บทที่ 6
“เสี่ยจะให้ผมเข้าไปด้วย หรือเปล่าครับ เผื่อว่าคุณอุ้ยจะเมาแล้วไม่ยอมออกมาดีๆ”
“ไม่ต้องหรอก”
ผู้เป็นนายตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงขรึมเย็น คนถามแอบดูหน้าเขาด้วยหางตา แล้วก็พลันให้ขนลุกนึกหวาดแทนคนในปาร์ตี้ไม่น้อย ว่าถ้าเกิดว่าเจอะเจอตัวเข้า แล้วไม่ยอมกลับดีๆ จะโดนอะไรเข้า
“เอ่อ งั้นผมรออยู่แถวนี้นะครับเสี่ย”
“อืม”
เขาจุดบุหรี่สูบ แล้วถอนใจก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณงานปาร์ตี้ฟูลมูน งานที่จัดริมหาดหน้าโรงแรมดังแห่งหนึ่ง แน่นอนว่างานแบบนี้ เป็นงานที่มีชื่อเสียงในด้านสีเทา แถมโด่งดังเสียด้วย โด่งดังไประดับประเทศเลยก็ว่าได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกาะพะงันมีรายได้จากงานปาร์ตี้ฟูลมูนมากมายจากนักท่องเที่ยวที่แห่กันมาเยือนงานที่จัดแบบนี้ อาจจะมากกว่าทริปดำน้ำที่เป็นพระเอกของเกาะอีกด้วยซ้ำ
หลานของเขาอารักษ์อยู่ในวัยกำลังห้าวนัดแนะกับเพื่อนหนีมาเที่ยวงานปาร์ตี้ฟูลมูน หนีออกจากบ้านมาด้วยสิ เอารถยนต์คันโปรดของเขามาเสียด้วย พร้อมกับเพื่อนกลุ่มเพื่อนซี้ที่เขาสั่งห้ามคบกันแล้ว แต่ไอ้หลานตัวแสบก็ยังจะดื้อด้าน
ยุทธาอัดควันบุหรี่เข้าปอดลึกๆ แล้วพ่นมันออกมา ตาคมกริบของเขามองกวาดไปทั่วบริเวณ สาวๆ บางคนกำลังมองจ้องเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม เขาไม่ได้มองตอบพวกหล่อน ไม่ได้สนใจ เพราะวันนี้เขามาตามคน ไม่ได้มาสนุกอะไร
ใบหน้าคมแบบชายไทยแท้ เรือนหยักศกยาวเล็กน้อยมัดไว้ง่ายๆ เพื่อไม่ให้ตกลงมาปรกหน้า ยิ่งทำให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาค่อนข้างกร้าวกระด้างนั่นชัดเจน เขาดูดุดัน เพราะสายตาคมกริบนั่น และด้วยสีหน้าบึ้งตึงนั่นอีก เขามีร่างสูงล่ำสัน ผิวเข้ม ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำแขนสั้นไม่กลัดกระดุม เปิดแผงอกกว้างให้เห็นรำไร เห็นรอยสักขนาดเท่าฝ่ามือบริเวณหน้าอกด้านซ้ายเป็นรูปหน้าเสือ ลายสักนั้นละเมียดละเอียดราวกับภาพสามมิติ กางเกงห้าส่วนสีเขียวขี้ม้า รองเท้าคีบแตะเพราะต้องมาเดินย่ำทราย เขาจำต้องเช็คอินและจ่ายค่าเข้างานเพราะไม่อย่างนั้นก็เข้ามาไม่ได้ มือเลยถือกระป๋องเหล้าปั่นที่ได้เป็นของแถมจากการเช็คอิน ถือไว้เฉยๆ นั่นแหละ ไม่ได้คิดจะดื่มสักนิด ตามองไปรอบๆ หาหลานชาย พ่อเจ้าประคุณล่าสุดย้อมผมสีม่วงฉะนั้นยังไงก็มองเห็นได้ง่าย ถ้าเจอจะลากคอกลับ แล้วกลับไปคงจะต้องกักบริเวณกันเสียหน่อย ข้อหาที่มาเที่ยวไกลขนาดนี้
เสียงเพลงตึงๆ เสียงคนร้องเพลงบ้าง เฮฮาสนุกสนาน มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าจะนึกสนุกเฮฮาตามไปด้วย
มันอยู่ไหนกันนะ ไอ้หลานบ้า!
“เฮ้ กาย”
สาวฝรั่งผมทองนางหนึ่งกรายมาหาเขา แม้หนุ่มคนนี้จะหน้าดุมาก เหมือนจะมาหาเรื่องใครมากกว่ามาปาร์ตี้ แต่ความหล่อคมเข้มนั้นกระชากใจเธอเหลือเกิน ให้กล้าเดินมากระทบไหล่ แล้วทักทาย
“ไปป้ายหน้าเลย โน่น! มาหาคนไม่ได้มาหาเมีย”
เขาตอบแหม่มสาวนางนั้นไปแบบดุๆ เล่นเอาทางนั้นกะพริบตาปริบๆ แล้วเชิดหน้าสะบัดใส่เขาไปอย่างเสียงฟอร์ม
ยุทธาพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ขณะที่เดินเบียดเสียดกับผู้คนที่เริ่มมามากขึ้น เพราะเวลาเริ่มดึก เขายังหาอารักษ์ไม่เจอ...
...........................................................................................................................................................
“ง่วงแล้วอ่า...”
กิ่งพะยอมบ่น สุนิษาที่ตึงไปแล้วนิดๆ เพราะฤทธิ์เหล้าปั่น หัวเราะคิกคัก แล้วเอามือจิ้มหน้าผากเพื่อนแรงๆ จนเธอหน้าหงาย
“ง่วงอะไรยัยกิ่ง เพลงก็ดัง เต้นก็มันอะ แกง่วงอาร้ายย”
“ไหนบอกว่าจะมาหาผู้ชายแข่งกับยัยแตงโม แล้วไหงพากันเต้นแบบนี้ ยัยแตงโมไปไหนแล้วนั่น เอ๊า นั่นไปกอดคอกับใครน่ะ”
กิ่งพะยอมป้องมือมองหาเพื่อนกลางฝูงคน แล้วก็อุทานเมื่อเห็นอภิญาดากำลังกอดคอกับสาวประเภทสองชาวต่างชาติคนหนึ่ง ร้องเพลงกันไปเต้นกันไป สาวประเภทสองคนนั้นทั้งหอมทั้งฟัดเพื่อนเธออย่างมันเขี้ยว แก้มของอภิญาดาเต็มไปด้วยลิปสติกแดงแจ๋ เพื่อนของเธอก็ไม่น้อยหน้าจูบตอบทางนั้นเต็มหน้าเหมือนกัน แถมลิปตัวเองสีไม่แดงสะใจพอ ยืมลิปของสาวคนนั้นมาทา ปากแดงเด่นแบบเลอะๆ เห็นแต่ไกลล่ะตอนนี้ กำลังไล่จุ๊บๆ เพื่อนๆ ของสาวคนนั้นอีกอย่างเมามัน
“ยัยซันแกดูๆ ดูยัยแตงโม ไปไล่จูบสาวอะ ไหนมันบอกว่าจะมาหาผู้ชาย แล้วไหงเปลี่ยนประเด็น”
“ฮี่ๆ แบบนี้เพื่อนชนะชัวร์”
ว่าแล้วก็หรี่ตา มองหาเหยื่อ จะว่าไปเมากึ่มๆ แบบนี้ ความกล้าก็ชักจะมา ไอ้ที่พนันกันไว้กับเพื่อนก็ดูท่าว่าจะชนะวุ้ย อารมณ์บางอย่างทำให้เธอเดินเซ...ไปหาเป้าหมาย ไม่ฟังว่ากิ่งพะยอมจะห้ามปราม
“ยัยซัน ยัยซัน จะไปไหน”
“ไปหาผู้ แกถ่ายช็อตแห่งชัยชนะไว้ให้ยัยแตงโมดูด้วย”
โบกมือให้เพื่อนหย็อยๆ เสร็จแล้วก็เดินเซนิดๆ ตรงไปหาผู้ชายต่างชาติคนหนึ่ง ที่กำลังมองเพื่อนหล่อนอยู่ด้วยสายตายิ้มๆ พลางขยิบตาให้ มองแล้วก็กะพริบตาปริบๆ ลังเลใจว่าควรจะไปห้าม หรืออะไรยังไงดีนะ...
แต่สองเพื่อนซี้ย้ำนักย้ำหนาว่าคืนนี้ ยังไงก็จะต้องได้!
