1
งานวิวาห์ที่กำลังเกิดขึ้นอาจเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคนแต่สำหรับกลีบบัวแล้ว มันไม่ใช่
เธอจะต้องแต่งงานแทนน้องสาวที่หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย มารดาเข้ามาร้องห่มร้องไห้บอกว่าหากเธอไม่เข้าพิธีแต่งงานด้วย ต้องเสียหายมากแน่ ๆ
“บัว บัวช่วยแม่หน่อยนะลูก ถือว่าแม่ขอร้อง ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะต้องเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วคุณพนัสเขาต้องเอาเรื่องเราแน่ ๆ” รวิดาแทบจะคุกเข่าขอร้องลูกสาว แต่กลีบบัวรีบประคองร่างของท่านเอาไว้ พลางบอกว่าไม่เป็นไร
“คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ไม่เป็นไรค่ะ มีอะไรที่บัวจะช่วยคุณแม่กับน้องได้บัวต้องทำอยู่แล้ว แต่ยายดาหายไปไหนคะ ทำไมถึงได้ทำตัวเหลวไหลแบบนี้”
“แม่ก็ไม่รู้จ้ะ พอเข้าไปในห้องก็พบแค่จดหมายฉบับนี้ฉบับเดียวเท่านั้น” นางยื่นจดหมายให้ลูกสาวคนโต ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้น
กลีบบัวได้อ่านจดหมายฉบับนั้นของน้องสาวก็ถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ เหตุผลของน้องสาวทำให้เธอต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ยายดาเพิ่งค้นพบว่าไม่ได้รักคุณพนัสทำไมไม่บอกเขาไปตรง ๆ ปล่อยให้เขาพาผู้ใหญ่มาสู่ขอจนต้องแต่งงานกันได้ยังไงกันคะคุณแม่ เหลวไหลจริงเชียว”
“อย่ามัวแต่โทษน้องเลย ตอนนี้ขบวนขันหมากใกล้มาแล้ว ยังไงเราก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานกับคุณพนัสก่อน อย่างอื่นค่อยกว่ากันอีกทีหนึ่ง”
“แล้วเขายอมเหรอคะ”
“ยอมสิ เขายอมเพราะเขาเองก็ไม่อยากให้ตัวเองเสียหน้า” รวิดารีบให้ช่างดูความเรียบร้อยของบุตรสาวคนโตให้ดี
“คุณแม่ไปคุยกับเขาตอนไหนคะ” กลีบบัวเอ่ยถาม เพราะเธอรู้ว่าน้องสาวหายไปก็ตอนที่จวนจะได้ฤกษ์แต่งงานแล้วนั่นเอง
“ก่อนหน้านี้ไม่นานจ้ะ แม่ขอโทษคุณพนัสและเอาจดหมายของน้องให้อ่าน เขาก็เลยต้องเข้าพิธีแต่งงานกับเรานี่แหละ เราก็อย่าถามอะไรมากเลย ลงไปเข้าพิธีกันก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
“เราแต่งกันแค่ในนามใช่ไหมคะ เสร็จพิธีก็จะคืนสินสอดให้เขา” เธอไม่ได้รักพนัส จะแต่งงานอยู่กินกับเขาฉันสามีภรรยาได้อย่างไรกัน
ในอดีตเธอพอจะรู้ว่าพนัสคบหากับนรินลดาน้องสาวของเธออยู่ แต่เธอไม่เคยพูดจาปราศรัยกับเขา เพราะพนัสดูเป็นคนเข้าถึงยาก หน้านิ่ง พูดน้อยแล้วก็ชอบมองเธอด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรนัก
“บัวทำเพราะแม่ขอร้องนะคะ ไม่ใช่ทำเพื่อยายดา ยายดาทำตัวเหลวไหลแบบนี้ไม่ไหวเลยจริง ๆ”
“นี่พอสักทีเถอะยายบัว ด่าน้องอยู่นั่นแหละ รีบเข้าพิธีได้แล้ว” ประโยคของมารดาทำให้กลีบบัวอึ้งไป
หลายครั้งที่เธอคิดว่ามารดาลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน ท่านรักนรินลดามากกว่า เวลามีปัญหาอะไร ท่านจะเข้าข้างนรินลดาก่อนเสมอ โดยให้เหตุผลว่านรินลดาเป็นน้องเธอต้องเสียสละให้น้อง มีแต่บิดาเท่านั้นที่รักเธอ เข้าใจเธอในทุก ๆ เรื่อง
บิดาเพิ่งจากไปเมื่อปีกลาย ทำให้เธอเสียใจเป็นอันมาก ท่านเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดีของมารดา เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ
ขบวนขันหมากแห่มาถึงหน้าบ้าน ทำเอากลีบบัวหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ มารดารับปากว่าแค่แต่งงานกันในนาม แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าทุกอย่างดูรีบร้อนลนลานไปหมด เธอกลัวว่าจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว
การได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวเป็นครั้งแรกทำให้กลีบบัวถึงกับเกร็ง ใบหน้าของเขาบึ้งตึงกระด้างจนเธอตกประหม่า
กลีบบัวที่ออกมาในชุดเจ้าสาวไทยประยุกต์สวยจนทำให้ทุกคนตกตะลึง พนัสเองยังต้องชะงัก แต่พอคิดถึงความใจร้ายขี้อิจฉาของคนตรงหน้า ใบหน้าของเขาก็กระด้างในทันที
พิธีทุกอย่างดำเนินไปอย่างถูกต้อง เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาว เจ้าสาวสวมแหวนให้เจ้าบ่าว ก่อนที่เจ้าบ่าวจะดึงเจ้าสาวไปจูบแบบไม่ทันตั้งตัว
กลีบบัวรัวกำปั้นใส่แผ่นหลังของพนัสเต็มแรงอย่างตกใจ แขกผู้ใหญ่และคนในงานตกตะลึง ในขณะที่รวิดามองตาปริบ ๆ ไม่คิดว่าพนัสจะจูบลูกสาวคนโตของนางอย่างป่าเถื่อนเช่นนี้
ช่างภาพก็เก็บภาพบรรยากาศละเอียดทุกช็อตแบบไม่ให้พลาดสักมุมเดียว ทุกคนในงานร่วมแสดงความยินดี ในขณะที่กลีบบัวหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู มองหน้าเจ้าบ่าวแสนป่าเถื่อนที่มองเธอด้วยสายตาลามเลียอย่างรังเกียจ
จบพิธีคืนสินสอดเธอจะได้หมดเวรหมดกรรมกับผู้ชายที่ชื่อพนัสสักที
เสียงโวยวายด้านนอกดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมอง ก่อนที่ร่างสูงของกรวิกจะเดินเข้ามาในงานแต่ง ด้วยสภาพเมามาย
“บัว บัวจะแต่งงานกับมันจริง ๆ น่ะเหรอ” กรวิกตรงเข้ากระชากมือเจ้าสาวเต็มแรง ก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเสียใจ
“ทำไมคุณถึงได้เมาขนาดนี้คะกร” กลีบบัวเอ่ยถาม เดิมทีกรวิกคือแฟนหนุ่มของเธอ แต่เพราะเขาแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนรินลดาน้องสาวของเธอ เธอจับได้เพราะไปเห็นทั้งสองเข้าโรงแรมม่านรูดด้วยกัน และกำลังกอดรัดกันอยู่บนเตียง เธอรับไม่ได้เลยเลิกกับเขา และวันนั้นที่เธอตามไปเจอเขาแอบมีความสัมพันธ์กับน้องสาวก็เพราะว่านรินลดานั่นแหละแชร์โลเคชั่นมาให้
หลังจากเลิกรากันไป เธอก็รับรู้ว่าเขาหันไปคบหากับน้องสาวของเธออย่างเปิดเผย เธอเสียใจอยู่นานหลายวันก่อนจะทำใจได้ แต่เพียงแค่เดือนเศษเธอก็ได้ข่าวอีกว่าทั้งสองคนเลิกกัน ด้วยเหตุผลจากน้องสาวที่ว่ากรวิกน่าเบื่อ