลังจะเอื้อมมือไปจับข้อเท้าของเธอ เมขลาก็อำนวยความสะดวกให้ด้วยการดึงชายกระโปรงให้เลิกขึ้นสูงจนพ้นหัวเข่า จงใจให้คาลมิลได้เห็นต้นขาอ่อนขาวเนียน พอการยั่วยวนของเธอสัมฤทธิ์ผล เห็นได้ชัดว่ามือของคาลมิลสั่นเทาก็ลอบยิ้มด้วยความถูกใจ

และเมื่อกัปตันหนุ่มมัวแต่ชะงักมืออยู่กลางอากาศไม่แตะต้องลงมาบนข้อเท้าสักที เมขลาก็ร้องครวญเสียงสั่นเครืออีกครั้ง

“โอ๊ยย...ฮันนี่เจ็บข้อเท้ามากเลยค่ะ กัปตันดูให้ฮันนี่หน่อยว่าข้อเท้าแพลงหรือเปล่า”

ทั้งร้องโอดครวญทั้งจับมือใหญ่ของคาลมิลให้วางบนข้อเท้าของตน แล้วก็สูดปากเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเจ็บปวดเอาการ

ได้ยินเสียงร้องและเสียงสูดปากด้วยความเจ็บปวด คาลมิลก็รีบถอดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้าเล็ก โอบมือทั้งสองข้างรอบข้อเท้าแล้วค่อยๆ ลูบคลำพร้อมกับเงยหน้าบอกเมขลาว่า

“ข้อเท้าไม่บวม ผมคิดว่าข้อเท้าไม่น่าจะแพลงครับ”

ก็ไม่ได้สะดุดล้ม ข้อเท้าจะแพลงได้อย่างไร ที่ร้องเสียงสั่นเครือ ดาราสาวเล่นละครทั้งหมดนั่นแหละ พอคาลมิลวิเคราะห์ว่าข้อเท้าไม่น่าจะได้รับอันตรายใดๆ เมขลาก็บีบน้ำตาร้องไห้ออกมาในทันที

“แต่...แต่ฮันนี่เจ็บข้อเท้ามากเลยค่ะ”

“ถ้ายังงั้นเดี๋ยวผมจะเอาน้ำแข็งมาประคบให้นะครับ และเอายาแก้ปวดให้คุณทานด้วย ว่าแต่คุณฮันนี่พอจะลุกขึ้นยืนไหวไหมครับ”

“น่าจะไหวค่ะ” เมขลาแบ่งรับแบ่งสู้

“ค่อยๆ ลุกนะครับ ผมจะคอยประคองคุณเองครับ”

คาลมิลเอ่ยบอกเสียงอบอุ่น โอบต้นแขนไปรอบร่างเล็ก เพื่อเป็นการช่วยประคองให้หญิงสาวลุกขึ้นยืนเดินไปยังเตียงนอน

การเล่นละครของเมขลายังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านั้น หญิงสาวทำเป็นกัดฟันราวกับฮึดสู้ขณะลุกขึ้นยืน โดยจับต้นแขนแข็งแกร่งเป็นที่ยึดเหนี่ยว แต่พอดันกายลุกขึ้นได้แค่เพียงนิดเดียว ก็ทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิม แถมด้วยการร้องเสียงดังลั่นน้ำตาไหลพรากเป็นทางยาว

“โอ๊ยย...ฮันนี่เจ็บเท้ามากเลยค่ะ ฮันนี่...ฮันนี่ยืนไม่ไหวค่ะ...”

พอเมขลาล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นพรมอีกครั้งพร้อมกับร้องไห้สะอึกน่าสงสาร คาลมิลก็ตัดสินใจอุ้มร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน แล้วก้าวเดินยาวๆ ตรงไปยังเตียงนอนใหญ่

“ผมอุ้มคุณฮันนี่เองครับ”

เมื่อถูกอุ้มลอยจากพื้น เมขลาก็ยกแขนโอบรอบต้นคอซบหน้าลงกับแผงอกกว้างอย่างรวดเร็ว พอได้กลิ่นกายผสมกับกลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆ ที่โชยมาจากเรือนกายแข็งแกร่ง ก็ทำให้ดาราสาวต้องสูดปากด้วยความหิวกระหายอยากเผด็จศึกกัปตันหนุ่มผู้หล่อเหลาให้เร็วที่สุด

ทางด้านของคาลมิล ผู้ชายที่ใสซื่อในเรื่องความรัก ได้ยินเสียงสูดปากเพราะความกระหายในรสสวาท ก็เข้าใจผิดคิดว่าเมขลาสูดปากเพราะความเจ็บปวดที่เล่นงานตรงข้อเท้าของเธอ จึงก้าวเท้ายาวๆ ด้วยความรีบเร่งแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงเตียงนอนใหญ่ ก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงด้วยความทะนุถนอม

“เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำแข็งกับยาแก้ปวดมาให้คุณฮันนี่นะครับ”

“ค่ะ กัปตัน”

ปากนั้นรับคำ ทว่า...มือเล็กทั้งสองที่โอบกอดรอบลำคอยังคงกอดไว้แน่น และก็เล่นทีเผลอ ในขณะที่คาลมิลกำลังโน้นตัวเพื่อวางเธอลงบนเตียง พอแผ่นหลังสัมผัสกับเตียงใหญ่ก็ออกแรงดึงร่างใหญ่กำยำของคาลมิลให้ล้มลงมาทาบทับอยู่บนตัวของเธอ

คาลมิลไม่ทันระวังตัว พอถูกเมขลาออกแรงดึงทั้งๆ ยังคงโอบแขนรอบต้นคอของเขา ก็เสียการทรงตัว ล้มลงไปนอนทาบทับอยู่บนร่างบางเซ็กซีอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“โอ้ววว...ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ”

ในขณะคาลมิลร้องขอโทษและพยายามดันตัวออกจากร่างบาง เมขลาก็ไม่ปล่อยต้นแขน ขณะเดียวกันก็ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างใหญ่ แต่ไม่ใช่เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นเป็นอิสระ ทว่า...เป็นการดิ้นเพื่อให้ปทุมถันทั้งสองเสียดสีกับร่างใหญ่กำยำ ปลุกเลือดของคาลมิลให้ร้อนฉ่าต่างหาก

คาลมิลรู้สึกได้ถึงเรือนกายของตนที่เด่นผงาดชูชันขึ้นมาอีกครั้งจนเขาปวดหนึบไปทั่วทั้งตัว และด้วยเกรงว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ จึงแกะมือของเมขลาออกจากต้นคอของตนพร้อมกับเอ่ยขอร้องเสียงสั่นพร่า

“คุณ...คุณฮันนี่...ปล่อย...ปล่อยผมก่อนครับ”

มือเล็กที่เกาะเหนียวแน่นราวกับมือของตุ๊กแก ทำให้คาลมิลต้องใช้เวลานานหลายนาที กว่าจะดึงมือของเมขลาให้หลุดพ้นจากต้นคอของเขาได้

“กัปตันอย่าเพิ่งไปสิคะ อยู่เป็นเพื่อนฮันนี่ก่อน”

เมขลาอ้อนเสียงกระเส่า พอคาลมิลหลุดจากกรงเล็บของเธอไปได้ แถมยังก้าวถอยไปยืนซะห่าง ก็สรรหาวิธียั่วกัปตันหนุ่มอีกครั้ง ด้วยการชันเท้าทั้งสองขึ้น และนั่นส่งให้กระโปรงตัวสวยร่นขึ้นมาจนแทบมองทะลุเห็นกางเกงชั้นในผ้าลูกไม้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel