บทที่ 2 การเผชิญหน้ากับกระทิงดุ 1.1
เป็นครั้งแรกที่รุจิเรศได้รู้จักกับรสจูบ มันซาบซ่านหวามหวิวอย่างนี้เองหรือ ปลายลิ้นใหญ่พุ่งล้ำเข้ามาฉกเฉวียนลิ้นเล็กของเธอด้วยความเร่าร้อน สมองของสาวน้อยอ่อนหัดเริ่มงงงวย ยามที่ลิ้นใหญ่แลกรัดเกี่ยวพันลิ้นนุ่ม ดูดดึงเข้าไปในโพรงปากของเขา อาการสั่นประสาทของกระต่ายน้อยเกิดขึ้นในฉับพลัน
มือแกร่งทำงานไปพร้อมกับปากของเขา แยกสาบเสื้อคลุมออกจากกันให้มากกว่าเดิม เพื่อให้มือของเขาบีบเคล้นทรวงอกใหญ่ได้ถนัด ฝ่ามือบีบจับความนุ่มแน่นตึงอย่างเมามัน แบฝ่ามือออกก่อนจะคลึงเคล้าให้ยอดอกของเธอนั้นเสียดสีกับกลางฝ่ามือหนา ปทุมถันห่อตัวเป็นเม็ดสวยรับความเสียวสะท้านที่อาบซ่านไปทั้งกาย ร่างสาวสั่นระริก กลีบปากที่เขายังคงบดเคล้าไม่ห่างนั้นสั่นจนคมน์รู้สึกได้ ดวงตาของสาวน้อยแรกแย้มสะลึมสะลือเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่น
“พร้อมแล้วใช่มั้ย”
เขาถามเมื่อละจากปากนุ่มสีทับทิม รุจิเรศอยากจะตอบออกไปเหลือเกินว่า ‘ไม่พร้อม’ ทว่าเขากลับไม่เปิดโอกาสให้เธอตอบ คมน์แนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง สอดปลายลิ้นสากใหญ่เข้ารัดเกี่ยวพันพัวลิ้นนุ่ม พลิ้วสะบัดอย่างเร่าร้อน บางครั้งดูอ่อนโยน บางคราดุดัน จนเธอบังเกิดความหวามไหวที่รินไหลไปทั่วร่างกาย มนต์สะกดที่เธอได้รับจากการจุมพิต ทำให้สาวน้อยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ร่างกายของเธอถูกตวัดให้นอนราบบนที่นอน มารู้ตัวอีกทีเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับความเย็นบนที่นอน โดยมีร่างหนาเกยทับร่างเล็ก
ตาประสานตาด้วยความตั้งใจของเขา ดวงตากลมโตของรุจิเรศเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ประหม่า เปล่งประกายความใสซื่อ ใสซื่ออย่างนั้นหรือ ดวงตาของอังคณาตอนนั้นก็ใสซื่อแบบนี้ แต่แล้วเธอก็จากเขาไปแต่งงานกับคนอื่น ลูกสาวก็คงเหมือนแม่เพราะลูกไม้มันหล่นไม่ไกลต้น แม่ร่านยังไงลูกสาวก็คงไม่ต่างกัน อย่าหลงเสน่ห์เด็ดขาด
ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเข้มของคมน์ที่เธอเห็นนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ แต่ร้อนแรงเหมือนไฟยามที่เธอสบตาครั้งใด เรียกเหงื่อให้ผุดขึ้นตามร่างกาย เนื่องจากมันร้อนราวกับว่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ มันแฝงไว้ซึ่งความแค้นที่เดือดปะทุในดวงตาของเขา
ริมฝีปากหนาแทะเล็มไปตามหน้าผากด้วยการจูบเบาๆ ไล้ไปยังดวงตาทั้งสองข้าง จมูกรั้นหยุดนิ่งที่เรียวปากอวบอิ่ม บดจูบอยู่สักพักก่อนจะเลื่อนไปตามลำคอระหง ในขณะที่มือหนาค่อยๆ ถอดชุดคลุมออกจากร่างกายของรุจิเรศ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ร่างสาวเกิดความหนาวสั่นแล้วยิ่งสั่นมาขึ้นไปอีก เมื่อมือใหญ่ลูบไล้ไปมาตามร่างเปลือยเปล่าของเธอ
ความนุ่มละมุนของผิวเนื้อที่เขาได้สัมผัส ทั้งเนียนและนุ่มคนที่ลูบไล้เกิดความเพลิดเพลินยิ่งนัก ความหอมจากกลิ่นกายสาวที่คละเคล้ากับความหอมจากครีมอาบน้ำ ทำให้เขาสูดดมกลิ่นหอมจรุงใจเข้าไปเต็มปอด ซุกไซร้ไปรอบลำคอขาว ริมฝีปากและลมหายใจของเขาทำให้ร่างกายสาวร้อนผ่าว ผิวกายขาวนวลแดงเรื่อ ลมหายใจหอบถี่เหมือนตื่นเต้น มือเล็กจับมาผู้ที่นอนไว้แน่นอย่างหวาดกลัว
มือหนาบีบเคล้นทรวงอกตูมเต่งอย่างเมามัน สลับกับเคล้นคลึงทั้งสองข้างเต้า ไม่นานนักริมฝีปากหนาก็เดินทางมาถึงภูเขาสองลูกใหญ่โดยมีเม็ดถันสีแดงอ่อนตั้งชันอย่างสวยงาม ดวงตาของเขาเหมือนจะพร่ามัวไปชั่วขณะ เมื่อได้เห็นความสวยงามตระการตา ความสวยงามที่เขาไม่เคยเห็นบนร่างกายของผู้หญิงคนไหนมาก่อน ลิ้นหนานำล่องทันที ไล้เลียไปตามฐานอกเรื่อยขึ้นสูงจนถึงเม็ดถัน ใช้ลิ้นแตะสัมผัสเบาๆ จนเม็ดถันของเธอสั่น หลังจากนั้นจึงดูดกลืนความสวยงามนั้นเข้าไปในปาก
“อา อือ” เสียงหวานครางออกมาอย่างลืมตัว ความสะท้านเสียวแล่นเข้ามาตามผิวเนื้อแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเธอ อวัยวะทุกส่วนในร่างกายดูจะปั่นป่วน ท้องน้อยเนียนสวยตอบรับความเสียวซ่านจนหดเกร็ง ร่างกายบิดเร้าไปมาเสมือนงูที่คดเคี้ยวไปบนพื้นทราย
คมน์ตอนนี้คล้ายกับเด็กแรกเกิดที่หมายจะดื่มนมมารดาให้อิ่มท้อง เขาละเลงปลายลิ้นไปบนเม็ดถันอย่างสนุกลิ้น บางครั้งดูดกลืนหายเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อนอย่างสนุกปาก หูของเขาได้ฟังเสียงหวานครางกระเส่าไปด้วย ยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาไต่ระดับมากยิ่งขึ้น
ร่างกายสาวตอนนี้สั่นราวกับเจ้าเข้าไม่มีผิดเพี้ยน เธอสั่นเพราะอารมณ์ปรารถนากระพือดั่งเปลวไฟที่ลุกไหม้ผืนป่า มันลามไปเรื่อยๆ จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง จุดที่หนักที่สุดน่าจะเป็นบริเวณช่องท้อง ก่อนจะจมดิ่งไปอยู่บริเวณใจกลางร่างสาว สั่นที่สองก็คือ ไอร้อนบางอย่างที่ดุนดันอยู่บริเวณข้างสะโพกมน สิ่งนั้นอยู่ภายในผ้าขนหนูสีขาวของเขา มันดิ้น
ไปมาคล้ายกับว่าอยากจะออกมาหายใจ แม้ว่าเธอจะไร้เดียงสาในเรื่องเกมรัก แต่ไม่ไร้เดียงสาพอจะไม่รู้ว่า ความร้อนผ่าวที่ดิ้นไปมานั้นคืออะไร
“อือ อืม” เสียงครางครั้งนี้ดูจะมีลมหายใจที่ขาดห้วงระบายออกมาด้วย สาเหตุที่เธอเป็นเช่นนี้ก็เพราะฝ่ามือใหญ่ของเขาทาบวางใจกลางร่างสาวอวบใหญ่เกินตัว ตามสัญชาติญาณของสาวแรกผลิเธอหนีบขาของตัวเองเอาไว้แน่น จนเขาไม่สามารถสัมผัสเนินสวรรค์ของกระต่ายน้อยได้โดยง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเขาเหมือนกัน
“โอ๊ย” รุจิเรศครางเจ็บเบาๆ เมื่อถูกไรฟันคมกริบกัดที่เม็ดถัน ทำให้ขาที่หนีบเกร็งเอาไว้คลายออก ส่งผลให้เขาใช้ขาที่ก่ายร่างสาวดันขาที่ข้างขวาของเธอให้ออกห่าง ทำให้เขาสามารถลูบไล้เนินอวบได้อย่างถนัดมือ วินาทีนี้สาวน้อยคิดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น ความเสียวที่ได้รับในครั้งก่อนถูกโถมถับมากยิ่งขึ้นอีกหลายชั้น อาการเกร็งที่มีอยู่ก่อนหน้าดูจะหนักขึ้นกว่าเดิม นิ้วชี้ของคมน์กรีดไปตามร่องดอกไม้ไปมา ขึ้นลงอย่างแผ่วเบา เสียดสีกับพลอยสีชมพู
“อา อืม คุณคมน์”
เสียงครางของรุจิเรศดังมาไม่ขาดสาย เช่นเดียวกับนิ้วของเขาลูบไล้ไม่ยอมหยุด ไม่ลูบเปล่าเขาสะกิดพลอยสีชมพูไปด้วย เธอแทบจะมอดม้วยอยู่ใต้ร่างเขา สั่นราวกับลูกนกที่อยู่ท่ามกลางสายฝนเย็นฉ่ำ
“อือ คุณคมน์ ไม่ คุณคมน์ เจ็บ”
ความเจ็บเล็กๆ เกิดขึ้นเมื่อนิ้วใหญ่ของเขาแทรกลึกเข้าไปในกลีบพฤกษา นิ้วหนาสัมผัสถึงน้ำหวานที่สกัดออกมาจากความรู้สึกเสียวซ่านของเธอ คมน์เกิดความกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เสมือนกับว่าร่างกายของเขากำลังรอคอยที่จะสัมผัสร่างกายของกระต่ายน้อยตัวนี้ กระต่ายน้อยที่เขาหมายมั่นเอาไว้ตั้งแต่เธอเกิดมา
“อา อา” เธอครางกระเส่าเมื่อปลายนิ้วใหญ่เริ่มขยับจากช้าไปเร็ว ส่วนปากหนายังคงดูดกลืนเม็ดถันไม่ยอมห่าง สลับกันทั้งสอง ดูดกลืน ละเลงลิ้นอย่างเอร็ดอร่อย สำหรับเธอนั้นไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินไปทางไหนระหว่างดิ่งลงสู่ทะเลลึกหรือว่ากระโดดขึ้นไปบนดี เพราะว่าเวลานี้ร่างกายทุกสัดส่วนร้อนรุ่มอยากจะได้น้ำมาดับความร้อน อีกใจก็อยากจะกระโดดขึ้นไปบนฟากฟ้า เพื่อเธอจะได้ไปถึงสวรรค์ที่เห็นรำไร
แรงขยับปลายนิ้วเพิ่มอัตราความเร็วมากขึ้นเรื่อย นิ้วโป้งหาได้นิ่งเฉยสะกิดพลอยชมพูไปพรางๆ เช่นกัน ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว เธอเป็นอะไรไปทำไมถึงมีความรู้สึกอย่างนี้ ความร้อนตีขึ้นตีลงจากศีรษะลงไปปลายเท้าแล้วกลับขึ้นมาใหม่ ก่อนจะดิ่งลึกหนักหน่วงอยู่บริเวณกลีบดอกไม้สวย ลูกเสียวที่จุกเป็นก้อนในกลีบสาวตีขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมันประดังขึ้นมาแน่นในช่องท้อง รวมตัวเป็นคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่ ซัดสาดอวัยวะของเธอ เสียวซ่านจนเกินกำลังที่เธอจะต้านทานได้
“กรี๊ดดด อา” สะโพกงามยกขึ้นสูงโดยอัตโนมัติ ริมฝีปากเผยอร้องคราง ขนเส้นเล็กๆ ที่ขึ้นตามร่างกายลุกชัน ร่างกายกระตุก ภายในกลีบสาวเต้นเร่าตอดตุ้บๆ เมื่อเธอถูกเหวี่ยงให้ขึ้นไปบนสวรรค์มองเห็นวิมานแสนสวยที่รุจิเรศไม่เคยเดินทางมาถึง สวยเกินคำบรรยาย มีความสุขอย่างน่าประหลาด
รอยยิ้มของคมน์เกิดขึ้นขณะที่ดูดกลืนเม็ดถัน เขามีความสุขเหลือเกินที่ได้รู้ว่า กระต่ายน้อยไฉไลตัวนี้ เดินทางไปยังอีกฟากฝันของความสุข นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น สาวน้อยไร้เดียงสาคนนี้ต้องเจออะไรอีกมาก เขาจะทำให้เธอมีความสุขที่สุด เพราะหลังจากบทรักสิ้นสุดลง คมน์ตั้งใจว่าจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ
ได้เวลาแล้วที่คมน์จะละริมฝีปากจากเม็ดถันที่เปียกชุ่ม เขาป่ายปัดปากและลิ้นไปตามผิวเนื้อใต้ราวนม ผิวกายชื้นเหงื่อของเธอนั้นหอมหวนชวนเลียไล้ยิ่งนัก แล้วเขาเองก็ไม่พลาดที่จะทำอย่างนั้นด้วย ลิ้นใหญ่ตวัดปัดไปมาบนผิวเนื้อเนียนนุ่ม เลื่อนต่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ร่างใหญ่เลื่อนมานั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขาของเธอ เพื่อที่เขาจะได้ทำอะไรสะดวกขึ้น มือใหญ่เอื้อมมาหยิบหมอนอิงหลังที่อยู่กลางเตียงนอน ยกสะโพกมนสูงขึ้นสอดหมอนอิงใต้บั้นท้ายงามงอน ริมฝีปากที่ป้วนเปี้ยนอยู่บนหน้าท้องเลื่อนต่ำลงมาจนเธอใจหายใจคว่ำ
“ไม่ค่ะ ไม่ค่ะคุณคมน์ ไม่”
รุจิเรศร้องห้ามเสียงหลง เธอไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนี้ มันน่ารังเกียจมากนักในความรู้สึกของเธอ ทว่ามันช้าเกินไปที่จะร้องห้าม เพราะตอนนี้เขาเดินทางมาถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการแล้ว เรียวขางามถูกแยกออกกว้างเพื่อที่เขาจะได้ค้นหาความอัศจรรย์ในสถานที่เร้นลับได้อย่างสะดวก
“สวรรค์แท้ๆ” เขาพึมพำอย่างลืมตัว เมื่อดวงตาคมเข้มมองเห็นกลีบสาวแสนสวย สวยงามประดุจดั่งดอกไม้สีชมพูสดแรกแย้ม ล่อหมู่แมลงให้มาดอมดมแล้วเขาก็เป็นภมรตัวแรกเสียด้วยที่ได้สัมผัส กลิ่นหอมสาบสาวที่โชยเข้ามาในจมูกของเขากระตุ้นอารมณ์กำหนัดจนเขารู้สึกปวดร้าวที่กายแกร่ง ลิ้นหนาทำตามความต้องการของเขาทันที เลียเป็นทางยาวจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน ทำอย่างนี้หลายครั้งแต่ละครั้งนำพาความกระสันซ่านให้กับเธอเป็นอย่างมาก มากจนปลายเท้าของรุจิเรศจิกลงบนที่นอน เขาไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต แม้กระทั่งอังคณามารดาของกระต่ายน้อยรุจิเรศเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขามอบความสุขให้ด้วยปากและลิ้น