บทที่ 2
กองบัญชาการทหารผ่านศึกเขตทะเลทราย ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาลูกใหญ่ มหึมาจนยากที่ใครจะพานพบ และเหยียบย่างเข้ามาถึง เว้นแต่ว่าใครจะมีธุระจริงๆหรือถูกจับเข้ามา เห็นความตระการตาของที่แห่งนี้
คาเวียร์ เกรย์ เดินบังคับขู่เข็ญผู้ชายคนนึงมาตลอดทาง ด้วยความภาคภูมิใจประหนึ่งว่า เธออาจชนะใจพ่อตัวเอง ทหารยศใหญ่สูงสุดในนี้ก็ได้ เพียงแค่เขามาเห็นหมอนี่ มาเฟียแห่งแก็งค์อัลฟาที่ตามล่ามายาวนาน ทว่าไม่เคยสำเร็จลุล่วง เนื่องจากคนเหล่านี้เก่ง และฉลาดเฉลียวยิ่งกว่าสิ่งใดในหล้า กว่าจะจับได้ ต้องรอให้พวกเขาเหล่าสมาชิกแตกหักกันเสียก่อน
ในขณะธาร์เบอริส ซันดรู การที่ยอมให้หล่อนบังคับมาจนถึงที่หมายได้ ไม่ได้แปลว่าเขานั้นจนตรอก หรือหมดน้ำยาเพียงแค่ถูกเธอใช้ปืนจ่อขู่จะฆ่า สำหรับเขาแผลแค่นี้ไม่ถึงตายหรอกน่า
ทว่า ในสมองยังมีแผนที่โดดเด่นมากกว่านั้น เฉียบขาด ที่สามารถทำให้เขายืนหยัดอยู่บนผืนแผ่นดินทะเลทรายได้ โดยไม่สูญเสียพลังงานมากมาย หรือไม่เลยสักแอะ
" ดูทีสิว่าฉันพาใครมา "
เสียงใสกระจ้อยดังกังวานหลังเดินมาถึง เสมือนเสือฝึกหัดออกล่าเหยื่อ แล้วก็จับได้ตัวแรก
ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน ขณะเชลยอย่างเขาเอาแต่รุดหน้ามองพื้น พร้อมยิ้มขำ ก่อนจะถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น หลังมีใครสักคนเดินมา
" ลูกคิดดีแล้วงั้นหรือ ถึงพาเขามาที่นี่ "
" เอ๋..ท่านหมายความว่าไงคะ"
จากนั้นสาวน้อยที่เคยยิ้มอวด จะหุบยิ้มลงทันควันเมื่อได้ยินคำถามนี้ เธอนิ่วหน้า ก่อนจะหันไปหาลูกน้องให้มาจัดการยืนเฝ้าเขาแทน
ส่วนตัวเองเดินตามผู้บังคับบัญชาไป เนื่องจากเขาดูวิตกกังวลแปลกๆ
จนกระทั่งถึงห้องทำงานส่วนตัว ที่น้อยคนจะได้เข้ามา
" ลูกทำอะไรลงไป รู้ตัวบ้างไหม"
" อะไรกันคะ ก็นี่ไงสิ่งที่เราทุ่มเทมาตลอด"
หยุดเดินไม่ทันไร ก็ถูกสาดคำถามใส่ทันที
คาเวียร์ผ่ายมืองง สีหน้าสงสัยสุดขีด ต่างจากบิดาที่เอาแต่ยืนหันหลัง หน้าเคร่งขรึม
" ถ้าเขาจับง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก อย่างที่ลูกกำลังทำอยู่ โดยไม่ใช้แรงทหารครึ่งกองพัน ในการพาตัวเขาเข้ามา ลูกไม่คิดจะแปลกใจกับมันหน่อยหรือ..."
ก่อนดวงตาคู่สวยจะถูกเบิกขึ้น แล้วสั่นระริกภายหลัง หลังเริ่มกระจ่าง
" นี่ท่าน..."
" ความดื้อดึงของลูกกำลังนำหายนะมาสู่กองทัพเรา อัลฟาไม่ใช่โจรกระจอกที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างลูกจะกำจัดได้ง่ายๆ หากทำได้ คงไม่จำเป็นต้องส่งหน่วยลับอื่นๆเข้าไปสืบเรื่องตั้งแต่ต้นหรอก เตรียมพลทหารให้พร้อม ไม่นานเราจะมีสงคราม "
" คะ..."
