เทพสายลมสะท้านพิภพ ภาค 2 โอสถหมื่นทิพย์เทวาสวรรค์

62.0K · จบแล้ว
หลิ่งฟาง
58
บท
10.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะทำผิดกฎสวรรค์ ข้าจึงต้องทำคุณงามความดีชดใช้หนี้สวรรค์ หลังจากจัดการยกบัลลังก์ทองที่เหน็บหนาวให้กับพี่ชายดูแลไปแล้ว... ข้าจึงออกท่องยุทธภพ หวังจะสร้างคุณงามความดีเพื่อกลับคืนสู่สวรรค์อีกครั้ง แต่ชีวิตข้าไม่ง่ายดายเช่นนั้น ในทุกๆ วันข้าต้องวุ่นวายไปกับการกำจัดเหล่ามาร อีกทั้งยุทธภพก็กำลังปั่นป่วน เกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน และข้าผู้ที่สร้างสำนักใหม่ขึ้นมา จำต้องออกไปสร้างชื่อเสีย(ง)ให้กับสำนักวาโยเหมันต์ให้ยุทธภพได้รับรู้! เกิดเป็นหลิ่งเหวินนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ!

นิยายแฟนตาซีนิยายแฟนตาซีนิยายเทพเซียนนิยายจีนโบราณ

บทนำ สิ้นสุดคำสัญญา และการเริ่มต้นใหม่ (1)

บทนำ สิ้นสุดคำสัญญา และการเริ่มต้นใหม่ (1)

ณ ท้องนภามีหมู่เมฆน้อยใหญ่ อีกทั้งสัตว์เทพอีกหลายสายพันธุ์สยายปีกบินแข่งขันความงามกันถ้วนหน้า นกหงส์ฟ้า นกหงส์เพลิง ต่างเพลิดเพลินล่องลอยอย่างแสนสุข กระทั่งมีมังกรฟ้าลอยล่องผ่านมาทำให้สัตว์เหล่านั้นต่างหลบหลีกกันอย่างตื่นตระหนก

ถึงจะเป็นสัตว์เทพแต่ก็ยังต่ำต้อยกว่ามังกรฟ้าหลายขั้นนัก แม้จะหวาดกลัวแต่กลับพากันมองด้วยความสนใจ ข้ามิได้แปลกใจเพราะมังกรฟ้าในปัจจุบันเหลือน้อยเต็มที เพราะมิมีมังกรใดบำเพ็ญเพียรบรรลุมรรคผลได้ง่ายนัก หากไม่ตัดกิเลสในใจไม่ได้จริงๆ ก็ยังคงเป็นเพียงมังกรธรรมดา เฟยหลงบำเพ็ญเพียรมายาวนานหลังจากถูกลงทัณฑ์ อีกทั้งยังได้แช่น้ำศักดิ์สิทธิ์จึงนับว่าเป็นวาสนา

ตอนนี้ข้านั่งอยู่บนหลังมังกรฟ้าเฟยหลงตามคำมั่นสัญญาที่เคยไว้เมื่อในอดีตกาล แม้เวลาจะผันเปลี่ยนแต่คำมั่นสัญญายังคงอยู่ วันนี้ถือว่าได้สิ้นสุดแล้วแต่มิตรภาพระหว่างข้ากับเฟยหลงยังคงอยู่เฉกเช่นเดิม

ข้ามองดูหมู่เมฆด้วยความสงบ ตอนนี้ข้าได้จัดการทุกอย่างภายในวังหลวงเรียบร้อยและไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะเกิดศึกภายในไปอีกหลายสิบปี อดีตฮองเฮามารดาของท่านพี่อวิ้นอวี้ก็ถูกมารโลหิตสังหารและดูดกลืนวิญญาณไปจนหมดสิ้น

เหลือเพียงฮองไทเฮาหรือพระพันปีที่อายุมากจนเกินมาคิดเรื่องการปกครองภายในวังหลวง และหันหน้าเข้าสู่พระธรรมหลังจากสูญเสียเสด็จพ่อไป ส่วนวิญญาณของท่านพี่อวิ้นอวี้ข้าได้นำไปส่งที่ปรโลกด้วยตัวเอง คาดว่าอีกไม่นานคงได้ไปเกิดใหม่ แต่จะเกิดเป็นอะไรหรือสิ่งใดนั้นแล้วแต่บุญวาสนา

