บทที่1│อุ่นกายในคืนหนาวใจ (2)
“เอื้อก็ไม่ได้อยากเป็นแค่น้อง”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ทั้งโมโห ทั้งสับสน
นี่มันหายนะชัดๆ เลยไม่ใช่หรือ
ผู้หมวดทำทีเป็นใจเย็น “คุณอาจจะพูดเพราะเมา ผมจะไม่ถือสาแล้วกัน”
แม้จะมีเรื่องที่สงสัยอยู่มากแต่เขาไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับเธออีกแล้ว หากให้เดาการที่เจ้าหล่อนมาไกลถึงนี่อาจจะเพราะมีปัญหาบางอย่างที่ไม่อยากบอกให้คนในครอบครัวรับรู้ แต่แล้วทำไมถึงเป็นเขาที่ได้รู้ ไม่อยากจะเกี่ยวอะไรในสมการนี้ของแม่ติวเตอร์นี่เลยสักนิด
ในมุมมองคนนอกอย่างเขาที่เห็นเธอผ่านตาบ้างก็ตีความไปว่าชีวิตติวเตอร์สาวไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้น่าปวดหัว หลังการมีพี่เขยอย่างปราชญาธิปที่รวยล้นฟ้าปานนั้น เรียนจบก็มีงานรองรับ รถเอย บ้านเอย ก็มีเป็นของตัวเองใช่ต้องผ่อนหรือเช่า งานการก็ดูจะไปได้ดี ดูจากที่เห็นว่ามีเด็กๆ ตบเท้าเข้าไปเรียนในโรงเรียนกวดวิชาของเจ้าตัวไม่ขาดสาย
อะไรกันที่ทำให้คนคนนี้ต้องมาดื่มย้อมใจ
หรืออกหัก?
แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ไม่เห็นว่าเขาจะเกี่ยวข้องตรงไหน
คิดได้เท่านั้นก็รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่างเมื่อร่างบอบบางค่อยๆ โน้มตัวมายังเบาะคนขับ กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนเขาตอนกลั้นลมหายใจ
หาใช่เพราะไม่ถูกโรคกับกลิ่นแอลกอฮอล์ แต่เพราะระยะห่างระหว่างคนทั้งคู่ต่างหากที่ทำเขาแทบหยุดหายใจ เลือดลมไหลเวียนไม่เป็นปกติ
“คุณเอื้อ ถอยออกไปหน่อยครับ”
เธอกลับเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา “เฮียใบ”
“อะ...อะไรครับ แต่ถอยออกไปก่อนได้ไหม” ไม่ว่าเปล่ายังพยายามยื่นมือออกไปดันหัวทุยให้ออกห่างตัว ซึ่งเขาไม่ค่อยกล้าใช้แรงที่เยอะเกินจำเป็น
อาภาสินีเป็นจอมยุ่งยาก ถ้าทำอะไรให้แม่เจ้าประคุณไม่พอใจเข้าเกรงว่าจะถูกเล่นงานเหมือนเมื่อสี่ปีที่แล้ว ถึงได้พยายามเลี่ยงที่จะใกล้ชิดมาตลอด ทั้งที่ปกติเขาเป็นมิตรและเข้ากับคนอื่นได้ดียิ่งกว่าไซบีเรียน ฮัสกีด้วยซ้ำ แต่อาภาสินีคือมนุษย์คนเดียวที่ผู้หมวดหนุ่มไม่ค่อยอยากเข้าใกล้
อาจจะนิยามได้ว่า...ขยาด
“มีแฟนยังคะ”
เขานิ่งงัน
“แต่พี่ก้านบอกแล้วว่าเฮียโสด”
เลปกรตั้งหลักได้หลังจากนั้นเป็นนาที สุ้มเสียงเข้มดังออกจากปากหยัก “โสดไม่โสดก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนะ”
“เกี่ยวสิ”
“ไม่”
“เฮียใบคะ” อาภาสินีโน้มใบหน้ามาอีกครั้ง “คบกันได้ไหม”
ครั้งนี้เขาผลักหัวของสาวเจ้าแรงกว่าครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้แรงพอจะสร้างความเจ็บปวด ก็แค่ต้องการให้เธอถอยห่างออกไปเท่านั้นเอง เขาทั้งต้องขับรถ ทั้งยังต้องรับมือกับพฤติกรรมแปลกๆ ของผู้โดยสารร่วมทาง การที่เธอเที่ยวมาวอแวใกล้ๆ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
“ผมคิดไว้แล้วเชียวว่าคุณมันไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้หรอกนะว่าไปโดนใครหักอกจนต้องหาคนมาดามใจ แต่อย่าเข้าหาผมเลยครับ เห็นอย่างนี้ผมก็เลือก”
“เอื้อมีตรงไหนไม่ดี”
เขาพูดกับตัวเองให้ได้ยินแค่คนเดียว “เยอะอยู่”
“คะ?”
