บท
ตั้งค่า

3

#####3

แกร็ก!! คนตัวเล็กเปิดประตูออก สองมือปิดบังตัวเองเอาไว้ ในห้องน้ำไม่มีผ้าเช็ดตัวหรืออะไรที่จะเอามาใช้ห่อหุ้มร่างกายได้เลยสักชนิด เธอจึงเลือกออกมาตัวเปล่า

ซู่เหลียงฉีเห็นหญิงสาวแปลกหน้าออกมาด้วยท่าทีเขินอายแก้มเธอแดงเปร่งปรั่ง ขับเน้นให้ใบหน้านั้นดูเย้ายวนเป็นที่สุด

นัทธนิษฐ์รีบวิ่งไปซุกตัวอยู่กับผ้าห่มบนเตียงอย่างรวดเร็ว

“มีเสื้อผ้าให้ฉันยืมไหม ชุดเมื่อคืนคุณทำพังหมดแล้ว” เธอโผล่จากผ้านวมผืนโต ออกมาสนทนากับคนแปลกหน้า

“ไม่มี ว่าแต่ว่า....ฉันชอบเธอแบบไม่ใส่อะไรมากกว่า” เขากวนอารมณ์เธอเล่น ๆ

“เสื้อเชิ้ต หรือเสื้อยืดสักตัวก็ไม่มีเลยหรอ” น้ำเสียงของเธอเจือความหงุดหงิด

กวนประสาทเธอจนพอใจ ซู่เหลียงฉีก็จัดแจงหยิบเสื้อกล้ามสีขาวกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวโยนใส่ให้เธอ

“ใส่นี่ไปก่อน ค่าชุดเดรสที่เธอเช่ามา ส่งบิลมาให้ฉัน เดี๋ยวชดใช้คืนให้”

ชายหนุ่มยืนกอดอกมองเธอที่กำลังจะใส่เสื้อผ้าอย่างตั้งใจ

“หันไปสิ” เธอทำหน้าแหวใส่เขา อีตาบ้านี่ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ชุดนั่นเธอจะซื้อใหม่ใส่แล้วทิ้ง ใส่แล้วทิ้งอีกเป็นสิบตัวก็ยังได้

“จะอายอะไร เมื่อคืนก็เห็นกันไปหมดแล้ว” เขาเปลี่ยนจากยืนมองเป็นนั่งข้าง ๆ ก้อนผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวเธอเอาไว้

“.....”

“ไม่ใส่ล่ะ หรืออยากให้ฉันใส่”

พอเขาทำท่าจะเข้าใกล้เธอก็รีบซุกตัวเข้าใต้กองผ้าห่ม

“ไม่ต้อง ใส่เอง ใส่เองได้ หยุดตรงนั้น”

“Ok” เขานั่งมองท่าทางน่าเอ็นดูของเธออย่างอารมณ์ดี

ไม่นานเธอก็โผล่ตัวออกมาจากกองผ้าห่ม โชคดีที่แพนตี้ของเธอยังใช้การได้ คนตัวเล็กขยับกายลุกออกจากเตียง ควานหากระเป๋า ป่านนี้บอดี้การ์ดกับทีมเลขาคงจะตามหาตัวเธอให้วุ่นวาย

และก็เป็นเช่นนั้น สายที่ไม่ได้รับไม่ต่ำกว่า 50 สาย ทั้งจากที่บ้าน ที่ทำงานที่บริษัท ไม่เว้นแม้กระทั่งสายจากแบรนด์แอมบาสเดอร์คนสำคัญ

“ลูกค้าคงเยอะมาก โทรมากันไม่หยุด ฉันเลยปิดเสียงให้ ถ้าตื่นสายกว่านี้หน่อยว่าจะชาร์จแบตให้ด้วย”

เธอค้อนขวับใส่เข้าทันที

แต่ละเบอร์ที่โทรเข้ามา ถูกโชว์ขึ้นชื่อเป็นภาษาที่เขาไม่รู้จัก มันน่ารำคาญจนเขาต้องเอามาปิดเสียงปิดสั่น เขาเดาว่าเธอคงไม่ใช่คนเมืองนี้

