บท
ตั้งค่า

เพราะมึงเป็นของกู |Ep.11| NC

ตุบ!

"ไอ้ติณมึงจะทำอะไร!" ปุณกระเส่าถามพลางขมวดคิ้วมุ่นหลังจากถูกติณลากเข้ามาในเต๊นท์แล้วผลักให้นอนลง

จริงๆ ก็พอเดาสถานการณ์ได้แหละ แต่ช่วยปรึกษาเขาหน่อยไหมว่าพร้อมหรือเปล่า อีกอย่างสถานที่มันเอื้ออำนวยนักแหละ

"แน่ใจว่าไม่รู้จริงๆ?" คนที่พึ่งลงไปคร่อมร่างขาวนวลกระเส่าถามกลับด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก แววตาแพรวพราวราวกับกำลังจ้องเนื้อชิ้นโต

ช่วยไม่ได้ ก็ปุณอยากทำตัวให้น่ากินทุกวันทำไมล่ะ ที่ผ่านมาเห็นว่ายังไม่มีโอกาสเลยอดใจรอเอาไว้ แต่วันนี้โอกาสนั้นมันวิ่งเข้ามาในมือแล้ว ใครจะปล่อยไปล่ะ

"เออกูรู้ไอ้เหี้ย! แต่มึงจะทำที่นี่ไม่ได้ มึงบ้ารึเปล่า!"

"ทำไมจะไม่ได้ มีใครที่ไหน"

"เต๊นท์ข้างๆ นี่หมีมั้ง"

"มันหลับกันแล้วเหอะ"

"แล้วมันตื่นกันไม่เป็นมั้ง พอเลยๆ ปล่อยกูไอ้เวร!"

"เรื่องอะไรกูจะปล่อย" ติณกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโน้มหน้าลงไปจุ๊บปากคนใต้ร่างหนักๆ หนึ่งทีเพื่อลองเชิง แล้วก็เห็นว่าปุณเองก็มีอาการเคอะเขินและหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน จึงคิดว่าน่าจะไปต่อได้

"มะ..มึงปล่อยกูเหอะ" ปุณร้องขอเสียงติดๆ ขัดๆ พลางหลบสายตาลุ่มหลงที่มองลงมา

มองกูขนาดนี้ก็แดกกูเลยเถอะ! กะจะให้กูเขินตายเลยมั้ง

"มึงเขินเหรอ?"

เอ้า! แม่งรู้อีก "กู..กูเปล่า!"

"เปล่าแล้วหลบตากูทำไม?"

"ก็ดูแววตาที่มึงจ้องกูสิ...แถมยังอยู่กันในท่าเนี๊ย! กูคงชิลได้อยู่มั้ง"

"ก็กูบอกว่ากูขอ" ติณบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพลางเอามือขึ้นไปเกลี่ยปอยผมที่ข้างขมับนวลเบาๆ

ทำเอาปุณต้องเม้มปากช่างใจขอเวลานอกครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่คิดแล้วคิดอีกเขาก็ได้คำตอบเหมือนเดิมว่าไม่ควรตามใจติณในตอนนี้

สถานที่มันโจ่งแจ้งเกินไป เพนกับอ้อมอาจจะนึกคึกตื่นมาเปิดเต๊นท์เขาเมื่อไหร่ก็ได้ ยิ่งไอ้เพนซะด้วย ความเกรงใจไม่เคยมี มารยาทคงไม่ต้องถามถึง

เสี่ยงไป! ไม่ควรๆ

"นะ~"

เอ๊ะ! ไอ้นี่ก็อ้อนอยู่ได้

"กู...." ปฎิเสธสิปุณปฏิเสธไป อย่าไปใจอ่อนให้กับความขี้อ้อนอันเสแสร้งนั่น! ทำไมกูถึงพูดอะไรไม่ออกวะ

"งั้นลองดูก่อนก็ได้ ถ้ามึงโอเคก็ต่อยาวๆ จนจบ"

"ละ..ลองอะไร?"

"....." ติณไม่ตอบ แต่กลับยกยิ้มเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงไปจูบริมฝีปากอิ่มอุ่นๆ แทน ซึ่งก็ถูกคนใต้ร่างออกแรงต่อต้านโดยการดันหน้าอกเขาออก แต่เขาหรือจะยอมออก

"อื้อออ!" ติณร้องท้วงในลำคอเบาๆ ด้วยว่ากลัวเต๊นท์ข้างๆ จะตื่น เขาดิ้นขลุกอยู่ใต้คนตัวโตกว่าทว่ายิ่งดิ้นบางสิ่งบางอย่างที่เริ่มพองตัวแข็งขึ้นก็ยิ่งเสียดสีกับพวกเดียวกันของคนด้านบน พาเอาร่างกายชะงักสับสน คราวนี้เดี๋ยวกำแขนเสื้อติณแน่นเดี๋ยวก็ผลักไหล่ติณออก

สับสนจนไบโพล่าร้องถามว่ากูควรทำงานในตอนนี้ไหม

เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ตวัดพลิกดูดดึงลิ้นเล็กเข้ามาในปาก ทั้งขบเม้มริมฝีปากอิ่มอย่างเกลี้ยกล่อม ทั้งใช้ฝ่ามือล้วงเข้าไปลูบหน้าท้องแข็งแรงสำรวจพื้นที่แบนราบลื่นมือหวังให้ปุณคล้อยตามและยอมใจอ่อนพลีกายให้กับเขา

