5 ไหนบอกว่าไม่กลัว
พีรกันต์นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถคันหรู ตาคมมองตัวเลขสิบหลักที่ได้มาจากผู้ช่วยพยาบาลเมื่อครู่จากนั้นก็บันทึกตัวเลขลงในโทรศัพท์ก่อนจะกดโทรออก
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับเนย คุณกำลังอะไรอยู่”
“ขอโทษนะคะคุณเป็นใครคะ”
“เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงก็ลืมแล้วเหรอ”
“ถ้าไม่บอกว่าตัวเองเป็นใครฉันจะวางสายแล้วนะคะ”
“ผมชื่อกันต์ เราเจอกันในผับครั้งหนึ่งแล้วก็เมื่อกลางวันที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งคุณจำเสียงผมไม่ได้เหรอ”
“วันหนึ่งฉันคุยกับคนเยอะแยะไปหมดฉันจะจำได้ยังไง”
“จำไม่ได้หรือแกล้งลืมกันแน่ล่ะครับ”
“ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน”
“ก็เพราะคุณกลัวที่จะต้องไปทานข้าวกับผม คุณเลยรีบกลับโดยไม่รอเจอผม”
“ฉันไม่กลัวแล้วก็ไม่หนีแต่ฉันเลิกงานแล้วจะให้ฉันอยู่รอคุณทำไม”
“แล้วทำไมไม่บอกผมว่าวันนี้เลิกงานเวลาไหน”
“คุณถามฉันเหรอคะ” หญิงสาวย้อนถาม
“ผมผิดเองที่ไม่ถามให้ดีก่อน แต่ช่างมันเถอะที่ผมโทรหาเพราะอยากถามว่าเรื่องกินข้าวของเราคุณจะเอายังไง”
“เอาไว้วันอื่นได้ไหมล่ะ”
“วันนี้ไม่ได้เหรอครับ”
“กลัวฉันเบี้ยวเหรอคะ”
“ใช่ครับ”
“คุณนี่ดูจริงจังกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนกันนะคะ ถ้าจะให้ฉันเลี้ยงข้าวก็อย่ากินแพงมากก็แล้วกันฉันเงินเดือนน้อย”
“ผมกินง่ายอยู่แล้วคุณจะไปกินที่ไหนบอกมาเลยเดี๋ยวผมไปรับ”
“ไม่ต้องมารับให้เสียเวลาหรอกค่ะ ร้านที่ฉันจะพาคุณไปกินอยู่หน้าโรงพยาบาลอีก 20 นาทีเจอกันที่ร้านป้าแอ๋วนะคะ ร้านหาไม่อยากเลย อย่ามาช้านะคะเพราะถ้าคุณไม่มาตามเวลานัดฉันจะถือว่าฉันได้ทำตามสัญญาแล้ว” หญิงสาวคิดว่าเวลาแค่นี้เขาไม่น่าจะมาทันเพราะหน้าโรงพยาบาลมีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้านและร้านป้าแอ๋วที่เธอบอกเขาก็เป็นร้านเล็กๆ และไม่มีป้ายชื่อบอกถ้าขาจะเดินถามก็คงเสียเวลามากไหนจะต้องหาที่จอดรถหน้าโรงพยาบาลอีก ยังไงเขาก็คงมาไม่ทัน
“ได้สิผมจะไปรอคุณที่ร้านป้าแอ๋วนะ คุณจะกินอะไรให้ผมสั่งไว้รอเลยดีไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไปถึงฉันค่อยสั่งก็ได้ตอนนี้นาฬิกาของฉันเริ่มจับเวลาแล้วนะคะ”
“แล้วเจอกันนะเนย” เขาเรียกด้วยความสนิทสนมก่อนจะวางสาย
พีรกันต์เคยมาเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่นี่เขาเลยรู้ว่าร้านป้าแอ๋วที่หญิงสาวพูดถึงนั้นอยู่ที่ไหน และถ้าเอารถไปก็คงหาที่จอดยาก ชายหนุ่มเลยจอดรถในโรงพยาบาลและเดินออกไปแทนที่จะขับรถไปจอด
เขาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็เดินมาถึงร้านป้าแอ๋วแต่คนที่นัดไว้กลับยังมาไม่ถึง พีรกันต์คิดว่าเธอน่าจะหลอกให้เขามาเก้อจึงคิดจะโทรศัพท์ไปบอกแต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสาย เขาชะเง้อมองไปทางหน้าร้านแล้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นรัญรวีกำลังเดินข้ามทางม้าลายมา
วันนี้หญิงสาวแต่งกายไม่เหมือนกับที่เจอครั้งแรกเธอสวมกระโปรงผ้าพลิ้วสีครีมยาวคลุมเขาส่วนเสื้อก็เป็นเสื้อแขนตุ๊กตาพอดีตัวพีรกันต์ชอบแบบนี้มากกว่าชุดสาวเดี๋ยวอีกร้อยเท่าเพราะเขาเป็นคนชอบผู้หญิงสไตล์นี้อยู่แล้ว
“ผมนึกว่าคุณจะเบี้ยว นั่งก่อนสิครับ”
“คุณมาก่อนเวลานี่คะ” รัญรวีแปลกใจที่เขามาทันและยังมาถูกร้านอีกด้วย ตอนที่เขาโทรศัพท์เข้ามาเมื่อครู่เธอตั้งใจไม่รับสายเพราะคิดว่าเขาจะโทรถามว่าร้านป้าแอ๋วอยู่ที่ไหนแต่พอเห็นว่าเขานั่งรออยู่ก่อนแล้วเธอก็ต้องยอมมาเลี้ยงข้าวตามที่ตกลงกันไว้
“พอดีผมยังอยู่แถวนี้ก็เลยมาก่อน”
“จะกินอะไรล่ะ สั่งหรือยังคะ”
“ผมหิวมากก็เลยสั่งไปแล้วคงไม่ว่ากันนะครับ คุณจะกินอะไรเดี๋ยวผมเดินไปสั่งให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปสั่งเองได้คุณจะเอาน้ำอะไรไหมข้างร้านมีน้ำผลไม้ปั่น”
“ผมขอเดินไปสั่งเองดีกว่าจะดูด้วยว่ามีอะไรบ้างแล้วคุณจะเอาน้ำอะไรครับ”
“ขอแคนตาลูปนมสดค่ะ อย่าเพิ่งจ่ายตังนะคะ”
“คุณจะเลี้ยงน้ำผมด้วยเหรอ”
“กินข้าวก็ต้องกินน้ำค่ะ เลี้ยงข้าวกับน้ำคุณแค่นี้ฉันคงไม่จนลงหรอก”
“ขอบคุณครับคุณนี่สวยแล้วยังใจดีอีกนะ” คนชมเดินไปยังร้านน้ำผลไม้ปั้นแล้วแต่คนถูกชมยังยืนอยู่ที่เดิมกว่าจะก้าวขาไปสั่งข้าวก็ผ่านไปหลายวินาทีเพราะไม่ชินที่มีใครชมต่อหน้าแบบนี้
“คุณทำงานที่นี่นานหรือยังครับ” พีรกันต์ชวนคุยระหว่างทานอาหารเพราะอยากทำความรู้จักหญิงสาวให้มากขึ้น
“ก็ตั้งแต่เรียนจบค่ะ”
“ใช้ทุนเหรอครับ”
“ค่ะ” เธอเงยหน้ามองและนึกแปลกใจที่เขารู้เรื่องทุนของนักเรียนพยาบาล
“ผมเห็นพยาบาลจบใหม่บางคนเอาเงินส่วนตัวใช้ทุนแล้วไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน”
“ค่ะบางคนก็เลือกแบบนั้น”
“คุณล่ะไม่คิดจะทำบ้างเหรอ” เขาอยากชวนเธอไปทำงานที่โรงพยาบาลของเขาเพราะอยากจะได้เจอเธอให้บ่อยขึ้น
“ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้ามีมากก็คงเลือกทำงานในโรงพยาบาลของรัฐมากกว่า”
“ทำไมล่ะครับ ผมว่าเดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเอกชนหลายๆ ที่ก็มีสวัสดิการดีและถ้าทำจนเกษียณก็มีเงินก้อนให้ด้วยนะครับ”
“ค่ะ ฉันก็เคยได้ยินมาบ้างคะ แต่มันก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าเขาจะไม่ไล่เราออก ถ้าเกิดทำจนอายุ 40 ปี แล้วเขาเลิกจ้างขึ้นมาเพราะอยากจะเปลี่ยนมาจ้างพยาบาลสาวๆ มาทำงานล่ะคะ การตกงานตอนอายุขนาดนั้นคงเครียดน่าดูเลยค่ะ”
“มันก็จริงของคุณนะครับ” เขาไม่เคยมองมุมนี้มาก่อนเพราะเพิ่งเข้ามาทำงานแทนบิดาแบบเต็มตัวได้เพียงแค่สองปีเท่านั้น
คำพูดของรัญรวีทำให้เขาต้องกลับไปคิดว่าเวลารับสมัครพยาบาลเขาจะทำยังไงให้คนที่จะไปสมัครมั่นใจว่าตนเองจะไม่ถูกเลิกจ้าง หรือถ้าโรงพยาบาลต้องการเลิกจ้างก่อนอายุ 60 ปี เขาจะมีงานอื่นรองรับพยาบาลเหล่านี้หรือจะจ่ายเป็นเงินชดเชยเพราะที่ผ่านมาพยาบาลที่มาทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนมักจะทำกันไม่นาน บางคนก็ลาออกก่อนที่จะถึงวัยเกษียณ
“คุณจะทำหน้าเครียดทำไมคะ” เมื่อเห็นเขานิ่งแล้วคิ้วขมวดรัญรวีก็อดถามไม่ได้
“ผมคิดตามที่คุณพูดไงครับ ถ้าต้องตกงานตอนอายุมากก็คงไม่ใช่เรื่องดี”
“ฉันก็พูดไปตามที่คิดค่ะ อาจจะมองไปในแง่ลบนิดหน่อย”
“ผมว่ามันก็เป็นความจริงอย่างหนึ่งนะครับ คนเราทำงานไปนานก็คงอยากได้ความมั่นคง ผมว่าผมเข้าใจสิ่งที่คุณพูดนะ”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ ถ้ายังไม่อิ่มจะสั่งเพิ่มก็ได้นะคะ”
“แค่นี้ก็อิ่มมากแล้วครับ”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิ คุณอุตส่าห์เลี้ยงข้าวผมแล้วผมยินดีให้คุณถามทุกอย่างเลยครับ”
“ฉันจะถามว่าเย็นนี้คุณตั้งใจมาหาฉันหรือมาเยี่ยมญาติคะ”
“ไม่ว่าเมื่อกลางวันหรือเย็นนี้ผมก็ตั้งใจมาหาคุณ”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันทำงานอยู่ที่นี่เพราะฉันแน่ใจว่าเราสองคนไม่เคยเจอกันเลย”