บทที่ 4 การเผชิญหน้ากับกระทิงดุ 1.3
“โอ๊ย เจ็บ เจ็บค่ะคุณคมน์”
เธอร้องบอกเขาเสียงเครือ หวังจะให้เขาหยุดความรุนแรงที่เพิ่มระดับมากขึ้นเรื่อย แรงถาโถมของเขาจะพูดได้ว่าสุดแรงเกิดเลยก็ว่าได้ ความเร็วและหนักหน่วงของกายแกร่งที่รุกล้ำเข้ามา ทำให้กลีบสาวเกิดความร้อนที่คละเคล้ามากับความเจ็บปะปนกับความเสียง
คมน์กระชั้นร่างเข้าใส่กระต่ายน้อยเร็วขึ้น เขาอัดกระแทกกายแกร่งลงไป ทำเป็นจังหวะจากสั้นๆ เป็นยาวๆ ถอนตัวตนออกมาเกือบสุด กระโจนจ้วงลงไปใหม่ทิ้งน้ำหนักตัวมากขึ้นพร้อมกับความแรงที่มากตามไปด้วย คมน์ไม่สนใจเลยว่า สาวร่างเล็กใต้ร่างจะทานทนได้หรือไม่ มีเพียงเรื่องเดียวที่เขาสนใจก็คือ การทำลายล้างทายาทคนเดียวของอังคณา
มือใหญ่ทั้งสองข้างเปลี่ยนมาจับขาของเธอให้ยกขึ้นสูง แล้วดันโย้ลงไปแนบที่สีข้างของเธอจนหัวเข่าติดบนที่นอน ท่วงท่านี้ทำให้คมต้องขยับตามไปด้วย โดยเขาลุกขึ้นยืนไม่เต็มขามากนักจะเรียกว่าย่อตัวก็ได้ เมื่อจัดท่วงท่าเรียบร้อยแล้วคมน์รีบเดินเครื่องต่อไปทันที เขากระแทกกายแกร่งอย่างไม่ออมแรงมีแรงเท่าไรสาดใส่ลงไปหมด อัดกระแทกทีเดียวสุดลำตัว เขาทุ่มแรงอัดกระแทกลงไปทั้งตัว ไม่หยุดพัก ไม่ผ่อนแรง ยิ่งทะลวงลึกเขายิ่งเสียวและสะใจ ยิ่งได้ยินเสียงครางเจ็บของเธอเขายิ่งชอบใจ
“อา อา คุณคมน์ เจ็บ คุณคมน์”
การที่เขาร่วมรักกับเธอท่วงท่านี้ทำให้หญิงสาวไม่สามารถขยับกายหนีไปไหนได้เลย นอกจากต้องทนแบกรับทั้งความเจ็บ ความเสียวและความมันไว้เท่านั้น ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหลายด้วยเสียงครางที่ดังออกมาไม่ขาดปาก คมน์เองไม่สนใจอยู่แล้วว่าเธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน ตอนนี้เขาบอกได้คำเดียวว่า มันสุดๆ
เขายังคงซอยถี่ต่อไปอย่างติดลม รุจิเรศเองก็ยังคงร้องครางและนอนดิ้นส่ายไปมาเหมือนปลาช่อนถูกทุบหัว ร้องครางด้วยความเสียวใจจะขาด มือไม้เย็นเฉียบ เขาถาโถมร่างกายอย่างต่อเนื่องไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คมน์เปลี่ยนท่วงท่าใหม่ด้วยการ พลิกร่างบางให้นอนตะแคง ร่างหนาล้มตัวลงนอนตะแคงซ้อนแผ่นหลังบาง ยกเรียวขาด้านบนของเธอขึ้นสูงตั้งฉาก หลังจากนั้นเขาเริ่มดำผลุบดำว่ายกระทิงน้อยอวบใหญ่เข้าออกกลีบสาวเร็วรัว แผนอกกว้างเสียดสีกับแผ่นหลังบาง ร่างสองร่างชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ กลิ่นกายชื้นเหงื่อของรุจิเรศตอนนี้กระตุ้นความกำหนัดให้กับเขามากขึ้น เป็นยาชูกำลังให้เพลิงพิศวาสเพิ่มพูน
“โอว...” เสียงห้าวทุ่มต่ำดังขึ้น
“อือ คุณคมน์” เสียงหวานดังประสาน
เขาปล่อยมือที่จับขาของเธอก่อนจะมาวางทาบบนทรวงอกนุ่มหยุ่น บีบเคล้นแล้วเริ่มกลายเป็นขยำ ปากหนาซบลงตรงท้ายทอยใช้ปลายลิ้นตวัดไปมาตามผิวเนื้อ ไล้ไปเรื่อยๆ ตามบ่าเนียน วกต่ำลงไปตามแผ่นหลัง มือใหญ่ละจากทรวงอกตูมเต่ง คลึงปุยไหมนุ่มมือเบาๆ จากนั้นปลายนิ้วสัมผัสกับพลอยสีชมพูสวย หยอกเย้าจนเอกายสั่น เปล่งเสียงครางกระเส่าดังขึ้นเป็นเท่าตัว เธอกำลังว่ายวนอยู่ในห้วงเสน่หาที่ไม่รู้ว่าเวลาใดถึงจะจบสิ้น ร่างของกระต่ายน้อยเหนื่อยล้าเต็มทน อยากจะให้เขาหยุดการกระทำนี้เร็วๆ เพื่อที่เธอจะได้หลุดพ้นจากเกมรักที่ยาวนานนี้เสียที ดูเหมือนว่ามันจะไม่จบง่ายๆ เมื่อเขาเปลี่ยนท่วงท่าใหม่อีกครั้ง
คมน์ยันกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะตวัดเรียวขาไปอยู่ด้านข้างสะโพกของเขา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนกางขาออกเล็กน้อยโดยรั้งเอวเล็กให้ลอยตามขึ้นไปด้วย ตลอดทั้งลำตัวของร่างสาวไม่มีส่วนไหนสัมผัสกับพื้นที่นอนเลย มีเพียงศีรษะ ท้ายทอยและช่วงไหล่ ลำแขนเท่านั้นที่แนบสนิทอยู่บนที่นอน มือใหญ่รั้งเอวเล็กเข้าหากายแกร่ง ในขณะที่เขาพุ่งชนกลีบดอกไม้สวยสดด้วยพละกำลังของกระทิงน้อยดุดัน รุจิเรศแทบจะแดดิ้นคาเตียง กำผ้าปูที่นอนแน่นจนมันยับยู่ยี่ ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับปล่อยเสียงครางไม่หยุดหย่อน
“คุณคมน์ พอเถอะคะ หนูนา หนูนาไม่ไหวแล้ว อา อือ”
รุจิเรศร้องครวญครางพูดอ้อนวอนให้เขาหยุด ทว่าคมน์ไม่ได้หยุดเกมสวาท ตอนนี้เขากำลังเมามันกับการกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าใส่ร่างสาวที่คับแน่น ฟิตตึงมันทำให้เขาไม่อยากหยุด ไม่อยากให้เกมนี้จบลงโดยเร็ว
“โอว มัน มันที่สุดเลย อา”
เสียงทุ้มต่ำดังครางบ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี ขนในกายของเขาลุกตั้งชันรับอาการตอดรัดของดอกไม้งาม ความสะท้านเสียวที่มีอยู่มากมายทำให้หน้าท้องแข็งแรงเกร็งจนขึ้นเป็นลำนูน เช่นเดียวกับเธอที่แขม่วท้องรับความสยิว
คมน์จับขาเล็กทั้งสองข้างพันรอบเอวหนา ก่อนจะโน้มละตัวลงไปหาร่างบางสอดแขนเข้าไปใต้รักแร้ของเธอ ยกตัวของเธอขึ้นสูง ลำแขนเล็กโอบกอดลำคอหนาไว้ทันทีเพราะกลัวหล่น เนื่องจากตอนนี้ร่างเล็กถูกร่างใหญ่อุ้มอยู่ เขาไม่รอช้าให้เสียเวลา จับเอวของเธอไว้มั่นยกขึ้นสูงแล้วกดอัดกระแทกลงมา
“อา อืม คุณคมน์ คุณคมน์”
รุจิเรศเสียวเกินคำบรรยาย เสียวจนร่างกายเธอเกร็งไปหมด ท่วงท่านี้ทำให้ตัวตนของเขาแทรกลึกลงไปได้มากกว่าเดิม มากกว่าท่วงท่าที่ผ่านมาเสียอีก เขาจับอัดกระแทกอย่างเร็วรัว โน้มใบหน้าจูบปากอิ่ม เลื่อนไปซุกไซร้ซอกคอ แล้ววนมาจูบเธออีกหน เขาไม่ได้ขยับร่างเธอให้กระชั้นลงมาฝ่ายเดียว เขาเองก็อัดกระแทกสวนกลับไปด้วย เธอผลักใบหน้าของเขาออกเพื่อปลดปล่อยเสียงครางที่จุกแน่นในลำคอ ถ่ายเทความร้อนมามายในกายปลดปล่อยเป็นเสียงคราง
“คุณคมน์ อา”