“เอาเป็นว่าอย่ามายุ่งกับผมเลย ตัดใจจากผมซะเถอะ ตอนนี้ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
เธอครางรับในลำคอสั้นๆ ว่า “อ้อ” แล้วเงียบไปพักใหญ่ จนเขาตายใจว่าอาจจะเข้าใจว่าอ่อยอย่างไรก็ไม่มีทางสำเร็จ แต่แล้วเจ้าหล่อนก็เปิดปากพูดอีกครั้ง “เขากับเอื้อใครดีกว่ากัน”
“เขา”
เลปกรตอบได้อย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยสักวินาทีเดียว
“จริงเหรอ”
“คุณเมาจริงไหม ทำไมดูคุยคล่องผิดวิสัยคนเมาขนาดนี้”
อาภาสินีไม่ตอบ แต่ยิงคำถามกลับมา “เอื้อเรียนจบแล้ว มีงานทำ บ้านไม่มีหนี้ ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอนกับใคร ถ้าเฮียใบเลือกเอื้อก็จะได้เป็นคนแรกของเอื้อด้วย ไม่ชอบเหรอพวกสาวยังซิงน่ะ”
เขาอึ้งไปทันที ก่อนจะเรียกสติตัวเองได้ก็เผลอสบถออกไปอย่างไม่ทันยั้งปาก ก่อนว่า “คุณบ้าหรือเปล่าเนี่ย ใครเขาจะนอนกับคุณ แล้วเป็นสาวเป็นแส้มาพูดจาแบบนี้ได้ไง น่าเกลียดมาก”
“เอื้อไม่ดีพอให้เฮียชอบหรือไง”
หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนแทบผูกเป็นโบ ถ้าย้อนเวลาได้เขาจะไม่ออกมาหาเธอเลย ทำไมตอนนั้นถึงไม่ฉุกคิดแล้วเลือกติดต่อไปบอกปราชญาธิปและอัสมาให้ไปรับน้องสาวของตัวเองกันนะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมาทนฟังคำพูดแสลงหูอย่างตอนนี้
ขนเขาลุกแทบจะทุกเส้นอยู่แล้ว
ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้นก็จับความเปลี่ยนแปลงด้านนอกได้ เมื่อกระจกหน้ารถมีหยดน้ำกระทบลงมา เขารีบเปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝน แต่ให้หลังไม่ถึงห้านาทีมันก็ตกหนักจนบดบังทัศนียภาพจนมองทางแทบไม่เห็น แม้ว่าจะใช้ที่ปัดน้ำฝนช่วยแต่ก็เหมือนไม่ช่วยอะไร ไหนยังมีคนคอยก่อกวนอยู่ข้างๆ จนทำให้ไม่มีสมาธิอีก
อาภาสินีผีเข้าแน่นอนถึงได้เอาแต่ลูบไล้หน้าท้องเขาไม่ยอมหยุด
ก็รู้ว่าหุ่นดี แต่ไม่อยากให้คนพรรค์นี้มาคลั่งไคล้สักหน่อย
ตำรวจหนุ่มจำได้ว่าเมื่อเช้าที่นั่งทานข้าวกับที่บ้านนั้นมีรายงานเรื่องสภาพอากาศ กรมอุตุฯ แจ้งว่าช่วงนี้อาจมีพายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงจังหวัดนครนายกด้วย
“คุณเอื้อเอามือออกไปก่อนได้ไหม คุณกำลังคุกคามผมอยู่นะ”
“เฮียใบ”
“บอกว่าอย่ามาเรียกแบบนั้นไง”
“คบกันไหม”
เขาแทบลืมหายใจ เธอทำทั้งหมดนี่เพราะอยากเป็นแฟนเขาหรือ ที่ผ่านมาที่เห็นว่านิ่งๆ นั่นเพราะเขินกันหรืออย่างไร นิ่งเพื่อกลบเกลื่อนความในใจน่ะนะ
แล้วเขาก็ใช่ว่าจะไม่ดูดี แต่ดันไปต้องตาคนแปลกๆ พรรค์นี้ได้ สุดยอดความซวย
บางทีความหล่อมันก็เป็นพิษกับชีวิตเหมือนกัน แล้วเขาควรดีใจหรือรู้สึกเช่นไรที่อาภาสินีแอบชอบทั้งยังมาขอคบ
แต่เขาไม่ค่อยชอบเธอน่ะสิ...แย่เลย แม่นี้คงถึงคราวอกหักซ้ำสองเสียแล้วกระมัง
“ขอปฏิเสธ ผมบอกแล้วว่าเห็นอย่างนี้ผมก็เลือก”
“นะ คบกันเถอะ”
“โทษนะ แต่หน้าผมเหมือนคนที่ชอบคุณตรงไหนครับ”
• ────── ✾ ────── •