"อึกก!...อื๊ออ..เดี๋ยว!" ปุณพลิกหน้าคืนอิสระให้กับปากตัวเองเพื่อร้องห้ามคนมือซนที่คว้าหมับเข้าที่เชือกกางเกงช้าง

มันจะถอดกางเกงกูแหละ

"มึงอายเหรอ?" ติณถามเมื่อเห็นเพื่อนนอนนิ่งตาหลุกหลิกไปมาราวกับคนสับสน ไม่ยอมให้ถอดแต่ก็ไม่ร้องปฏิเสธ

"กูว่าไม่ดีหรอกมึง วะ..ไว้วันหลังได้ไหม รอกลับไปก่อนแล้วว...ค่อยทำที่บ้านมึง" ปุณบอกอย่างเคอะเขินพลางทำหน้าไม่ถูก จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองกะพริบตาไปกี่ครั้งในเวลาสิบวินาที

คำว่า ไว้วันหลัง ที่ปุณบอกมาทำให้ติณมีสีหน้าสลดลงด้วยที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าวันนั้นมันอาจไม่มี และถึงจะมีก็คงหลังจากที่เขาไปเยอรมันแล้วหนีกลับมาไทยตอนช่วงปิดเทอม ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าปุณจะยังรอเขาอยู่ไหม หรือบางทีปุณอาจจะโกรธจนเราสองคนมองหน้ากันไม่ติดเลยก็เป็นได้

"กู...."

".....?" ปุณนอนเลิกคิ้วรอฟังคำตอบจากคนที่ยังไม่ยอมลุกออกไปจากตัวเขา หนำซ้ำอวัยวะกลางกายยังแข็งเป็นลำแทงหน้าขาเขาไม่มีหดลงเลยแม้แต่น้อย และที่รู้ๆ คือของมันไม่น้อยเลยจริงๆ

นึกภาพไปถึงไหนวะเนี่ยไอ้ปุณ!

"กูจะไม่ไหวอ่ะดิ มึงเห็นไหมว่าของกูมันแข็งมากแล้ว" ติณรีบเปลี่ยนสีหน้าส่งสายตาอ้อนวอนให้ปุณอีกครั้ง ยังไงก็ต้องมัดจำก่อนไปเยอรมันให้ได้ ให้มันมีพันธะอะไรผูกกันไว้สักอย่าง ให้เขาได้เป็นเศษเสี้ยวนึงให้ปุณได้นึกถึงเวลามีคนอื่นมาจีบ อาจจะรับประกันไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เปิดใจให้ใครคนใหม่ได้เดินเข้ามา แต่เขาขอสัญญากับตัวเองว่าจะขยันบินมาให้ปุณเห็นหน้าบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

"กูไม่เห็น!" ปุณรีบถลึงตาปฏิเสธ พวงแก้มขาวใสขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อไอ้สิ่งนั้นที่ติณพูดถึงมันตะหงึกทักทาย

ไม่เห็นแต่รู้สึกโว่ย! รู้สึกจนนึกเป็นมโนภาพได้เลยว่าขนาดมันจะเท่าไหน

"มึงดื้อนะ" ติณเริ่มปรับโทนเสียงที่พูดเมื่อดูท่าแล้วมุขอ่อนโยนคงอ้อนไม่ได้ผล

ใช้ไม้อ่อนดัดไม่ได้ก็ต้องงัดไม้แก่แหละวะ

"ก็มึงพูดไม่รู้เรื่อง!"

"มึงไม่รักกูเหรอ?" ลองถามเสียงอ่อยดูอีกครั้งเผื่อมุขนี้จะเล่นได้ และก็เหมือนมันจะได้ผลเมื่อปุณเกิดอึกอักขึ้นมาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เถียงจนเอ็นขึ้นคอ

"แต่...."

"เชื่อใจกูนะ"

ปุณเม้มปากลังเล ถามว่าอยากไหมอวัยวะกลางกายที่ขึ้นแข็งเป็นแท่งไม้คงตอบแทนความในใจไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือก็แต่ตอบตกลง

"อ..อืม เบาๆ นะ"

ได้ยินคำตอบที่ถูกใจติณก็ฉีกยิ้มหวานจนลักยิ้มข้างซ้ายบุ๋มลึกลงไปชวนคนใต้ร่างให้หลงเสน่ห์ความหล่อเหลาที่เห็นมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่ยักจะสังเกตเห็น พึ่งจะมาสังเกตได้ก็ตอนปีสองปีหลังนี้เอง

"อื้มมม~" เสียงทุ้มครางแผ่วเมื่อคนบนร่างก้มลงมาประกบจูบเรียวปาก ส่วนมือก็ทำหน้าที่ดึงทึ้งเสื้อผ้าเขาออก

ปุณให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ลุกขึ้นนั่งให้ติณถอดเสื้อออก ข้างล่างก็ยกสะโพกให้อีกฝ่ายถอดกางเกงออกเช่นกัน โดยที่ปากยังคงขบเม้มดูดดึงกันอย่างนัวเนียเป็นช่วงเป็นตอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel