4
“พ่อเราก็ไม่อยู่แล้ว แม่จะเก็บนังบัวเอาไว้ทำไม” เธอแต่งงานกับฤทธิไกรโดยที่รู้ว่าเขามีลูกติด ตอนนั้นก็เอ็นดูกลีบบัวจริงๆ นั่นแหละ แต่พอคลอดนรินลดา เธอก็รู้สึกรักลูกตัวเองมากกว่า เลยมีความลำเอียงเข้าข้างลูกตัวเองมากกว่า
ที่เธอเก็บงำความลับนี้มายี่สิบกว่าปีเพราะว่าสามีขอร้อง ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับกลีบบัว ฤทธิไกรอยากให้กลีบบัวรู้สึกว่าตัวเองมีพ่อแม่ครบสมบูรณ์ ไม่ขาดแคลนเหมือนคนอื่น ซึ่งเธอก็รับปากอย่างดี เพราะฤทธิไกรมีฐานะ จะทำให้เธอสบายไปทั้งชาติ การเสแสร้งแกล้งทำเป็นรักลูกติดสามีจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก
“ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็เป็นของเรา ดีจังเลยค่ะ” นรินลดามองไปรอบบ้านอย่างมีความสุข บิดาทิ้งทรัพย์สินเอาไว้ให้มากมาย มารดาเป็นคนจัดการทั้งหมด แค่หลอกนังพี่สาวหน้าโง่ที่เอาแต่นั่งเขียนนิยายประโลมโลกไปวันๆ ว่าเป็นหนี้ เงินหมด แค่นี้ก็เชื่อ
บิดามีเครื่องเพชรเครื่องทองมากมาย เธอได้เห็นเพราะมารดามักนำออกมาให้ดู แต่กลีบบัวนั้นไม่เคยได้แตะหรือได้เห็นเลยแม้แต่สักครั้ง อาจเพราะอีกฝ่ายโง่และซื่อบื้อ ไม่สนใจทรัพย์สมบัติพวกนั้นเอง ก็ช่วยไม่ได้
“เกือบเสียแผนเพราะกรวิกแล้วรู้ไหม”
“ทำไมเหรอคะ”
“มันเข้ามาอาละวาดบอกว่าเป็นผัวนังบัวน่ะสิ ดีนะที่คุณพนัสเขาไม่ยกเลิกงานแต่งและทวงหนี้เรากลางงานที่เอานังบัวใส่ตะกร้าล้างน้ำไปยกให้”
“ยี้กรวิกเหรอคะ น่าเบื่อจะตายไป ตอนแรกนึกว่าหล่อรวยมาจีบพี่บัวจนเป็นแฟนกัน พอคบกันจริงๆ ลูกแหง่จะตาย แถมยังขี้หึงชอบตามจิก เลิกกับหนูได้ถือว่าบุญหัวนะคะ”
“คุณพนัสให้ลูกน้องหิ้วปีกออกไปทิ้ง ลุงศักดิ์ชายมาห้ามเอาไว้ แล้วก็ลากตัวกลับไป ไม่อย่างนั้นคงเสียแผน”
“มันนึกว่านังพี่บัวจะคืนดีกับมันอีกหรือไง ประสาท” นรินลดาเบ้หน้าเมื่อนึกถึงกรวิก แฟนเก่าที่เธอแย่งมาจากพี่สาว แต่พอคบกันจริงก็ไปกันไม่รอด
“คุณพนัสเขาก็ดูรวยมากนะ ให้เงินเรามาลงทุนตั้งหลายล้าน” จริง ๆ หนี้สินที่เธอบอกกลีบบัวไปเป็นจำนวนเงินที่เธอกุขึ้นมาเอง พนัสให้เงินแค่ห้าล้านมาลงทุนเท่านั้น ก็ถือเป็นค่าสินสอดเสียเลย
“รวยจริงค่ะ แต่ยี้ให้ไปอยู่บ้านนอกคอกนา ไปอยู่ในป่าในดงหนูไม่เอาหรอกค่ะ” ตอนเธอคบกับพนัสเธอก็แกล้งทำเป็นรักนวลสงวนตัว ยั่วเขานิดๆ หน่อย ๆ พอให้เขาอยากแล้วจากไปเพราะจะไถเงินเขาเท่านั้นเอง
การเล่นตัวว่าไม่ยอมผู้ชายง่ายๆ และทำให้ตัวเองเหมือนยังดูเวอร์จิ้นอยู่มันสร้างคุณค่าให้กับตัวเองขนาดนี้เชียวหรือ เธอไม่เคยรู้มาก่อน จนกระทั่งมาเจอกับพนัสนี่แหละ และตลอดเวลาที่คบกันเธอก็มักใส่ไฟพี่สาวของเธอให้พนัสฟัง ทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าพี่สาวของเธอนิสัยไม่ดี ขี้อิจฉา โดยมีมารดาร่วมด้วย
มารดาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเก่ง ทำให้พนัสเชื่อสนิทใจ เพราะเธออยากเขี่ยพนัสทิ้งและไปคว้าคนใหม่ที่รวยและดีกว่าพนัส แต่จะได้ทำให้พนัสเกลียดพี่สาวของเธอด้วย เมื่อไม่ชอบก็จะทำไม่ดีกับพี่สาวของเธอ เรื่องอะไรเธอจะให้พนัสทำดีกับกลีบบัวกันล่ะ
“แล้วคนใหม่ของเราเป็นใครกัน ดีกว่าคุณพนัสแน่นะ”
“เดี๋ยวหนูจะพามาแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักนะคะ คุณสุทธิชัยเขารวยจริงค่ะ แถมยังไฮโซ ใช้ชีวิตหรูหราอยู่ในเมืองที่ศิวิไลซ์ เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ด้วยนะคะ ของฝากก็หรูหราดูดี ของแบรนด์เนมทั้งนั้นค่ะ ไม่เหมือนกับคุณพนัส ยี้! มีแต่ของในสวนในไร่ อาหารเพื่อสุขภาพอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จักเอาใจผู้หญิง อยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนไร้ความศิวิไลซ์ รวยจริงอย่างที่คุณแม่บอก แต่จะพาหนูไปอยู่บ้านไร่ กันดาน ห่างไกลความเจริญ ไม่เอาหรอกค่ะ คุณแม่รู้ไหมคุณพนัสบอกหนูว่ายังไง เขาบอกว่าบ้านไร่ของเขาเงียบสงบ อากาศดี ธรรมชาติรอบตัว สดชื่นแล้วก็มีแต่ต้นไม้ใบหญ้า ใครจะไปอยู่ในที่น่าเบื่อแบบนั้นกันล่ะคะ หนูได้อกแตกตายพอดี”
“เราก็อย่าลืมพาคุณสุทธิชัยมาแนะนำให้แม่รู้จักล่ะ ถ้าเขารวยจริงก็จับให้อยู่หมัดนะลูก หนูนั่นแหละที่จะสบายไปทั้งชาติ”
“ค่ะคุณแม่” นรินลดารับคำมารดาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขอตัวเข้าห้องพัก เธอนอนแช่น้ำก่อนจะโทร. หาสุทธิชัยเพื่อที่จะนัดเขาออกไปกินข้าวกันในวันพรุ่ง แต่เธอก็มีลีลาการพูดที่ให้เขาเป็นคนชวน ไม่ใช่เธอไปชวนเขาโต้งๆ ให้ต้องเป็นฝ่ายง้อเขา
ท่ามกลางความสุขของสองแม่ลูก กลีบบัวเหลือบมองสามีหน้านิ่งของตัวเองเป็นบางครั้ง ความอึดอัดโรยตัวไปรอบกาย ท่ามกลางความมืดมิดของบรรยากาศยามค่ำคืน
“จะแอบมองฉันอีกนานไหม” ประโยคนั้นทำให้กลีบบัวสะดุ้งสุดตัว เธอรีบหันไปมองนอกรถเพราะโดนจับได้ว่าแอบมอง
“ไม่ต้องทำท่าทีกลัวฉันขนาดนั้นก็ได้ ฉันต่างหากต้องกลัวเธอ”
“คะ” เธอทำหน้างงกับประโยคของเขา
“เธอไม่ควรเข้าใกล้ฉันเกินหนึ่งเมตร ยิ่งมาถูกเนื้อต้องตัวฉันยิ่งแล้วใหญ่ ฉันไม่อยากโดนเธอปล้ำ”