“ลาก่อน หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันอีก”

นัทธนิษฐ์บอกลา หยิบกระเป๋าแบรนด์เนมติดตัวพยายามจะปิดประตูออกไป แต่ก็เปิดออกไปไม่ได้

เขายืนดูเธอเขย่าประตู หาทางงัดแงะเพื่อที่จะออกไปให้ได้

“ประตูแบบพิเศษ ใช้ลายนิ้วมือกับรหัสผ่านส่วนตัวของผม ทั้งตอนเข้าและตอนออก”

เขาอธิบายให้คนตัวเล็กที่พยายามเปิดประตู

เธอหันมองเขาอย่างจนใจ

“เปิดให้หน่อย”

“รอก่อน ขอใส่เสื้อผ้าแปบ”

เขาเดินยืดยาด อย่างคนขี้เกียจ กว่าจะไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่แต่ละตัว เล่นเอาเธอหัวร้อนไปหมด

“เร็วหน่อยได้ไหม”

เขาหันมาส่งยิ้มยียวน “ถ้ารีบก็ไปก่อนเลย”

มันจะไปก่อนได้ยังไงเล่าก็เขาขังเธอไว้ในนี้ นัทธนิษฐ์จึงต้องนั่งลงรอเขาบนโซฟา เอ่อ... นี่มันโซฟาตัวเมื่อคืนนัทธนิษฐ์รู้สึกร้อนผ่าว เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

ซู่เหลียงฉีเดินออกมาจากห้องแต่งตัว พร้อมกับโยนเสื้อโค้ตตัวใหญ่ให้เธอสวมทับ หากออกไปข้างนอกทั้งแบบนั้น มีหวังเขาต้องได้หามเธอกลับเข้ามาอีกแน่ ๆ

“ขอบคุณ” เธอไม่ปฏิเสธ “เราจะไปกันหรือยัง” เธอถามย้ำเมื่อเห็นว่าเขายังไม่เดินมาที่หน้าประตูสักที

“ไปสิ”

ซู่เหลียงฉีเดินอาด ๆ นำเธอออกไปที่โถงทางเดิน ผิดวิสัยเขาที่สุด เขาไม่เคยออกมาส่งคู่ขาแบบนี้มาก่อน ทำมากสุดก็แค่เปิดประตูห้องให้

เดินจนถึงลิฟต์ส่วนตัว เธอพบว่าการที่จะขึ้นมายังส่วนนี้ได้ต้องเป็นบุคคลที่มีคีย์การ์ดเท่านั้น นอกจากนี้ มันเป็นพื้นที่ส่วนตัว พนักงานทั่วไปไม่มีทางส่งเธอขึ้นมายังส่วนนี้ได้แน่นอน

“ใครบ้างที่มีคีย์การ์ดนั่น” นัทธนิษฐ์ถามซู่เหลียงฉี

“ไม่กี่คนหรอก ถามทำไม” เขามองเธอจากเงาสะท้อนภายในลิฟต์

“แค่อยากรู้เฉย ๆ น่ะ” เธอนิ่งไปสักพักก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออก ทางเดินด้านล่างก็ยังเป็นพื้นที่ส่วนตัว เมื่อเดินผ่านออกไปอีกชั้น ถึงเป็นโถงสำหรับแขกของโรงแรม “ฉันอยาก....” ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะพูดได้จบประโยค นักข่าวกลุ่มใหญ่ ก็วิ่งกรูเข้ามาที่คนทั้งคู่

ทั้งซู่เหลียงฉีและนัทธนิษฐ์ต่างก็งุนงงกับเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้า ถ้าเป็นที่ประเทศของเธอก็พอจะเดาได้ว่า ทำไมถึงมีนักข่าวมากมายขนาดนี้ ข่าวฉาว ๆ ของเซเลบริตี้อย่างเธอขายได้ตลอดอยู่แล้ว แต่ที่นี่มันเป็นต่างประเทศนะ ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel