ตอนที่4(ไคVSฝุ่น)
08:30น.
อพาร์ตเมนต์SA
ไต้ฝุ่น ตรีชฏา..
“อื้อออออ”ฉันบิดตัวไปมาด้วยความเมื่อยตัวไปหมด และค่อยๆกระพริบตาปรับแสงรอบๆให้ชินกับดวงตาของฉันที่มันกำลังจะออกไปปะทะกับแสงจ้า เพราะตอนนี้ศีรษะของฉันหนักอึ้งและมึนหน่อยๆเพราะฤทธิ์เหล้าขวดเมื่อคืนนี้
“ที่นี้ที่ไหน?”เมื่อฉันปรับดวงตาให้ชินกับแสงของพระอาทิตย์ที่ส่องผ่านประตูกระจกบานใหญ่เข้ามาได้แล้วก็เริ่มมองไปรอบๆและเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย เพราะที่ฉันอยู่ตอนนี้คือห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆมันเล็กมากอ่ะ ห้องน้ำที่คอนโดฉันยังใหญ่กว่านี้เป็นสองเท่า ห้องที่นี้ถูกตกแต่งด้วยโทนสีแดงสลับชมพูและรอบๆห้องก็ถูกจัดให้มีแต่สีชมพูไม่ว่าจะเป็นโต๊ะนั่งเหรอโต๊ะทำงานก็เป็นสีชมพู แม้กระทั่งผ้าปูที่นอนก็เป็นสีชมพูรวมไปถึงผ้าห่มที่คลุมร่างของฉันอยู่นี้ก็เหมือนกัน ขนาดฉันที่เป็นผู้หญิงห้องของฉันยังไม่สีชมพูขนาดนี้เลยน่ะเนี่ย
“เห้ย!อีตุ๊ด!!!”ทันทีที่ฉันหันมามองอีกข้างของผนังห้องก็ต้องตกใจเพราะมีร่างผิวดำทะมึนของอีตุ๊ดนอนอยู่ข้างๆฉันและที่สำคัญมันไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ฉันเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจรีบเปิดผ้าห่มดูร่างกายตัวเองทันที แล้วก็ต้องร้องอ้าปากค้างแหกปากร้องลั่นด้วยความตกใจ เพราะร่างกายของฉันไม่ได้มีอะไรสวมหรือใส่อยู่เลย
“ย๊ากกกกกกกอุ๊บบบ!!”เสียงของฉันขาดหายไปทันทีเพราะอีตุ๊ดมันเอาหมอนมาอุดปากฉัน อีบ้า!!!!! มันจะฆ่าฉันเรอะ!
“หยุด!หุบปากเหม็นๆของเธอได้แล้วนางชะนี!!!”เขาตะโกนใส่หูฉัน มันกล้าดียังไงว่ามาว่าฉันปากเหม็นนะฮ่ะ
พรึบ
“อื้อ”อีตุ๊ดร้องออกมาด้วยความทรมานเพราะฉันได้เบี่ยงร่างกายขึ้นมาคร่อมร่างเขาแทนและหยิบหมอนมากดลงไปที่หน้าของเขาทันที
“ตายซะเถอะ!!!”ฉันพูดขึ้นและกดมือให้แรงขึ้นเพราะตอนนี้เขาได้ดิ้นและมือทั้งสองข้างของเขาได้จับหมอนดันสู้กับฉัน เขายิ่งขัดขืนฉันก็ยิ่งใช้กำลังอุดหมอนให้หนักขึ้นและกดลงไปตามแรงอารมณ์ของฉัน
“เอือกกกกก”เสียงคนร้องดังเอือกสุดท้ายก่อนที่ร่างกายของคนใต้ร่างฉันแน่นิ่งไป ทำให้ฉันได้สติรีบจับหมอนใบใหญ่ดึงออกมาจากหน้าของเขา ก็เห็นว่าอีตุ๊ดนั้นนอนหลับตาแน่นิ่งไปแล้ว
“ตายแล้วเหรอว่ะ?!”ฉันพูดขึ้นด้วยความตกใจ พลางยื่นนิ้วชี้ไปตรงรูจมูกของเขาเพื่อดูว่าเขายังหายใจอยู่รึป่าว
“เห้ย!ไม่หายใจ!!!”ฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจเพราะเขาไม่ได้หายใจแล้ว ฉันรีบคว้าข้อมือของเขามาวัตรชีพจรทันทีแต่ก็ไม่พบว่าชีพจรเต้นอยู่
พรึบ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ตุ๊ดฉันขอโทษ”ฉันเอ่ยบอกจากความรู้สึกผิดของฉัน
“ก็ใครใช้ให้เธอมาว่าปากฉันเหม็นกันล่ะย่ะ!”ฉันพูดบอกเขาไป ใช่สิฉันต้องปั้มหัวใจให้เขา เมื่อนึกได้ดังนั้นฉันจึงขยับร่างของฉันมานั่งอยู่ข้างๆกายของคนที่นอนแน่นิ่งไม่หายใจไปและนั่งชันเข่าเพื่อจะได้ปั้มหัวใจให้เขาง่ายขึ้น
พรึบ พรึบ
“ฟื้นสิ อีตุ๊ด!!!”ฉันปั้มหัวใจไปก็พูดบอกเขาไปให้ฟื้นขึ้นมา แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาได้เลย มีทางเดียวคือเม้าท์ทูเม้าท์ผายปอดเพื่อเอาอากาศให้เข้าไปในร่างกายของเขา
พรึบ
“ฟู่ๆๆๆๆฟูวววว”ฉันเอามือบีบจมูกของเขาและก้มหน้าลงเอาปากประกบปากและเริ่มเป่าลมลงไปให้ช่องปากของเขา
ฟุบ
“เห้อออออออออ”ฉันล้มตัวลงนอนลงข้างๆเขาอย่างคนหมดแรง ฉันทั้งผายปอดให้เขาทั้งปั้มหัวใจให้เขาจนหลายสิบนาทีเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นหรือหายใจเลย นี้ฉันฆ่าคนตายจริงๆเหรอเนี่ย
“ฉันเพิ่งจะอายุ19เอง มือของฉันก็ต้องมาเปื้อนเลือดเพราะฆ่าตุ๊ดแล้วเหรอเนี่ย!”ฉันพูดขึ้นพลางชูมือทั้งสองข้างสูงขึ้นและพลิกมือไปพลิกมือมา
“ในคุกจะลำบากไหมนะ คุณแม่เอาฉันตายแน่ๆเลย เห้อออออออออออ”ฉันบ่นขึ้นพลางเอามือมาทึ้งหัวตังเองและผ่อนลมหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด และค่อยๆปิดเปลือกตาลงอย่างคนที่มองไปทางไหนก็มืดแปดด้าน ฉันคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น ฉันจะทำยังไงกับศพอีตุ๊ดนี้ดี ฉันจะต้องไปที่สถานีตำรวจและไปบอกเขาว่าฉันฆ่าตุ๊ดตายแบบนี้ใช่รึป่าวน่ะ อนาคตที่สวยงามของฉันกำลังจะดับลง เสื้อกาวร์สีขาวที่ฉันจะต้องสวมเพื่อรักษาคนไข้กำลังจะพังทลายลงเพราะอีตุ๊ดนี้คนเดียว
“คนบ้าอะไรว่ะ ตายง่ายจัง!”ฉันพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดและค่อยๆปล่อยให้สมองของฉันว่างเปล่าลงขอนอนสักงีบเเล้วพอตื่นมาค่อยหาวิธีจัดการศพของตุ๊ดนี้
15:30น.
