บทที่1│อุ่นกายในคืนหนาวใจ (6) NC
ยอดอกถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ตามมาด้วยเสียงแหบพร่าของคนตัวใหญ่ “แฉะแล้ว”
อาภาสินีเบือนหน้าหนีสายตาที่พาใจรุ่มร้อนของฝ่ายชาย
“ขอได้ไหม”
สาวเจ้าหันหน้ากลับมาสบตากับผู้พูด “อื้อ”
มุมปากหยักยกขึ้นเล็กน้อย “พูดแล้วนะ” เธอเพียงแต่พยักหน้ากลับไป เขาจึงสำทับมาอีกประโยคซึ่งเป็นเหมือนการย้ำข้อตกลงกลายๆ “แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกันและนี่มันก็แค่เหตุสุดวิสัย ผมไม่รู้ว่าคุณทำแบบนี้เพื่ออะไรแต่ในเมื่อคุณอยากได้ผม ผมก็อยากให้ลูกชายสงบ เราได้ประโยชน์กันทั้งคู่ แต่ผ่านคืนนี้ไปผมกับคุณก็ยังเป็นคนอื่นต่อกัน ไม่เป็นอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ”
คิ้วเข้มถูกเลิกขึ้นสูง
“ไง ดีลไหม”
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่จนอกอวบกระเพื่อมตามแรง
กล่าวอย่างไม่คิดหลบสายตา “ดีล”
สิ้นคำตอบตกลงของหญิงสาวใต้ร่าง เลปกรก็ผละตัวออกไปเสียดื้อๆ
ไม่รอให้ต้องถาม เจ้าตัวก็โพล่งขึ้น “ถุงยางอยู่ในรถ เดี๋ยวมา”
ครู่สั้นๆ เขาก็กลับมาพร้อมอุปกรณ์ป้องกันที่อยู่ในมือ หญิงสาวเพียงแต่เหลือบตามองแล้วผินหน้ากลับมาทางเดิมอย่างไม่แยแสนัก แต่ก็มิวายค่อนขอดไปในที
“ถึงกับต้องพกติดรถ วันๆ คงคิดอยู่เรื่องเดียว”
ได้ยินเช่นนั้นก็อดจะแค่นหัวเราะไม่ได้ “ก็เอาใจยากเกินแม่คุณ ไม่เป็นงานก็ดูถูก พอดูเหมือนผมโชกโชนก็ว่า คุณต้องการผู้ชายแบบไหนกันแน่”
“แบบที่ไม่ใช่ผู้หมวด”
เขาไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ “ก็ไม่ชอบผู้หญิงแบบคุณเหมือนกัน แต่สงสารหรอกนะ เห็นว่าของขาดจะสนองให้แล้วกัน” แล้วชายหนุ่มก็สลัดอาภรณ์ออกจากกายจนเปลือยเปล่า
สาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อนก็หลับตาปี๋ทันที ทั้งยังคว้าหมอนมาถือแล้วปาเขาอย่างจัง
แต่เลปกรหลบได้
“ตาบ้า! จะถอดผ้าทำไมไม่ปิดไฟให้ดี”
“ปิดทำไม ปิดแล้วจะเห็นอะไรล่ะ ผมฟิตหุ่นมาเพื่อการนี้เลยด้วยซ้ำ” สิ้นคำขายาวก็ก้าวเดินไปยังเตียงนอน ก่อนคร่อมร่างระหงไว้ ทอดมองสาวน้อยที่นอนหลับตาทั้งยังเบือนหน้าไปอีกทางอย่างนึกขบขัน