“โอว พระเจ้า เสียวเหลือเกิน ดีเหลือเกิน โอว”
เขาเองก็ครางดังไม่แพ้กับเธอเลย เหมือนความอดทนของเขาจะสิ้นสุด หลังจากที่อดกลั้นมานานเกือบหนึ่งชั่วโมง เขาจับร่างสาวให้นอนราบบนเตียง ส่วนเขานั่งคุกเข่าระหว่างขาสวย จับปลายข้อเท้าของเธอขึ้นสูง ก่อนจะแยกออกจากกันเป็นมุมฉาก จากนั้นก็เริ่มซอยถี่ร่างกายมากขึ้น ก้มใบหน้าลงมองกระทิงน้อยดุดันเคลื่อนตัวเข้าหากลีบสาว ใจของเขาสั่นรัว เสียวปานจะขาดใจ
“คุณคมน์ กรี๊ดดด”
การเร่งเร้าของเขาทำให้รุจิเรศถูกเหวี่ยงให้ขึ้นไปบนวิมานชั้นฟ้า มองหมู่ดาวที่สุกสกาวนับพันดวงด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข คราวนี้ถึงตาของเขาบ้างที่จะเดินไปยังสวรรค์ที่เห็นอยู่รำไร กระทิงดุขับเคลื่อนตัวเองด้วยความเร็วรี่ มือใหญ่เอื้อมมาบีบเคล้นทรวงอก พร้อมกับเอวที่ยังคงซอยระรัวไม่นับ ในที่สุดความปรารถนาของเขาก็เดินทางมาถึงที่สิ้นสุดในจังหวะสุดท้ายที่เขากระแทกกระชั้นเข้าใส่คนตัวเล็ก ระเบิดสายนทีอุ่นร้อนมากมายรินรดดอกไม้แรกแย้ม
ใบหน้าคมซบบนทรวงอกกระเพื่อมแรงของเธอ ระบายลมหายใจเหนื่อยหอบออกมา ก่อนจะเลยหน้ามองดวงหน้าสวยโรยแรง ดวงตาของเธอปรือสะลืมสะลือเหมือนคนกำลังจะหลับ ริมฝีปากเผยอนิดๆ น่าจูบเหลือคณา ลมหายใจยังขาดห้วงเพราะเหน็ดเหนื่อยกับเกมสวาทครั้งแรกของวัยสาว
“เหนื่อยแล้วเหรอ? ฉันยังไม่เหนื่อยเลย”
เขาพูดชิดเรียวปากสีทับทิม จูบเบาๆ ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามาซุกตรงซอกคอ ดูดซับความหวานรอบลำคอ ขบเม้มอย่างหมั่นเขี้ยวหลายจุด ทำให้กายสาวสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเพิ่งสงบนิ่งได้ไม่ถึงสามนาที
“หนูนา หนูนาเหนื่อยค่ะ หนูนาอยากนอน”
เธอบอกเขาเหมือนกับที่ใจคิด ตอนนี้กระต่ายน้อยตัวนี้เหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยเกินกว่าที่ดำเนินเกมรักกับเขาอีกรอบ เออยากจะหลับมากที่สุด แต่ดูเหมือนความตั้งใจจะเป็นหมัน เนื่องจากตอนนี้ทั้งปากและมือของเขากำลังทำงานเต็มที่ กายแกร่งที่ยังฝังลึกในร่างกาย ขยายตัวเต็มที่อีกครั้งจนเธอรู้สึกอึดอัด
“ทำงานให้คุ้มกับเงินที่ฉันเสียไปหน่อยสิ อย่าลืมว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร อย่าลืมหน้าที่ของเธอสิ”
คำพูดของเขาทำให้คนฟังเหมือนถูกตบหน้ารู้สึกชาดิก จริงอย่าที่เขาพูด เธอต้องทำงานให้คุ้มกับเงินที่เสียไป เงินจำนวนสามสิบล้านบาท มันมากมายนัก มากจนเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำงานเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม ไม่มีถ้อยคำคัดค้านหรือร้องขอออกมาจากปากของรุจิเรศอีกเลย จะมีก็เพียงเสียงครวญครางที่ดังออกมาไม่ขาดปาก กระต่ายน้อยต้องแบกรับความกลัดมันของกระทิงดุไปตลอดค่ำคืน