“อื้ออออออออ”ฉันครางขึ้นด้วยความขี้เกียจอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไหร่ที่ฉันต้องตื่นขึ้นมาเพราะฉันปวดฉี่
“ปวดอะไรตอนนี้ กำลังนอนหลับสบายๆอยู่เลย”ฉันบ่นขึ้นด้วยความหงุดหงิดเพราะฉันเป็นคนที่ชอบนอนกลางวันมากกว่ากลางคืน เพราะกลางคืนฉันคือนักท่องเที่ยวยามราตรียังไงล่ะ
พรึบ
“ห้องน้ำอยู่ไหน?”ฉันลุกขึ้นจากเตียงและค่อยๆลืมตามองหาห้องนำ้
“อ้าวนี้ฉันไม่ได้อยู่ห้องตัวเองหนี้หว่า”ฉันพูดไปยกมือขึ้นมาเกาหัวตัวเองไปและส่องสายตามองหาห้องน้ำก็ไปเจอเข้ากับประตูบานสีขาวและฉันมั่นใจว่านั้นคือห้องน้ำ ฉันไม่รอช้ารีบเดินเร็วๆไปยังห้องนำ้ทันที
พรึบ
ฉันเปิดประตูเข้าไปยังห้องนำ้ขนาดเล็กก็พบกับชักโครกที่ตั้งอยู่สุดกำแพงของผนังห้องนำ้ ฉันไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปเพื่อปลดปล่อยอย่างไว
ฉ่าาาาาา
“อื้อออออออ ค่อยยังชั่ว”ฉันพูดขึ้นและหลับตาลงอย่างรู้สึกผ่อนคลาย
“ว๊าย!ตาเถร อย่ามาแก้ผ้าให้ฉันดูนะย่ะ ยัยชะนีหัวสูง!”คำพูดมีจริตในนำ้เสียงของคนที่คุ้นหูทำให้ฉันรีบลืมตามองต้นตอของเสียงทันที ก็พบมนุษย์ผีทะเล
“กรี๊ดดดดดด อีตุ๊ดดดดดดด!!!”ฉันแหกปากร้องลั่นห้องนำ้ด้วยความตกใจกับภาพเบื้องหน้าที่เห็น คือผู้ชายร่างกายที่มัดกล้ามหน้าท้องที่แข็งแกร่งผิวของเขาสีขาวนวลจนฉันตกใจเพราะหน้าของเขาได้สวมหน้ากากผีตาโบ๋แลบลิ้นปลิ้นตาจนหน้ากลัว พอฉันมองตำ่ลงไปกว่าก็ต้องถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ เกิดมาจากท้องแม่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นของสงวนของผู้ชายเลยสักครั้งมันมีรูปร่างที่น่ากลัวและน่าตกใจกับขนาดของมันที่เป็นแท่งใหญ่ยาวสีขาวอมชมพู ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อมองสบเข้ากับของที่ฉันเห็นอยู่เบื้องหน้านี้
“อีตุ๊ด มีอารมณ์เหรอว๊ายยยยย!”ฉันเอามือขึ้นมาปิดตาแทบไม่ทัน เพราะตอนนี้ความเป็นของอีตุ๊ดมันกำลังตั้งชี้มาที่หน้าของฉัน
“หยุดแหกปากสักทีหน่วงหู!!”เขาโวยขึ้นเป็นเสียงผู้ชาย ทำให้ฉันหยุดชะงักและค่อยๆแหวกนิ้วตรงดวงตาของฉันแอบมองเขา เขาเห็นว่าเขาเอาผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเขาไว้แล้ว เห้อค่อยโล่งอกไปที แต่เดี๋ยวน่ะ อีตุ๊ดที่ฉันเห็นมันมีผิวสีดำไม่ใช่เหรอว่ะ แต่นี้ทำไมผิวเขามีขาวเนียนสวยขนาดนี้ได้
“นายเป็นใคร?!”ฉันลุกขึ้นและยื่นมือไปคว้าผ้าขนหนูอีกผืนที่ถูกแขวนไว้บนราวตากผ้ามาพันรอบตัวเหมือนกัน เพราะฉันเพิ่งจะนึกได้ว่าฉันโป๊อยู่ แต่อีตาบ้านี้มันก็ควจะเห็นของรักของหวงของฉันไปหมดแล้วแน่ๆ
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ ออกไปซ่ะ!!!”เขาเอ่ยตอบฉันกลับมาด้วยนำ้เสียงแข็งกร้าว เขาไม่ได้หันหน้ากับมามองฉันเขากำลังจะเดินออกไปจากห้องนำ้
“นายเอาศพอีตุ๊ดไปไว้ไหน แล้วนายเข้ามาที่นี้ได้ยังไง?!”ฉันเอ่ยถามคำถามที่สงสัยของฉัน เพราะเมื่อกี้ฉัรไม่เห็นร่างของตุ๊ดบ้านนอกนั้นอยู่บนที่นอนและพอฉันมาเข้าห้องนำ้นี้ปรากฎร่างของผู้ชายอีกคนได้ยังไง?
