Chapter 5
“นายชอบเธอหรือไง”
“สวยดี ได้สักครั้งก็จะดีนะ” กลดก็เป็นเหมือนพี่ชายไม่มีความรัก ก็แค่ชอบหรือทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันในใจ ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นอีก พวกเขารักใครไม่ได้การแก่งแย่งผู้หญิงในตระกูลจะไม่เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
“นายหมายความว่ายังไง” กริชขมวดคิ้ว
“แค่ได้นอนด้วย ผมคงไม่รักเธอ” ต่อให้อยากรักก็ต้องหักห้ามใจ
“อย่าเชียวนะ ห้ามมีรัก ทั้งฉันและนายต่างหนีคำๆ นี้”
ก้อง น้องชายคนเล็กก้าวพ้นการแก่งแย่งการได้แต่งงานสาบานรักกับคนรัก ต่อหน้าบาทหลวงในวันแต่งงานถือว่าเป็นการพ้นวงจรคำสาป จากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น เรื่องเล่าจากงปู่ ว่าลูกชายแห่งตระกูลอเล็คเซีย คนที่จะก้าวพ้นวงจรคำสาปในตระกูลได้ ต้องพบกับรักแท้ที่หญิงสาวมอบให้ทั้งตัวและหัวใจโดยแท้จริง สำคัญที่สุดจะต้องผ่านพิธีแต่งงานอันศักดิ์ศิทธิ์ในโบสถ์ ได้กล่าวคำสาบานรักร่วมกันในวันตัดสินใจใช้ชีวิตคู่
ที่สำคัญไปกว่าความรักผู้หญิงคนรักจะต้องไม่มีความกังวล ห่วงหน้าพะวงหลัง เผื่อแผ่หัวใจให้กับหนุ่มอื่นในตระกูลคนอื่น จากนั้นหัวใจรักที่ทรงคุณค่าจะทำหน้าที่หลอมละลายคำสาปนั้นเอง ไม่ว่าพี่ชายหรือ น้องชาย ในตระกูลจะมีคนรักใหม่ คนที่ได้ผ่านการสาบานรัก ก็จะไม่มีหัวใจรักไปรักผู้หญิงคนเดียวกันอีกเลย
“แหม...พี่กริช ถึงเวลาเราสองคนก็ต้องมีความรักกับใครสักคนที่เป็นของเราจริง”
“ฉันไม่ต้องการต่อสู้กับคนในตระกูล โดยเฉพาะน้องอย่างนาย”
“เราหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ นอกจากจะมีใครสักคนอย่างที่ปู่ว่าไว้”
“ใครล่ะจะเป็นคนๆ นั้น พอเถอะเลิกคิด เราอยู่แบบนี้ก็มีผู้หญิงมาให้รัก...บนเตียงทุกคืนนี่นา”
กริชรู้ดีว่าตัวเองกับน้องชายกำลังเผชิญปัญหากันอยู่เงียบ โดยมีผู้หหญิงบนป้ายบิวบอร์ด เป็ยตัวแปรต่อให้กลดยังไม่เจอตัวจริงเธอก็ตาม หรือว่าคำสาปเริ่มแสดงผลตั้งแต่ตอนนี้ จึงทำให้พวกเขาชอบคนที่อยู่ในภาพ กริชสวดอ้อนวอนอย่าให้ตัวเองถึงขั้นรักเธอ เชื่อว่าชอบเท่านั้น บางครั้งการเฝ้าสวดของกริชพ่ายต่ออำนาจของคำสาป เขาย่อมรู้ใจตัวเองมากกว่าคนอื่นจะมารู้ใจ เมื่อเริ่มรู้สึกพิเศษกับคนในภาพโฆษณา เกินจะห้ามปรามความรู้สึก หัวใจเขาเต้นแปลกๆ เพียงแค่จูบแรกกับเธอ