" แต่ถ้าลูกไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากไปมากกว่านี้ล่ะก็ ฆ่าเขาซะ อย่าทันให้เขานั้นหนีไป...ถ้าลูกนั้นทำได้ "
" O.O"
ธาร์เบอริส ซันดรู
หลังจากถูกจับตัวมา สิ่งที่เขาถูกกระทำหลังจากนั้นคือการถูกตัดอิสระ พันนาการด้วยกุญแจมือ และกักขังบริเวณไม่ต่างกับผู้ต้องหาในตาราง
....นักโทษคนพิเศษ ที่เธอพยายามพลิกแผ่นดินหา เพียงแค่จะเอาชนะใจพ่อ..เท่านั้น
น่าแปลกที่เขาไม่สะท้กสะท้านแม้แต่นิด ต่างกันโดยสิ้นเชิง กลับนั่งกระดิกเท้าสบายใจเฉิบ
จนกระทั่ง...
แกร็ก!
หล่อนเข้ามา
ร่างบางเฟิร์มกระชับเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อ บ่งบอกถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยืนตระหง่านอยู่หน้าประตู หลังถูกเปิดและปิดลงอย่างแรงเรียบร้อยแล้ว
ดวงตาคู่สวยแฝงความแค้นมองตรงมายังเขา ที่เอาแต่นั่งเฉยยียวนกวนบาทา ขนาดเหลือบตาเห็นว่าเป็นหล่อนแล้ว ยังจะมองกลับไปที่เดิม ราวกับหล่อนเป็นอากาศ
ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้อีกเท่าทวีคูณแก่หล่อน
" แกเป็นใครกันแน่" ก่อนจะหลุดคำถามแรกที่ทำคนฟังถึงกับเลิกคิ้วสูง
" จับตัวฉันมา ไม่รู้จักกันมาก่อน มันใช้ได้เหรอ?"
และแน่นอน คนทะเล้นอย่างเขา ไม่มีทางพูดจริงจังกับใครหรอก โดยเฉพาะคนที่เขาไม่สนิทด้วย เว้นแต่ในอนาคตคนผู้นั้นจะสำคัญกับเขา
" ฉันถามก็ตอบให้ตรงคำถามสิ!"
มาเฟียหนุ่มเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะแค่นหัวเราะ และพูดประโยคหนึ่งที่ทำให้เกรย์ถึงกับเต้นโหยงๆ แทบจะพุ่งไปบีบคอเขา
" ฮึ เก่งแต่วางแผนเอาชนะ แต่ไม่เก่งสืบสวน มาเป็นทหารได้ยังไง"
"ว่าไงนะ!"
คาร์เวียกำหมัดแน่นหลังได้ยินประโยคนั้น แล้วรู้สึกว่ามันกระทบหูแรงเกินกว่าจะให้อภัย ทว่ากลับทำได้แค่วางท่าไม่กล้าเข้าไปใกล้จริงจัง เมื่อเห็นคู่กรณีเอาแต่นั่งเฉย
เขานิ่ง... ทั้งที่จริงควรจะร้อนลุ่มหากร่างกายถูกตรวนไร้อิสระ ไม่ต่างจากนักโทษแบบนี้ ด้วยเหตุผลมีเพียงแค่คดีติดบัญชีดำในอดีต ไม่ได้ทำผิดกฏหมายให้จับคาหนังคาเขาอะไร!
ใช่ เขาไม่จำเป็นต้องเดินตามเธอมา เหตุผลเพียงเพราะปืนกระบอกเดียวจ่ออยู่ด้วยซ้ำ
ในขณะที่หล่อนเองก็รู้ หมอนี่มีพรสวรรค์วิเศษอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งหล่อนเองก็ทำไม่ได้ คือการยั่ว ยียวนกวนโอ๊ยให้อีกฝ่ายดูแย่ และสติแตก ทั้งๆที่ตนนั้นยังสงบนิ่ง
เธอยอมรับ เขาทำให้เธอประสาทเสียได้ทุกคราไป เพียงเผลอสบเข้าไปในตา กับใบหน้าอันหล่อเหลานั้น
" หุบปากปอนๆของแกซะ"
" จะหุบลงเรอะ! คุณไม่ใช่หรือ ที่เป็นฝ่ายเข้ามาเพื่อจะหาเรื่อง"
" ฉันก็แค่อยากรู้ชีวะประวัติแกก็แค่นั้น ทำไมพ่อถึงต้องกลัวแก "
" แล้วคุณก็กลัวพ่ออีกที อย่างนั้นใช่ไหม"
" อะไรนะ?!"