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ ออกไปจากห้องนี้ซ่ะ!!”เขาพูดเสร็จแล้วก็เดินออกไปจากห้องนำ้นี้อย่างไว ฉันก็รีบเดินตามเขาออกมา
“นายจะให้ฉันออกไปจากห้องนี้ได้ยังไง ดูสภาพฉันสิ!!”ฉันพูดบอกเขาในจังหวะที่ฉันเดินตามหลังเขาออกมา
“อะไร?”ฉันเอ่ยถามเขาไปด้วยนำ้เสียงสงสัยเพราะว่าอยู่ดีๆเขาก็ยกมือชี้ไปยังที่โซฟาขนาดไม่ใหญ่มากที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง
“เสื้อผ้าของฉันเหรอ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอีก เพราะพอฉันมองไปก็พบกับเสื้อผ้าของฉันที่ฉันใส่เมื่อคืนนี้ถูกผับวางไว้บนโซฟาอย่างเรียบร้อย แต่ก็ไร้เสียงคำตอบจากผู้ชายร่างสูงที่ตอนนี้เขาเดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
“หายไปไหนว่ะ ไวจัง คนหรือผี?”ฉันพูดขึ้นเมื่อส่องสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่พบกับร่างของผู้ชายคนนั้นเลย ห้องก็ไม่ใหญ่มากแต่แปลกเขาเดินไปห้องไหนเร็วจัง ฉันจึงเลิกสนใจและเดินเข้าไปดูเสื้อผ้าของฉันที่อยู่บนโซฟาทันที
“เขาเอาเสื้อผ้าของฉันไปซักมาเหรอ?”ทันทีที่ฉันหยิบเสื้อผ้าของฉันขึ้นมาดูก็ถูกพบว่ามันด้ถูกซักรีดมาเป็นอย่างดีแล้ว แล้วทำไมเขาต้องเอาเสื้อผ้าของฉันไปซักด้วย
“เขาคนนั้นเป็นใคร?และอีตุ๊ดบ้านนอกไปไหน?”ฉัรเอ่ยขึ้นอย่างนึกสงสัย
ก๊อกกกกกก
“ไอไค!!!”เสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงของผู้ชายเอ่ยเรียกชื่อของใครสักคน ฉันที่กำลังจะเอาเสื้อผ้ามาใส่ก็ต้องหยุดชะงักลง
ปึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เปิดประตูดิ!!”เสียงผู้ชายอีกเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอีก ทำให้ฉันย่นจมูกอย่างรู้สึกหงุดหงิด
“ใครว่ะ ใครชื่อไค?”ฉันพูดพึมพำขึ้น ฉันจะไปเปิดประตูดีรึป่าว เพราะเขาเรียกหาคนชื่อไคหรอกน่ะ ไม่ได้เรียกหาคนที่ชื่อฝุ่นหนิ
“ใครชื่อไคว่ะ มาเปิดประตูดิ หนวกหูเว้ย!!”ฉันตะโกนเรียกหาผู้ชายคนนั้น เพราะเขาน่าจะชื่อไคน่ะ เอ่อแล้วอีตุ๊ดล่ะ อีตุ๊ดหายไปไหน หรือว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นผัวของตุ๊ดบ้านนอกว๊ายตาเถร! ตุ๊ดมีผัวหุ่นดีมากค่ะ และเเถมอะไรต่อมิอะไรของเขาก็มองออกจะใหญ่โตมีนำ้มีนวลเอ้ย!ไม่ใช่ล่ะไม่ใช่!
พรึบ
“อื้ออออ”ฉันดีดดิ้นตัวไปมาให้หลุดจากการจับกุมของใครสักคนที่เอาผ้ามาปิดจมูกของฉันจากทางด้านหลังและฉันก็เผลอสูดเอากลิ่นเหม็นที่ติดมากับผ้านี้เข้าไปในปอด ทำให้ฉันค่อยๆหมดแรงลงและหลับตาลงไปในที่สุด มันคือยาสลบ