ปอดแหกขนาดนี้แล้วอะไรมันดลใจให้กล้าอ่อยเขากันนะ
“จะหลับตาก็ไม่ว่าหรอกนะ รู้อยู่ว่าถ้าเห็นหุ่นผมชัดๆ แล้วคุณอาจจะหลงหัวปักหัวปำ เดี๋ยวก็อยากนอนกับผมอีก เอาเถอะ ตัดไฟแต่ต้นลมก็ดี”
เปลือกตาถูกเปิดขึ้นทันควัน พร้อมกับที่เจ้าตัวตวัดตามองร่างสูงที่คร่อมตนเองไว้ด้านบนอย่างไม่ค่อยเป็นมิตร
“ฝัน”
“เดี๋ยวก็รู้ว่าฝันไม่ฝัน แต่บอกไว้ก่อนว่าผมไม่รับผิดชอบความโลภของคุณหรอกนะ” เขาแกล้งยื่นมือไปเชยคางมนอย่างหยอกล้อ “ถ้าติดใจผขึ้นมาคุณน่าจะลำบากแล้วล่ะคุณครูพี่เอื้อ”
เธอระบายยิ้ม “ประโยคแบบนี้ถ้าหลับตาฟังคงนึกว่าดาราที่ไหนมาพูด ก็คนที่พูดได้มันต้องหล่อจนหมายังเหลียวไม่ใช่เหรอ ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะออกจากปากผู้หมวด เอื้อแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย”
“ปากดีนักนะ”
เลปกรเลิกสนใจคนแสนรั้น ลากสายตามายังกลางกายสาว ถกกระโปรงตัวจิ๋วไปกองไว้ที่เอวคอดพลางเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในแล้วดึงลงให้พ้นทาง
ฝ่ามือบางถูกยกมาปิดใบหน้าซับสีของตน
เธอจะไม่ขอรับรู้อะไรทั้งนั้น!
ปลายนิ้วยาวไล้ไปมาตามร่องฉ่ำน้ำ เรียกเสียงครางอื้ออึงในลำคอระหงได้เป็นอย่างดีแม้ว่าเจ้าตัวจะเม้มปากเพื่อสะกดกลั้นมันไว้ก็ตาม ฝ่ามือข้างหนึ่งถูกปล่อยออกจากใบหน้าเพื่อเอื้อมไปคว้าผ้าปูเตียง ออกแรงกำไว้แน่นจนมันยับยู่ยี่
ข้าราชการหนุ่มมองภาพนั้นด้วยความพึงพอใจ ก่อนเพิ่มความรัญจวนด้วยการพยายามแทรกนิ้วกลางเข้าไปในถ้ำสวาทที่แฉะได้ที่
อาภาสินีไม่คิดจะปิดบังใบหน้าของตน เธอใช้มือทั้งสองจิกไปที่ผ้าปูเตียงหวังระบายความกระสันที่ชายหนุ่มบรรจงหยิบยื่นให้
นิ้วยาวค่อยๆ ชำแรกผ่านความคับแน่นอย่างเชื่องช้า ใบหน้าหวานส่ายไปมาพัลวัน หน้าท้องหดเกร็ง
“ไม่...ไม่เอา ออกไป”
“อย่าเกร็ง”
เจ้าของร่างกำยำไม่คิดหยุดมือ เขามาไกลเกินกว่าจะถอยหลัง จึงส่งนิ้วเข้าไปจนสุดความยาวของมัน ภายในกายของติวเตอร์สาวรัดแน่นจนเขารู้สึกเจ็บไปด้วย
เลปกรเอ่ยเสียงดุ “คุณเอื้อ ผมบอกว่าอย่าเกร็งไง”
“มันเจ็บ!”
“มันเจ็บเพราะคุณเกร็ง” ก่อนปรับเสียงให้นุ่มนวลกว่าเมื่อครู่ “ผ่อนคลายหน่อยเด็กดี มันมีอะไรน่ากลัวตรงไหนกัน น่าสนุกจะตาย”
สาวเจ้าคลายมือที่กำผ้าปูเตียงออก สูดลมหายใจเข้าสุดออกสุดเพื่อทำความคุ้นเคยกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาภายในร่างกาย มันคับแน่นและอึดอัดจนน้ำตาคลอเบ้า แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างแทรกขึ้นมาดึงดูดความสนใจไปเสียดื้อๆ
“อย่าขมิบ”
ดวงหน้างามซับสีด้วยความเขินอาย “มันแปลกๆ”
“ยังไงครับ”
เจ้าหล่อนยังคงอธิบายด้วยคำสั้นๆ “มันแปลก”
“แล้วชอบไหม”
อาภาสินีตอบคำถามด้วยการพยักหน้าอย่างไม่คิดปิดบัง เพราะมันเป็นความแปลกใหม่ที่ทั้งอึดอัดจวนจะบ้า ทว่ากลับสุขสมอย่างไม่น่าเชื่อ
“ขอขยับนะ” ไม่รอให้ได้รับอนุญาต นิ้วแกร่งก็ผลุบเข้าผลุบออกจนหญิงสาวดิ้นพล่าน ไหนเล่าเขายังลักไก่ด้วยการใส่เพิ่มเข้าไปอีกนิ้วเพื่อเป็นการเปิดทาง ทำให้อาภาสินีอยู่ไม่สุขเนื่องจากอึดอัดภายในกาย แต่เขาเลือกที่จะเดินหน้าแล้วส่งเธอขึ้นสวรรค์ด้วยสองนิ้ว
นิ้วยาวที่ถูกอาบด้วยน้ำรักถูกดึงออกจากช่องทางสีหวาน ก่อนชูขึ้นตรงหน้า ทั้งยังขยับนิ้วออกจากกันจนน้ำเหนียวๆ ยืดตัว
คนตัวเล็กที่ไม่เคยเจอภาพความลามกแบบนั้นก็ตั้งรับไม่ถูก
ยิ่งได้รับคำถามของเขาก็ยิ่งเตลิด “อยากรู้ไหมว่ามันอร่อยหรือเปล่า”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ใบหน้านวลส่ายไปมาจนผมเผ้ายุ่งไม่เป็นทรง
แต่แล้วนิ้วที่ถูกชโลมไปด้วยน้ำรักสีใสก็ถูกส่งเข้าปากหนา เขาดูดนิ้วของตนเองทั้งยังไล้เลียอย่างกับกำลังทานไอศกรีม
“น้ำของพวกปากดีมันก็รสชาติดีสมกับปากเหมือนกันแฮะ”
หญิงสาวเสียศูนย์อย่างหนัก เลือดในกายสูบฉีดผิดจังหวะ ใบหน้าร้อนผ่าวจนเกรงว่าตัวเองจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ตำรวจหนุ่มใช้มือชักรูดแก่นกายเพื่อเตรียมตัวลงสนามรบ จนแข็งได้ที่ถึงจะสวมถุงยางไปบนความเป็นชายของตน แล้วพาไปจ่อยังปากทางสีสวยที่มีน้ำหวานทะลักออกมาจนก่อเกิดความชุ่มชื้นไปทั่วบริเวณกลีบผกา
ปลายหัวตุ่นค่อยๆ แทรกเข้ามาในความคับแคบของหญิงสาว ซึ่งเจ้าโลกมีขนาดต่างจากนิ้วลิบลับ แม้ว่าจะใช้นิ้วถึงสอง แต่ก็ไม่เทียบกับส่วนหัวที่ถูกส่งเข้ามา อาภาสินีเผลอหวีดร้องเสียงหลง แต่เลปกรก็รับมือได้ทัน เขาโน้มตัวลงไปหาสาวเจ้าพร้อมใช้ปากประกบไปที่ความอ่อนนุ่ม ตะโบมจูบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนใต้ร่าง ทั้งยังฟอนเฟ้นทรวงงามอย่างเต็มรัก
ขณะเดียวกันนั้นก็กระแทกตัวตนไปทีเดียวจนสุดปลายโคน
เจ้าหล่อนผวาเฮือกพลางกอดรัดรอบลำตัวหนาของชายหนุ่ม มือบางเกร็งจนเส้นเลือดปูดโปน ซ้ำยังใช้เล็บจิกไปที่แผ่นหลังกว้างจนผู้หมวดได้เลือด
