บทย่อ
หญิงสาวพริ้มตา ใบหน้าบิดเบะไปชั่วครู่ จิตใจจดจ่ออยู่กับความใหญ่โตอันน่าอึดอัด ขนาดที่ไม่ธรรมดานั้นสร้างความเจ็บระบมเพียงครู่สั้นๆ จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่ ฝ่ามือน้อยๆ โอบรั้งลำตัวของเขาลงมาแนบชิด พร้อมกับร่อนสะโพกขึ้นรับปั้นเอวของชายหนุ่มที่กระแทกกระทั้นลงมาเป็นจังหวะ
ตอนที่ 1
เพลิงดอกงิ้ว
ผู้เขียน : กาสะลอง
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
ภายใต้ดวงไฟส่องสว่าง สาดแสงลงมาจากเสาคอนกรีตต้นสูงที่เรียงรายอยู่เป็นระยะตลอดสองข้างทาง ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมคร้าม กำลังก้าวเดินเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปตามพื้นฟุตปาธที่อาบไปด้วยน้ำฝนซึ่งโปรยปรายลงมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ
ระหว่างกำลังจะเดินผ่านหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง พลันสายตาคมกริบก็เหลือบไปเห็นชายวัยกลางคน รูปร่างท้วมใหญ่และท่าทางภูมิฐาน กำลังจูงมือหญิงสาวรุ่นราวคราวลูกออกมาจากร้านอาหาร เพื่อจะข้ามไปยังอีกฟากฝั่งถนน ที่แลเห็นรถเบนซ์คันหรูจอดอยู่
ทว่าในทันทีที่เดินมาถึงรถและยังไม่ทันจะเอื้อมมือไปเปิดประตู จู่ๆ ก็มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ปริศนา บิดเร่งเครื่องเข้ามาทางด้านหลังด้วยความเร็วสูง เหมือนสัตว์ร้ายในอารมณ์เกรี้ยวกราด กำลังพุ่งทะยานเข้าหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ด้วยทุกภาพเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในนาทีนั้น ล้วนตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่ผ่านมาเห็นเข้าโดยบังเอิญ บางทีอาจจะเป็นเพราะโชคชะตา ที่ลิขิตให้เขาต้องกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชายหนุ่มเห็นมือปืนที่คร่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ กำลังเล็งปลายกระบอกปืนไปที่ศีรษะของชายวัยกลางคน ผู้ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่าความตายได้ย่างกรายเข้ามาใกล้แค่ปลายจมูก
“ระวัง”
เขาตะโกนเสียงดังลั่น
ปังๆ…
ไม่เพียงแค่ร้องเตือนคนที่ตกเป็นเป้าสังหาร แต่หนุ่มนิรนามยังตัดสินใจทำในสิ่งซึ่งไม่มีใครคาดคิด ด้วยการกระโจนเข้าผลักร่างของชายโชคร้ายคนนั้น ให้พ้นไปจากวิถีกระสุนได้อย่างหวุดหวิด
“กรี๊ดดดด คุณพ่อคะ คุณพ่อ”
หญิงสาวที่ยืนตกตะลึงอยู่ใกล้ๆ กรีดร้องด้วยความตกใจ ดวงตาคมเป็นประกายเบิกกว้าง มองร่างของผู้เป็นบิดาเซถลาไปปะทะเข้ากับฝากระโปรงรถเสียงดังโครม ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น กระสุนจึงพลาดเป้าเป็นรูอยู่ที่ประตูรถ
“ไอ้เวรตะไล ระยำ เสือกไม่เข้าเรื่อง”
มือปืนที่อำพรางใบหน้าไว้ด้วยหมวกกันน็อกสีดำ สบถออกมาด้วยความโกรธจัด ทุกอย่างผิดแผนไปหมด หลังจากที่มันอุตส่าห์ซุ่มซ่อนอยู่ในซอยเล็กๆ และอดทนกับฝูงยุงอยู่นานนับชั่วโมง เพื่อรอจังหวะให้สองพ่อลูกก้าวออกมาจากร้านอาหาร
และด้วยความโกรธจัดก็ทำให้ปืนในมือเปลี่ยนเป้าหมายทันที
คราวนี้มันเล็งปลายกระบอกปืนไปที่ชายหนุ่ม ซึ่งไม่รู้ว่ากินหัวใจหมีหรือดีเสือมาจากไหน? ถึงได้กล้าเอาชีวิตตัวเองเข้ามาขวางทางปืน
“อย่าอยู่เลยมึง”
มันคำรามเสียงต่ำในลำคอด้วยความขุ่นเคือง แต่ไม่ทันที่กระสุนอีกนัดจะลั่นออกมาจากรังเพลิง ปลายเท้าของพลเมืองดีก็เหวี่ยงโครมไปที่ชายโครงของมือปืนเข้าอย่างจัง เขารวดเร็วมาก จนทำให้ทั้งรถมอเตอร์ไซค์และคนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
และทันใดนั้นเอง
ปัง!
ปืนที่ยังไม่หลุดจากมือของมือปืนก็ดังลั่นขึ้นอีกนัด ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของชายวัยกลางคนและลูกสาว ที่มองดูชายหนุ่มต่อสู้กับมือปืนอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะด้วยมือเปล่าก็ตาม
หากแต่กระสุนที่ลั่นออกมาเมื่อครู่ ไม่อาจหยุดยั้งชายหนุ่มผู้กล้าหาญ ดวงตาคมปลาบไม่ได้แสดงความหวาดหวั่นหรือใส่ใจต่อความเจ็บแปลบที่วาบแล่นขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นเมื่อครู่นั้นโดนเข้าที่ส่วนไหนของร่างกาย
ในขณะที่กำลังก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความ ‘เป็น’ กับความ ‘ตาย’ ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเสียเปรียบตรงที่ไม่มีอาวุธ หากแต่สติที่ไม่วอกแวก ก็สั่งให้เขาฉวยเอาความได้เปรียบที่ช่วงชิงกันเพียงเสี้ยววินาทีของชีวิต พุ่งทะยานเข้าหามือปืนอีกครั้งอย่างไม่ครั่นคร้าม กำปั้นหนักหน่วงกระแทกไปที่ใบหน้า พร้อมกับประเคนหน้าแข้งหนักๆ อัดเข้าใส่ลำตัวของมันจนนับครั้งไม่ถ้วน
และในจังหวะที่มือปืนพยายามพยุงร่างสะบักสะบอมขึ้นจากพื้น กระทั่งยืนขึ้นมาได้อย่างกะโผลกกะเผลก เท้าใหญ่ๆ ของชายหนุ่มก็ถีบพลั่กเข้าที่ยอดอกของมันอีกครั้ง ปืนที่ถืออยู่ในมือหลุดกระเด็นลงพื้น ท่ามกลางสายตาและเสียงหวีดร้องของผู้คนภายในร้านอาหาร ที่กรูกันออกมายืนดูเหตุการณ์ด้วยความตระหนก
ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด ความเพลี่ยงพล้ำทำให้มือปืนตัดสินใจหันไปคว้ามอเตอร์ไซค์ที่ล้มคว่ำอยู่กับพื้น แล้วรีบสตาร์ทเครื่องเผ่นหายไปในความมืดมิดของซอยลึกและเปลี่ยว ไม่เหลียว