บทย่อ
เพลิงมิถุนาเรน มอนทรีออส หนุ่มสองบุคลิกในร่างเดียว เยือกเย็นลุ่มลึกแฝงความเร่าร้อน ไฟในตัวเขาพร้อมประทุในยามเจอสตรีที่ถูกใจ และนั่นคือฟ้าลดา ผู้หญิงที่ปรากฏกายพร้อมจุดไฟที่ซ่อนลึกในตัวเขาให้ลุกโชนเปลวรักตุลธรคำปรามาสที่เธอตอกใส่หน้าเขาช่างร้ายกาจกรีดลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ กับคำว่า “อาหารตา” ดังนั้นเขาจะทำให้อาหารตาเป็นอาหารบำรุงให้จงได้ แม้ต้องกระทั้นไม่บันยะบันยังจนหมดแรง เขาก็มุ่งมั่นจะทำ
ตอน 1
เปลวรักตุลธร
เวทีเดินแบบที่อลังการด้วยรูปแบบการวางองค์ประกอบอันทันสมัย แสงสีเสียงตระการตาเพราะเป็นฤดูกาลเปิดคอลเลคชั่นใหม่ของห้องเสื้อชื่อดังระดับตำนานของเมืองไทย ซึ่งได้นางแบบนายแบบอินเตอร์ ส่งตรงมาจากปารีส ลอนดอน นิวยอร์ก ร่วมยี่สิบชีวิต หนึ่งในนั้นคือนายแบบลูกครึ่งอนาคตไกลเป็นที่จับตามองของคนทั้งวงการแฟชั่น
“ฉันมาที่นี่เพื่อมาดูพี่ตุลขาของฉันนะยะ” ไฮซ้อคนหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวน้อยสาวใหญ่ ที่ต่างเทใจกันมาดูงานแฟชั่นโชว์ระดับประเทศของห้องเสื้อกชกร ที่บรรดาสาวสังคมชั้นสูงรู้จักกันดี
“หล่อนช่างพูดนะยะว่าตุลธรคือพี่ตุลขาของหล่อน เขาอายุอ่อนขนาดเป็นลูกของหล่อนได้เชียวนะยะ”
“ชิ! ฉันไม่เห็นจะสนเลยว่าเขาจะอายุเท่าไหร่”
“อยากกินเด็กว่างั้นเถอะ ระวังจะชวด ฉลู ขาล เถาะ เพราะคนอย่างตุลธรคงแบให้กินง่ายๆ หรอก”
“นี่หล่อน... ฉันมีเงิน จะเรียกใครมากินก็ย่อมได้”
“บางทีหล่อนอาจไม่สมหวัง เพราะตุลธรไม่ได้กินง่ายๆ”
สองสาววัยดึกไฮซ้อเม้ามันสนุกปากโดยไม่สนว่ามีอีกคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆ
“อีตาตุลขาตุลแขนอะไรนี่ มีดีอะไรนักหนานะพี่ออย สาวแก่แม่หม้ายพวกนี่ถึงพูดกันนัก” นารา พงศ์พิสุทธิ์ธนดล หรือ ไอซ์ สาวสวยในตระกูลมั่งคั่งซึ่งเป็นถึงทายาทเจ้าของสถานที่ซึ่งเจ้าของงานขอเช่าอยู่ในขณะนี้
“พี่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงนักหรอก เห็นว่าเป็นนายแบบหนุ่มลูกครึ่ง หล่อล่ำ กล้ามใหญ่ หุ่นดี สรีระเป็นเยี่ยมทำนองนี้แหละ พี่เคยเห็นแต่ในนิตยสารแฟชั่น พวกชุดว่ายน้ำหรือถ่ายแบบวาบหวิวทำนองนั้น”
“ทำไมไอซ์ไม่ยักรู้จัก”
“เพราะไอซ์ไม่ได้สนใจวงการนี้น่ะสิ”
“ก็จริง ไอซ์กำลังยุ่งเรียนรู้งานในบริษัท มากกว่าที่จะมาสนใจเรื่องนายแบบหล่อล่ำอะไรพรรค์นั้น”
“สนใจก็บ้าล่ะ นายพอลได้หึงแตกแน่ๆ”
“พูดถึงพี่พอลนี่ ก็หึงไอซ์เกินไป ไอซ์ไม่เคยทำอะไรเสียหายซะหน่อย”
“คนเป็นคู่หมั้นกัน ย่อมหึงหวงเป็นธรรมดา ถ้าเขาไม่หึงสิแปลก”
“หึงเหรอ... ป่านนี้ยังไม่โผล่มาเลย”
“ใจเย็นๆ น่า ยังไม่ถึงเวลาเดินแบบซะหน่อย อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายคงไม่ชอบอะไรแบบนี้ นอกจากมาดูนางแบบขาเรียวๆ หุ่นงามๆ”
“ตาเฉยนั่นนะ ถ้าไม่ติดว่าหมั้นหมายกัน ไอซ์ก็ว่าจะให้พี่พอลแต่งงานกับเครื่องบินซะเลย ท่าจะดี” นาราเอ่ยถึงคู่หมั้นหนุ่มนักบินอย่างสนุกปากระคนเซ็งในอารมณ์ เพราะตั้งแต่หมั้นหมายกันเพราะผู้ใหญ่เห็นพ้องรวมไปถึงความสนิทสนมระหว่างเธอกับ พศิน ศิรประภา เพราะเป็นเพื่อนเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล จนถึงมัธยม ดีเท่าไหร่ไม่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน หากพศินไม่แยกไปเรียนนักบิน เธอกับเขาคงได้ตัวติดกันมากกว่านี้ หนำซ้ำทางบ้านยังหมายหมั่นให้แต่งงาน
เธอเองก็รู้สึกกับพศินเหมือนพี่ชายมากกว่าคนรัก หากแต่เมื่อสังคมและครอบครัวเห็นพ้อง เธอจึงหมั้นไปตามน้ำและดูเหมือนว่าพศินเองก็เห็นด้วย เธอเคยเอ่ยถามเขาถึงการหมั้นหมายนี้หลายครั้ง ถ้าไม่พอใจถอนหมั้นได้นะ เขากลับตอบเพื่อความเหมาะสมก็ดีแล้ว ดังนั้นหญิงสาวผู้มีบุคลิกงดงาม โฉบเฉี่ยว คุณสมบัติเด่นทุกด้าน ไม่ว่าหน้าตา ทรวดทรงองค์เอว กับสัดส่วน 34-24-36 สูงเพรียวถึง 175 เซนติเมตร ผิวพรรณผุดผ่องอร่ามด้วยราศีสาวสังคมชั้นสูงที่ถูกเลี้ยงกล่อมเกลามาอย่างดี ส่งผลให้เธองามสง่ามั่นใจทุกท่วงท่าที่เดินเฉิดฉาย
ทุกวันนี้สถานะคู่หมั้นก็กลายเป็นบ่วงคล้องคอที่เธอไม่อาจถอดถอนออกไปได้ แม้ว่าบางครั้งสาวโสดอย่างเธอจะเจอผู้ชายที่ทำให้หัวใจหวิวบ้าง หากว่าบ่วงที่คล้องเธอไว้กลับกระชากคอของเธอให้ลดความสนใจหนุ่มๆ เหล่านั้นลง แล้วนี่เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายซึ่งคิดกับเขาเพียงแค่พี่ชายอย่างนั้นหรือ นารารู้สึกอึดอัดกับสถานะนี้เสียจริงๆ
“พี่ออย ไอซ์ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” นาราบอกพี่สาวขณะขยับตัวเตรียมก้าว
“อ้อ... ได้จ๊ะ” วารีเอ่ยกับน้องสาวแล้วหันสายตาไปสนใจบนเวทีอีกครั้ง ที่นั่งของหล่อนกับน้องเป็นที่นั่งระดับวีไอพี จึงมองเห็นเวทีได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องชะเง้อคออย่างแถวหลัง
“พี่พอล อ่า... อืม... มะ... ไม่ไหวแล้วค่ะ พี่พอลจะเร่งรอบไปไหนคะ เมย์จะไม่ไหวแล้วนะคะ” เรียวปากอิ่มสีแดงเจิดจ้าของคนใต้ร่างครวญครางราวกับกินของเผ็ดเมื่อคนเหนือร่างกระทั้นกายเข้าหาช่องทางฉ่ำชื่นไม่ว่างเว้น
ตั้งแต่เจอหน้ากันภายในห้องโรงแรมม่านรูดมีระดับ ซึ่งพศินเลี้ยวรถเข้าไปทันทีที่เห็นป้ายไฟเหนือศีรษะ ด้วยแอบมาใช้บริการที่นี่บ่อยกับ เมขลา พันธ์นภัส พอเปิดประตูได้ชายหนุ่มไม่รีรออะไรทั้งสิ้นนอกจากโจนทะยานถาโถมเข้าโรมรัน ดึงทึ้งอาภรณ์ของแอร์โฮสเตสสาวที่คุ้นเคยกันทุกลีลา ลงมือกัดกินส่วนเหมาะมือของหล่อนอย่างกับจิ้งจอกกระหายอาหารมานับแรมเดือน แล้วยิ่งเวลานี้คล้ายกับว่าเขาช่างรีบร้อนราวกับมีนัดที่ไหนต่อประมาณนั้น
“ไม่ไหวก็ต้องไหว” พศินกระแทกกระทั้นกายแกร่งที่แข็งชูชันเข้าสู่รวงน้ำผึ้งของคู่นอนสาวที่ทำงานอยู่สายการบินเดียวกัน ว่างเว้นเป็นไม่ได้ทั้งคู่ต่างใช้สายตาเชิญชวนเปล่งประกายไปสู่กันและกัน อันบ่งบอกความรู้สึกแล้วจับจูงมาบรรจบยังห้องในโรงแรมแห่งใดแห่งหนึ่งซึ่งใกล้เส้นทางกลับบ้านที่สุดเท่าที่เปลวไฟพิศวาสจะปะทุรุนแรงแค่ไหน
“พี่พอลขา อุ้ย... แรงขนาดนี้เมย์เสียวนะคะ” ปากก็ร้องห้ามเขา หากแต่ร่างกายซ่านเสียวเกินจะทน จากอยู่ด้านล่างร่างหล่อนจึงตะกายขึ้นมาอยู่บนตัวเขา ค่อยๆ วางสะโพกครอบครองความแกร่งที่สวมหมวกนิรภัยไว้เพื่อความปลอดภัยในการทำรัก พศินไม่เคยไม่ป้องกันตัวจากปัญหา ส่วนเมขลาก็ด้วยเพราะหน้าที่การงานทำให้เธอต้องคอยเตือนคู่นอนของเธอเสมอ ไม่ควรลืมปราการชั้นเอกเด็ดขาด
“เอาเลยเมย์” ฝ่ามือหนาเรียวสวยอย่างสตรีวางลงที่สะโพกหนั่นแน่นของหล่อน ช่วยส่งให้แอร์ฯ สาวโยกตัวเข้าหาความแกร่งกล้าที่ร้อนเร่าของเขาอย่างสมใจกับที่หล่อนอดใจรอระหว่างปฏิบัติงานอยู่บนเครื่องบิน
“อย่าท้านะพี่พอล” หล่อนแสดงสีหน้าไม่เกรงกลัวอีกฝ่าย พร้อมทั้งเลียริมฝีปากเชิญชวนเขาในที
“ฉันไม่เคยท้า ถ้าเธอทำให้ฉันถึงได้ฉันจะให้รางวัลกับเธออีกสักสามสี่ยก”
“เสนอรางวัลแบบนี้ไม่รีบแล้วเหรอ” หรือว่ารีบเพราะอารมณ์พาไปหล่อนซ่อนคิด มั่นใจในเสน่ห์ของตนเองสามารถดีดมาดขรึมของหนุ่มนักบินที่มีคู่หมั้นเป็นถึงสาวสังคมชั้นสูงให้ออกมาวาดลวดลายกับตนได้ไม่ยาก ผู้ชายอย่างไรก็ต้องตายด้วยเสน่หา ไอ้ที่นั่งเฝ้ากองสมบัติเป็นแม่ชีไม่มีทางดึงตัวตนของพศินออกมาได้
“ช่างเถอะกับเรื่องไร้สาระพรรค์นั้น” ตอนนี้เปลวพิศวาสกำลังลามเลียหัวใจเขาให้จวนมอดไหม้ ด้วยฝีมือเหนือชั้นแห่งของเมขลา ไยเขาต้องสนใจสาวสวยที่มักเล่นตัวทุกทีเมื่อเขาคิดแตะต้องกายเธอ ตอนนี้แม้แต่ปลายเส้นผมของนาราเขายังไม่มีโอกาสแตะต้องด้วยซ้ำ ร่ำๆ จะให้แต่งงานก่อนค่อยมีอะไรกันอย่างนี้เขาก็ลงแดงเหี่ยวเฉาพอดี แต่ดีหน่อยได้เมขลาช่วยบำบัดความต้องการในแต่ละครั้งที่ลงจากเครื่อง
“สงสัยเรื่องคู่หมั้นแน่ๆ” หล่อนคาดเดาพศินมักอารมณ์เสียเรื่องคู่หมั้น ทุกครั้งที่เขาอารมณ์เสียเรื่องนี้หล่อนก็ได้อานิสงส์เสพสังวาสกับเขาอย่างถึงอารมณ์
“อย่าพูดถึงเรื่องคนอื่นทำหน้าที่ของเธอไปสิ” นักบินหนุ่มออกคำสั่งเจือเพลิงสวาทที่คุกรุ่นอยู่ในกาย
“ได้ค่ะพี่พอลขา...” ร่างบอบบางเย้าติ่งความเสียวของหล่อนโยกคลึง สลับกับกระแทกสะโพกกลมกลึงเข้าหาเขาไม่ยั้ง หล่อนบิดเร้ากายอย่างพวกนางยั่วชั้นสูง นิ้วเรียวเล็บต่อสีสดเขี่ยตุ่มไตสองตุ่มบนแผงอกกำยำของชายหนุ่ม ส่วนมืออีกข้างของหล่อนบีบเค้นสองเต้าอวบเต่งเพื่อกระตุ้นอารมณ์สาว ขณะเนื้อนุ่มส่วนล่างทำหน้าที่ตอดรัดแก่นแกร่งของพศิน ไม่ขาดตกบกพร่อง
ใช่ว่าชายจะมีอารมณ์ดิบฝ่ายเดียวส่วนหญิงเมื่อถึงเวลาอยู่กับคนที่รู้จักร่างกายของกันและกัน เมขลาก็ไม่มีวันหยิบยกความอายมาเพื่อสกัดอารมณ์สวาทของตัวเองเช่นกัน
“โอ้ว... เมย์เสียว... ของพี่พอลใหญ่ถึงใจจริงๆ เลยค่ะ” หล่อนครางอย่างลืมตัวทิ้งมาดนางฟ้าไว้บนเครื่องบินตั้งแต่ก้าวเท้าแตะพื้นนั่นแล้ว