รถยนต์แล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้านอเล็คเซีย สองหนุ่มก้าวลงจากรถทักทายบิดามารดา พูดคุยกันนิดหน่อยจึงแยกย้ายกันไปอาบน้ำ ก่อนจะมารับประทานอาหารร่วมกัน ก้องมาถึงก่อนพร้อมภรรยา พวกเขายิ้มให้กันแบบสายเลือดแน่นแฟ้น ทิ้งความบาดหมางไว้ในอดีต ไลลาค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในครอบครัว ต่อให้มีเรื่องในอดีตสะกิดใจอยู่ก็ตาม
“วาม สืบเรื่องผู้หญิงคนนั้นให้ฉันที” กริชหยิบโทรศัพท์คุยกับบอดี้การ์ดขณะอยู่ในในห้องส่วนตัว เขาร้อนรนทนไม่ไหวจึงต้องรีบคุยกับวามในเรื่องของเธอ จูบนั้นมีผลต่อหัวใจเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ ความเป็นคนสาธารณะของชิดตะวัน กริชจึงต้องทำอะไรแยบยลมากกว่าบุ่มบ่ามยึดตัวเธอมาเป็นของเขา
“เจ้านายชอบ...เอ่อ...เธอหรือครับ”
“ก็แค่...ต้องการแน่ใจ เธอไม่มีใคร”
“คิดจะล้างอำนาจของคำสาปหรือครับ”
“อย่าพูดมาก สั่งให้ทำอะไรก็ทำเถอะ” วามรู้มากเกินไปแค่เอ่ยปากหมอนั่นก็เข้าใจ กล้ายอกย้อนเขาซะได้
“ครับเจ้านาย”
“เร็วๆ ด้วย” เขาใจร้อนอีกตามเคย
“ครับ ไม่เกินสิบสองชั่วโมงได้ครบทั้งภาพและเสียงพร้อมทั้งข้อมูลครับ” ดาราสาวเป็นคนสาธารณะเชื่อว่า ข่าว ประวัติของเธอย่อมเป็นเรื่องง่ายในการเข้าถึง
“ดี...ฉันชอบคนทำงานเร็ว” วามไม่เคยทำให้ผิดหวัง
“ถ้าเจ้านายไม่ทำงานมากเกินไป หรือพาตัวเองไปดำดิ่งอยู่กลางหุบเขา เชื่อว่าต้องรู้จักชิดตะวันดาราสาวที่มีความโด่งดังมากที่สุดในตอนนี้แน่ๆ ครับ”
“จะมาไปแล้วนะ กล้าว่าฉันหลังเขาหรือไง”
กริชตัดการสนทนากับวามมองหน้าจอโทรศัพท์ ยังคงคิดถึงรสจูบ รู้สึกวาบหวิวซ่านทั่วหัวใจ ใจคิดร่างกายก็ส่งผลไปด้วยเขารู้สึกถึงไอร้อนพุ่งกระแทกร่าง นานแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับใครเลย
ได้เวลาปาร์ตี้ของครอบครัวกับอาหารมื้อพิเศษ มิสเตอร์อรัณประมุขคฤหาสน์ กรกชภรรยา กริช กลด ก้องและภรรยา ร่วมโต๊ะอาหารในรอบหลายวันที่ไม่ได้พบกัน ก้องแต่งงานกับไลลาย้ายไปอยู่เรือนหอที่ได้ของของขวัญจากพ่อแม่ ในบริเวณไม่ไกลกัน ส่วนกริชส่วนใหญ่อยู่คอนโดบ้าง พักที่เรือบ้าง เขาต้องเดินทางดูแลกิจการ สำหรับกลดค้างบนเรือเป็นส่วนใหญ่ ดูแลคุมกาสิโนสกานที่ดูดเงินจากนักพนัน
วงสนทนาในมื้ออาหารจึงมีเรื่องพูดคุยกันหลายเรื่อง สามหนุ่มจะโทรชวนกันเพื่อกลับมาเยี่ยมบิดาและมารดา ในวัยเกษียนยกกิจการให้กับลูกๆ ดูแลทำหน้าที่เพียงที่ปรึกษา ปกติแล้วสามหนุ่มมักว่างไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นวันวันครอบครัวพวกเขาต้องทำตัวว่างให้ได้ เพื่อร่วมรับประทาอาหาร อีกทั้งเล่าเรื่องต่างๆ สู่กันฟัง ไม่ว่าปัญหาต้องช่วยกันแก้ไข
“กริช ได้เวลามีแฟนหรือยัง อายุมากแล้วนะ” มารดาที่มีความสวยไม่เปลี่ยน อดถามเรื่อง นางเป็นห่วงหัวใจลูกทุกคนเชื่อว่ากริชเป็นผู้เสียสละมามากพอ ถึงคราวที่ตัวเองจะมีความสุขบ้าง ตั้งแต่ตอนนั้นกริชไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านสักคน ข่าวมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงแว่วเข้ามาให้ได้ยินแทบทุกวัน
“ช่างมันเถอะแม่ ผมคงต้องอยู่เป็นโสดจนวันตายแหละ” กริชพูดเหมือนปลง ไม่ใช่ปลงแต่เขาไม่คิดจะรักใครต่างหมาก
“โถ...กริช พูดซะเหมือนปลง”
“ไม่นะครับ แค่ผมมองว่าความรักเป็นเรื่องวุ่นวาย” เขาปรายตาไปทางไลลาที่นั่งข้างก้อง ไลลาขยับตัวอย่างอึดอัดไม่กล้าสบตากับคนที่ทอดตามองเธอ
“กลดเสียสละได้นะครับ จริงไหมก้อง” กลดหันไปแขวะก้องที่นั่งนิ่งฟัง
“อ่า...คงใช่” ก้องไม่โต้แย้งในตอนนั้นรู้แต่ว่าพอพบกับไลลา เขาหลงรักเธอจนไม่อาจเสียสละเธอให้กับใครได้
ไลลาไม่เคนลืมวันวาน จำความรู้สึกที่เธอต้องเป็นฝ่ายตัดสินหัวใจตัวเองได้แม่นยำ ไม่ว่าเสียน้ำตา สักกี่หยดกับความทรมาน ค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง เธอรักใครกันแน่ การพบกับก้องไม่กี่ครั้งกลับทำให้เธอปันใจจากกริชไปรักก้อง ซ้ำกลดก็ยังมีใจกับเธอจนกระทั่งขอเธอเป็นแฟน การตัดสิใจครั้งนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สุดท้ายเธอเดินตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ ใช้สมองให้น้อยที่สุด ก้องรักเธอ ไม่ต่างกับกริชและกลด
ในการตัดสินใจครั้งนั้นกลับได้คำอวยพรให้กำลังใจจากบิดาพร้อมทั้งมารดาสามหนุ่ม ไม่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวกับผู้หญิงสามใจอย่างเธอ เธอรักกริชชอบกลดลึกซึ้งกับก้อง
“ไงกริช ได้ข่าวมีปัญหาที่กาสิโน จัดการไปถึงไหนแล้วล่ะ”อรัณ ประมุขอเล็คเซียหันไปถามลูกชายคนโต เขาเป็นหนุ่มจากเมืองผู้ดี ตัดสินใจทิ้งถิ่นที่อยู่เดิมเมื่อพบรักกับสาวไทย หนีจากปัญหาคำสาปรัก กลับไม่สามารถหนีพ้น เขาได้พิสูจน์ความรักระหว่างกรกชกับตนเอง จิตใจกรกชมั่นคงไม่สั่นคลอนกับความหล่อเหลาพี่น้องของเขา เธอเลือกเขาเป็นเจ้าบ่าวแทนพี่ชายและน้องชาย จนฝ่าฝันหัวใจเข้าสู่โบสถ์และพิธีศักดิ์สิทธิ์
“จัดการไปบ้างครับแด๊ด”
“แด๊ดเชื่อว่ากริชกับกลดต้องจัดการได้ ลูกแด๊ดเก่งและฉลาด” ยกเว้นเรื่องความรัก
“แม่ขอบใจกริชเรื่องขอก้องด้วยนะ กลดก็ด้วยแม่ขอบใจที่ลูกทั้งสามไม่บาดหมางกัน” กรกชพูดประโยคนี้บ่อยครั้งจนลูกๆ ทั้งสามจำได้
“พี่น้องรักกันครับ แม่ไม่ต้องห่วง”
“คืนนี้ค้างที่บ้านนะ ทั้งสามคนเลย แด๊ดคิดถึงอย่างจะคุยด้วยทั้งคืน”
“ครับแด๊ด” ทั้งสามหนุ่มพี่น้องพยักหน้ารับปากบิดา