“ถึงแล้ว”

เสียงของเฟยหลงทำให้ข้ามองไปเบื้องหน้าซึ่งเป็นหุบเขาแห่งเซียนลอยล่องอยู่บนฟ้านับสิบลูก ข้าเหาะลงจากหลังมังกรฟ้าไปยังจุดหมายซึ่งมีเทพวิหคนั่งรออยู่พร้อมน้ำจัณฑ์หอมหมื่นลี้

“ข้าจำได้ว่ามีสัญญากับเทพหลิ่งเหวินมาดื่มน้ำจัณฑ์ที่หุบเขาแห่งเซียน แต่มิเห็นจำได้ว่ามีสัญญากับเจ้า ไยเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยเล่า”

เฟยหลงเอ่ยเย้าแหย่เทพวิหคอย่างหมั่นไส้เล็กน้อยพร้อมกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างชอบใจที่เห็นหลี่เฉียวฟงอารมณ์ขึ้นหันมามองตนตาขวาง

“ที่นี่มิได้ห้ามให้ข้าเข้ามา และที่สำคัญหากพวกท่านขาดข้าไป ข้ากลัวพวกท่านจะเหงามิน้อย” แม้คำพูดจะดูเหมือนห่วงใย ทว่าสายตากลับมองมังกรฟ้าอย่างขุ่นมัว

“พวกเจ้านี่เห็นหน้ากันทีไรทะเลาะกันทุกที ไม่เบื่อกันหรือไง”

ข้ากล่าวอย่างเบื่อหน่าย พร้อมนั่งลงบนม้านั่งหินสีขาวและรับสุราเลิศรสของสวรรค์ที่หาดื่มได้ยากจากมือหลี่เฉียวฟงมาดื่มอย่างไม่ค่อยสนใจกิริยาของทั้งสองคน

“หากไม่ใช่เพราะเฟยหลงมีหรือข้าจะได้เฝ้ารอรับใช้ท่านยาวนานถึงเพียงนี้”

หลี่เฉียวฟงตอบกลับอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะนึกได้ว่าไปกระตุ้นความทรงจำที่ไม่น่าจดจำของทั้งสองคนเข้า

“ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจว่าเจ้าหรอกนะ”

หลี่เฉียวฟงหันไปมองเฟยหลงที่เพิ่งรู้จักได้เมื่อไม่นานมานี้ด้วยน้ำเสียงลนลานเล็กน้อย ความจริงตนก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรเฟยหลงมากมายนัก มันก็แค่เห็นหน้าทีไรแล้วอดที่จะประชดประชันไม่ได้ ที่ทำให้ตนเสียเวลาไปอย่างไร้ประโยชน์และเวลาตนเองก็เหลือไม่มากนักจนน่าเจ็บใจ

“เรื่องอดีตมันผ่านมาแล้วอย่าได้เก็บไปใส่ใจ ตอนนี้ข้ากลับมาแล้วก็ขอให้เริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ”

ข้าหันไปบอกสหายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมยกจอกสุราขึ้นดื่มแด่มิตรภาพและการเริ่มต้นใหม่

“นั่นสินะ แด่การเริ่มต้นใหม่”

หลี่เฉียวฟงบอกพร้อมรอยยิ้มจริงใจครั้งแรกส่งให้เฟยหลง ซึ่งเจ้าตัวยังนั่งนิ่งเมื่อเห็นสายตาสองคู่มองมาจึงยกจอกสุราของตัวเองขึ้นแล้วตอบรับในลำคอเบา ๆ

“อืม”

แม้จะเป็นคำพูดสั้น ๆ ทว่ากลับทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาดีขึ้น และมิตรภาพที่งดงามในครานี้จะยังคงอยู่ไปอีกยาวนาน แม้ข้าจะไม่ค่อยได้ดื่มสุราบ่อยนักแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ข้าเมาได้ ข้าใช้เวลาหนึ่งวันกับหนึ่งคืนในการดื่มด่ำสุราเมรัยของสวรรค์ที่หาดื่มได้ยากในโลกมนุษย์ แต่ข้ากลับชอบดื่มชามากกว่า