“เด็กดี ผ่อนคลายเข้าไว้”
แต่ครั้งนี้มันไม่ได้ผล เมื่ออาภาสินีหลั่งน้ำตาออกมาจนได้
สาวเจ้าเอ่ยเสียงอ่อย “เอื้อเจ็บ”
“ไม่ต้องเกร็ง ถ้าไม่เกร็งก็ไม่เจ็บ” ระหว่างพูดก็บีบเคล้นอกอวบไปด้วย “เชื่อผมนะ ไม่มีอะไรน่ากลัว”
คนตัวเล็กยอมโอนอ่อน
ท่อนเอ็นถูกกดแช่ไว้อย่างนั้นนานนับนาทีเพื่อสร้างความคุ้นชินให้กับร่างแน่งน้อย ที่พอเวลาผ่านไป ทั้งเขายังช่วยจุดไฟสวาทด้วยการฟอนเฟ้นเต้าขาวผ่อง ทั้งจูบทั้งไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น ทำให้อาภาสินีพยักหน้าให้เขาเมื่อมั่นใจว่าตนเองสามารถรับมือกับความกระสันที่จะเกิดขึ้นได้
“แต่อย่าแรงนัก มันแน่น”
“ผมรู้” เขาดึงตัวตนออกจนเกือบหลุดไปจากกลีบสีสวย แล้วกระแทกกลับมาทีเดียวจนเธอจุกเสียดไปทั้งท้องน้อย “คุณมันโคตรแน่น”
เธอระบายความเจ็บด้วยการใช้เล็บจิกไปที่เนื้อตัวของเลปกร
ชายหนุ่มกล่าวเสียงกระเส่า “ตอดโคตรดี”
“บอกว่าอย่าแรง”
เลปกรตอนนี้ไม่คิดจะสนใจอะไรแล้ว ยิ่งเธอห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เขากระหน่ำการกดสะโพกสอบเข้าหาช่องทางรักอย่างไม่คิดยั้งตัวเอง ทั้งยังหมุนควงเอวจนอาภาสินีตาค้าง
“ตรงนั้น อ๊ะ! หมวด ตรงนั้น”
ชายหนุ่มที่รู้ว่าจุดอ่อนไหวของเธออยู่ตรงไหนก็ไม่รอช้าที่จะสร้างความหฤหรรษ์ไม่รู้ลืมให้คนไร้ประสบการณ์ กระแทกกระทั้นย้ำยังจุดที่ไวต่อความรู้สึกจนคนเก่งครางไม่เป็นภาษา ตาเธอลอยอย่างกับคนเมา เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งได้ใจ ส่งตัวตนไปขยี้ความสาวอย่างไม่ออมมือ
พอใกล้ถึงจุดสูงยอดฝ่ามือหนาก็คว้าเข้าที่เอวคอดกิ่ว ออกแรงยกจนหญิงสาวตัวลอย โดยที่ตัวเองก็ยันตัวขึ้นสูงแล้วส่งตัวตนเข้าไปในแอ่งสวาทในจังหวะกระชั้นจนสาวน้อยหัวสั่นหัวคลอน
ช่องทางคับแคบตอดรัดถี่รัวพร้อมกับที่เขากระตุกเกร็งจนหัวสมองขาวโพลน ยิ่งเธอขมิบถี่ก็ยิ่งเกร็งจนรู้สึกทรมาน จึงระบายด้วยการจับกระแทกอีกสองสามทีเพื่อรีดน้ำรักขาวขุ่นให้พ่นออกมาให้หมด
เขากดตัวตนแช่ไว้อย่างนั้น มองดูร่างระหงที่หลังไม่ติดพื้นเตียงกระตุกถี่ เธอยังคงขมิบตอดแท่งรักอย่างไม่หยุดหย่อนอย่างกับเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปสำรวจอีกครั้งอย่างนั้นแล
เลปกรดึงตัวตนออกมาจากปากทางรักก่อนประคองเธอให้นอนลงบนเตียง น้ำสีใสไหลออกมาตามง่ามขา เขาจึงอาสาก้มหน้าลงไปทำความสะอาดให้ทุกซอกทุกมุม ไล้เลียไปทั่วทุกจุดทั้งที่เปื้อนและไม่เปื้อน ลิ้นร้อนถูกแหย่เข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มแล้วกวาดน้ำหวานเข้าปากจนหมด
“คุณเอื้อ”
เธอปรือตามอง
“อีกยกได้ปะ ถุงยางยังเหลือ”
• ────── ✾ ────── •