“โอ๊ย...มันจะอันตรายไหมนั่น”
กิ่งพะยอมเม้มปาก มองจ้องไปทางสุนิษาเขม็ง ห่วงก็ห่วงเพื่อน กลัวเพื่อนด่าก็กลัว ได้แต่ยืนเบิกตาโตอยู่แบบนั้น
ก่อนสุนิษาจะถึงตัวผู้ชายฝรั่งหุ่นล่ำ ที่กำลังมองจ้องเพื่อนหล่อนเหมือนจะกิน ร่างอวบอิ่มแสนเซ็กซี่นั่นก็ถูกคว้าตัวไว้ก่อนที่จะถึงชายคนนั้น
ผู้ชายคนนั้นก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างกับสุนิษา ที่มองเขาอย่างตกใจ
พลางก้มลงจูบเธอ...อย่างดูดดื่ม
“อุ๊ย”
กิ่งพะยอมเอามือปิดตา ร้องอุทานอย่างเขินๆ กับฉากรักของเพื่อนที่เห็น แต่แล้วก็เอามือออก เขม้นมองว่าเพื่อนของเธอมีท่าทีไม่ชอบใจอะไรหนุ่มคนที่ดึงเพื่อนเธอไปในอ้อมแขนไหม แต่สุนิษาก็ไม่ยักจะผลักหรืออะไรนี่นา แถมยัง...จูบกันอีกรอบแล้ว
ยัยซันท่าทางจะชนะเลิศแล้วจริงๆ แหะงานนี้
แล้วก็หันมองหาเพื่อนอีกคน...ซึ่งหายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว กิ่งพะยอมเลยตกใจ แล้วเดินลิ่วตรงไปยังกลุ่มก๊วนของสาวๆ ที่เธอเห็นเพื่อนกำลังเฮๆ ด้วยเมื่อครู่ หนึ่งในนั้นชี้มือไปทางหาดทรายที่เห็นไกลๆ มันเป็นตรงบริเวณที่มีต้นมะพร้าวขึ้นเป็นดง และป้ายบอกว่าพื้นที่ของปาร์ตี้สิ้นสุดตรงนั้น
“ไปทางนั้นล่ะ ฮี่ๆๆ เห็นบอกว่าจะไปเล่นน้ำ”
คนพูด พูดไปขำไป ท่าทางอารมณ์ดีเกินคนเมาปรกติ
“ขอบคุณค่ะ”
“สักนิ้ดไหมล่ะ ปุ้นๆๆ”
เจ้าหล่อนว่าแล้วยื่นบุหรี่ส่งให้กับกิ่งพะยอมที่รีบสั่นหน้าดิก ทางนั้นหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นเธอปฏิเสธ แต่ไม่ยักกะปล่อยเธอดีๆ จับเธอคว้าไปทำท่าจะปล้ำให้เธอลองไอ้เจ้าบุหรี่กลิ่นแปลกๆ นั่นจนได้ จนเธอต้องร้องโวยวาย ดิ้นรนจริงจังทางนั้นถึงยอมปล่อย แล้วยักไหล่ใส่เธอ
“โอ๊ย โวยวายไปได้ ของดีๆ แท้ๆ ไม่เอาก็ไม่เปลือง เพื่อนหล่อนอะ ยังสูบไปตั้งสองตัวแนะ”
“ตายๆๆ ยัยแตงโม เมาทั้งเหล้า เมาทั้ง...อะไรล่ะนั่น” กิ่งพะยอมรีบเดินแหวกคน ลิ่วไปทางที่สาวคนนั้นชี้มือทันที
“เฮลโหลลลล มีอีกม้ายยย มีอีกม้ายยย มีอีกม้ายยย”
เสียงหัวเราะคิกคักของสหายร่วมเมาของหล่อนดังขึ้น ทำให้สาวคนนั้นหันไปทางต้นเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ก็เอามือปิดปาก แล้วหัวเราะคิกคัก ไอ้ที่หัวเราะนั่นเพราะคุมตัวเองไม่ได้ เนื่องจากเมาบุหรี่ยัดไส้กัญชาแกล้มกับเมาเหล้านั่นล่ะ
“อ้าว คิกๆๆ อยู่นี่เองเหรอ ฉันก็นึกว่าเธอไปทางโน้นอะ เห็นบอกว่า คิกๆๆ ผู้ชายหล่อดี”
“ไม่ได้ไป คิกๆๆ ทางนี้บันเทิงกว่าผู้ชายเย้ออ”
“มะ งั้นก็มามะ กรี๊ด! เพลงโปรดฉันขึ้นพอดีเลย มาแด๊นซ์กัน”
“เย้!”
อภิญาดาที่ไม่รู้ว่าเพื่อนซี้กำลังเดินหน้าซีดไปตามหาเธอ กอดคอกับเพื่อนร่วมเมา หัวเราะแล้วร้องเพลงพลางเต้นไปอย่างสนุกสนาน