" ไม่งั้นคงไม่ลำบากมาถามผม" ซันดรูเปรยตามอง ก่อนจะหลุดยิ้ม ในความอ่อนหัดของเธอ ซึ่งนั้นราวกับสุมไฟในใจเธอ ให้หงุดหงิดหนักเข้าไปใหญ่
คาร์เวียไม่มีทางรู้หรอกว่าในสายตาของเขา มาเฟียหนุ่มที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมาเยอะ มองเธอเป็นเด็กไร้เดียวสาคนนึง ต่างจากคนอื่นที่มองเธอเป็นผู้บังคับบัญชา
เว้นตอนเธอสติแตกเท่านั้น ที่มันจบทุกอย่างในพริบตาเดียว
" เฮ้อ..." เขาลุกขึ้นแสร้งบิดขี้เกียจยียวนเธอต่อ ก่อนจะหยุดยืนนิ่งหรี่ตามอง " จะจับผู้ร้ายทั้งที ทำไมไม่เช็คประวัติกันก่อน หรือไม่ก็ฆ่าผม ทำตามความตั้งใจของพี่ชายคุณในทีแรก "
" ฮึ ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นพี่ชายทำร้ายคนที่อ่อนแอกว่าก็เท่านั้นแหละ เห็นแล้วสงสาร "
คาร์เวียเหยียดปาก ยิ่งทำให้ซันดรูขำหนักเข้าไปอีก ทว่าแค่ในใจเท่านั้น เพราะไม่อยากเห็นหน้าบึ้งของเธอไปมากกว่านี้
" แต่ก็เลือกที่จะพาผมมา..."
" เพราะนายมันคือผู้ต้องหาที่ทางเราต้องการมากที่สุด! "
เธอเผลอตะคอก ก่อนจะกระพริบตาถี่เมื่อเห็นเขามีท่าทีจะเดินมาหา
" หึ คุณน่าจะเหมือนพี่ชายคุณนะ สักหน่อยก็ยังดี"
" ทำไม?"
" เพราะพี่ชายคุณรู้น่ะสิ ว่าผมน่ะ มันตัวอันตราย "
ซึ่งนั่นทำให้เธอขมวดคิ้วเป็นปม แต่ใช่ว่าจะกลัวจนเดินถอยหนี ที่นิ่งเพราะคิดหาคำเถียงเขาไม่ทันมากกว่า
" โจรหน้าไหน มันก็เลวด้วยกันทั้งนั้นแหละ! ยิ่งนายคงจะมากกว่าเท่าตัว ไอ้พวกทรชนทำลายชาติ"
จนกระทั่งค้นหาคำเถียงได้ทันถ่วงที แต่เหมือนจะสาดแรงเกินไป
เมื่อซันดรูเกิดโมโหขึ้นมาจริงๆ
" คิดจะด่ากัน ก็ควรมองดูตัวเองก่อน มีอะไรป้องกันตัวบ้างมั้ย"
ในขณะที่เธออุตส่าห์ระวังตัวเป็นอย่างดี แต่เหมือนจะไม่ทัน มือใหญ่ดุจคีมคีบเหล็กจับหมับเข้าตรงต้นแขน แล้วบีบหนักแรงตามอารมณ์ของเขา ทำเธอต้องนิ่วหน้า
" เฮ้!!.."
" ใครสั่งใครสอนไม่ให้พกอาวุธ เวลาเข้ามาคุยกับโจร"
" กะ..แก"
แต่แล้วความเจ็บปวดกลับถูกกลบด้วยความโกรธ เพียงเพราะคาร์เวียได้ยินประโยคเย้ยยันนี้ เธอกัดฟันกรอด ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงแขนตัวเองออก แล้วเหวี่ยงหมัดไปที่หน้าเขาเต็มๆ
ผั้วะ!
ซันดรูถึงกับถอยร่อนไปไกล ก่อนจะแสะยิ้มพลางเช็ดเลือดที่มุมปากออก
" หึ หมัดหนักใช่เล่น "
มองหน้าเธอตาไม่กระพริบเป็นครั้งสุดท้าย และใช้จังหวะนั้นพาตัวเองหนีออกไป
โดยไม่มีการตกใจออกมาจากคาร์เวียสักนิด เธอได้แต่ยืนมอง เพราะดูท่าพ่ออยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว