บทนำ (ภาคปฐมบทแห่งการเริ่มต้น) (2)
บทนำ (ภาคปฐมบทแห่งการเริ่มต้น) (2)
แต่ขณะนั้นหลิ่งเหวินกลับจำได้ว่าเป็นสหาย จึงทำผิดกฎสวรรค์ปล่อยมังกรดำไป ทว่าความร้ายแรงไม่ได้หยุดแค่นี้เมื่อมังกรดำได้ทำลายเสาสวรรค์จนเป็นเหตุให้โลกมนุษย์เกือบล่มสลาย ดีที่เจ้าแม่หนี่วามาช่วยอุดรูรั่วของเขตแดนสวรรค์ไว้ได้ แต่คนผิดต้องรับผิด หลิ่งเหวินจึงถูกลงทัณฑ์
“หลิ่งเหวินแม้ครั้งนี้จะเป็นความผิดครั้งแรกของเจ้า แต่กลับทำผิดใหญ่หลวงนัก ข้ามิอาจช่วยเจ้าได้จริงๆ ด้วยความรักที่ข้ามีต่อเจ้าข้าจะทำลายร่างทิพย์ของเจ้าและส่งดวงจิตไปยังโลกมนุษย์ จงทำความดีชดใช้กรรมที่เจ้าก่อ ข้าหวังว่าความกรุณาของข้าจะทำให้ดวงจิตของเจ้ากลับคืนสู่สรวงสรรค์อีกครั้งในสักวัน”
หลิ่งเหวินนั่งเงียบเงยหน้าสบตาพระมารดาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะก้มหน้ารอรับการลงทัณฑ์ เพียงแค่เจ้าแม่หนี่วาสะบัดมือร่างที่งดงามที่ถูกสร้างสรรค์กลับแตกสลาย ดวงจิตถูกส่งไปยังโลกมนุษย์ เพื่อชดใช้กรรม
ตุบ!
โอ้ย!
เสียงร้องเบาๆ พร้อมร่างสูงโปร่งที่ตกจากเตียงพยายามปีนกลับขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมสะบัดศีรษะไปมาไล่ความมึนงง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาตกเตียงแต่เป็นทุกครั้งที่เขาฝันถึงเรื่องนี้
“เฮ้อ! สงสัยจะอ่านนิยายจีนกำลังภายในมากเกินไป”
ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ เมื่อมองนาฬิกาก็เพิ่งจะตีสาม จะนอนต่อก็นอนไม่หลับเพราะความฝันมันตามหลอกหลอน จึงลุกออกไปสูดอากาศนอกระเบียงห้องนอน ผมชื่อ เอกบดินทร์ วัฒนโสภา ที่เป็นคนไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่พ่อเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆของไทย แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงชอบประวัติศาสตร์จีนและนิยายจีนแนวกำลังภายในมากมายถึงเพียงนี้ อาจเป็นเพราะผมฝันถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่ 10 ขวบทำให้ผมพยายามหลอกตัวเองว่ามันต้องมีอยู่ในนิยายสักเรื่องแต่ผมอ่านมาเป็น15 ปีแล้วนับแต่วันนั้น แต่ก็ยังหาเรื่องที่เกี่ยวกับความฝันผมไม่ได้เลย ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าหวังจะให้มีดวงดาวระยิบระยับ แล้วต้องถอนหายใจทำไมนะเหรอ? เพราะนี่มันกรุงเทพฯ ไง มีแต่แสงไฟจะหาดาวสักดวงเจอไหม
ผมถอนใจอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ใจมันหวิวๆ แปลกๆ บอกไม่ถูก ความเงียบยามค่ำคืนทำให้ผมอดคิดถึงความฝันอีกครั้งไม่ได้ แม้จะต่างยุคต่างสมัย แต่คนที่ดีดกู่เจิงอยู่บนยอดเขาประหลาดที่งดงามนั้นมันเหมือนผมเลย ต่างกันแค่ทรงผมที่ดูทันสมัยในสมัยนี้เท่านั้น
“ช่างเถอะอะไรจะเกิดก็ช่างมัน” ผมบอกตัวเองก่อนจะหันหลังกลับไปซุกตัวนอนบนเตียงนุ่มอีกครั้ง หวังว่าพรุ่งนี้ครบอายุ25 ปีของผมจะมีอะไรดีๆ ในชีวิตนะ
ตีห้าผมลุกจากที่นอนอีกครั้ง แล้วลงมาที่ห้องออกกำลังกายประจำยามเช้าและยามว่าง ฝาผนังมีดาบมากมายที่ผมสะสมไว้ ปกติผมจะไปฝึกเคนโด้ที่โรงเรียนของพ่อแม็กซ์เพื่อนสนิท แต่ความสามารถจดจำทางร่างกายและสมองของผมมันยอดเยี่ยมมากเกินไปทำให้จดจำได้หมดเพียงสามวันผมก็สามารถเรียนท่าอิไอ จนจบหลักสูตร
แต่ผมก็ไม่ได้บอกครูฝึกซึ่งเป็นพ่อของแม็กซ์เพราะไม่อยากให้พวกเขาเสียความรู้สึก ที่พวกเขาพยายามฝึกมานานนับสิบปีกว่าจะมาถึงจุดนั้น แต่ผมเรียนแค่สามวันกลับทำได้หมด มีเพียงแม็กซ์เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้เพราะเป็นคู่ฝึกผมบ่อยๆ แต่มันก็ไม่ได้บอกทางบ้านเพราะคงจะเข้าใจพ่อตัวเองดี
ผมหยิบดาบที่มีน้ำหนักพอดีมือ ก่อนจะมาฝึกวาดท่าตามที่เคยดูหนังจีนมาแม้มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเพราะสมัยนี้คงไม่มีใครหยิบดาบมาฟาดฟันกันแล้วก็ตาม แต่มันเป็นความชอบส่วนตัวของผมเอง วันนี้ผมลองออกแบบท่าใหม่ให้ตัวเอง ผมตั้งชื่อว่าวายุพิฆาตเพราะความดุดันในการลงดาบและรวดเร็ว พื้นห้องเริ่มแตกร้าวทำให้ผมต้องหยุดมือ
ทำไมผมทำได้น่ะเหรอเพราะผมลองฝึกลมปราณในตำราที่พ่อซื้อมาฝากจากจีนตอนไปทำธุรกิจที่นั่น ตอนแรกผมไม่ได้คาดหวังว่าจะทำได้เนื่องจากความยากของการทะลวงจุดนั้น บอกได้เลยว่าไม่มีความอดทนพอธาตุไฟอาจเข้าแทรก แต่เหมือนโชคชะตาหรือว่าความตั้งใจไม่รู้ผมถึงมีลมปราณภูตอุดรเป็นลมปราณที่ล้ำลึกรวดเร็วเหมือนสายลม หนักเบาเหมือนปุยนุ่น