ตอนที่3 ตกตะลึง
หลังจากไป๋หลง รับข้อเสนอของไป๋หยางผู้เป็นบิดา ทั้งสองเดินออกมาข้างนอกคฤหาสน์ ซึ่งด้านหน้านั้นมีลานกว้างไว้สำหรับให้สัตว์อสูรประลองฝีมือกันหรือตัดสินเรื่องต่างๆที่เป็นปัญหาก็จะใช้ลานประลองตรงนี้ในการตัดสิน ความแข็งแกร่งคือที่สุดผู้อ่อนแอไม่มีสิทธิ์ในการพูด เมื่อทั้งสองมาถึงลานประลอง ก็มีสัตว์อสูรจำนวนมากมารอชม การประลองของ นายน้อยแห่งป่าอสูร เมื่อทั้งสองมาถึง สัตว์อสูรทั้งหลายก็ทำความเคารพไป๋หยางและไป๋หลง...
"คาราวะท่านเทพอสูร"
"คาราวะนายน้อย "
เหล่าอสูรทำความเคารพอย่างพร้อมเพียง...
" เอาล่ะไม่ต้องมากพิธีวันนี้ข้าจะให้บุตรของข้าขึ้นประลองกับองค์รักษ์ของข้าซึ่งมันก็บังเอิญที่องค์รักษ์ของข้านั้นเป็นที่หนึ่งของลานประลองนี้ ข้าเลยอยากให้เขาลองประลองกับบุตรของข้า เพื่อเป็นประสบการณ์"
เมื่อไป๋หยางพูดจบก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าอสูรมากมาย...
"นายน้อยยังเด็กอยู่เลยจะไหวเหรอ ขนาดข้ายังอยู่ไม่ถึง2กระบวนท่าด้วยซ้ำ" เสียงของอสูร ตนหนึ่งดังขึ้น
"ใช่ๆ ข้าก็คิดเช่นนั้น" เสียงเหล่าอสูรต่างวิพากษ์วิจารณ์ของการต่อสู้ครั้งนี้..
"แต่อย่าลืม น่ะว่าเขาเป็นบุตรของท่านเทพอสูรความแข็งแกร่งย่อมมีไม่ต่างกันถึงไม่ชนะถ้ารับได้มากกว่า3กระบวนท่าก็เก่งกาจมากแล้ว!!" เสียงอสูรรูปร่างสูงใหญ่ กล่าวขึ้น
"แล้วเจ้าละเจ้าแห้งคิดว่าผลเป็นยังไง" เสียงของอสูรตนหนึ่งถามอสูรตนที่ไป๋หลงไปจับมือแล้วชวนมาเล่นด้วยกัน
" คอยดูเดี๋ยวก็รู้เองแหละ" เสียงของอสูรตนนั้นดังขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่
"เจ้านี้ก็แปลกเนอะวันนี้เจ้าแปลกๆข้าไม่คุยกับเจ้าล่ะ" หลังจากอสูรตนนั้นไป เจ้าแห้ง หรือ ที่นายน้อยไป๋หลงชวนมาเล่นด้วยแอบยิ้มที่มุมปาก
" เอาล่ะๆเงียบได้แล้ว"
เสียงไป๋หยางดังขึ้นทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ หยุดลง ตอนนี้ ไป๋หลงได้เดินขึ้นไปบนสนาม อยู่กลางลานประลองเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แค่อันดับหนึ่งของลานประลองที่ยังไม่ออกมา ขณะนั้นเองก็เกิดเสียงเหมือนฝีเท้าขนาดใหญ่กำลังเข้าใกล้ลานประลอง...
ตึม! ตึม ! ตึม!
เสียงของอสูรที่โผล่ออกมาจากทางเข้าอีกฟากนึง รูปร่างสูงใหญ่มีเขาเรียวยาวม้วนโค้งร่างลุกเป็นไฟตลอดเวลาใส่เกราะสีแดงเข้าที่มีรวดลายดูแล้วให้ความน่าเกรงขาม ดวงตาสีเหลือง มองมายังร่างของ ไป๋หลง สายตาที่มองมานั้นไม่ได้มีความเหยียดหยามหรือดูถูกอยู่เลย มีแต่ความชื่นชมซะมากกว่า...
"คาราวะท่านเทพอสูร และคาระวะนายน้อย เป็นเกียรติอย่างมากที่ให้ข้าประลองกับ นายน้อย"
สัตว์อสูรตนนี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ให้ความเคารพพร้อมแผ่แรงกดดันระดับจักรพรรดิอสูร ขั้น7 ออกมาสร้างความตื่นตะลึงกับเหล่าอสูรเป็นอย่างมากแต่ไป๋หลงยืนอยู่โดยที่ไม่ได้รับแรงกดดันแม้แต่น้อย....
"ว่าแต่ท่านมีนามว่าอะไรเหรอ ข้ายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย"
ไป๋หลงแสดงและพูดด้วยท่าทีนอบน้อมและให้ความเคารพกับผู้ที่อาวุโสกว่า ซึ่งไป๋หยางเป็นคนสอนเรื่องนิสัยให้กับไป๋หลง ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับเป็นร้อยเท่า!! นี้คือสิ่งที่ไป๋หยางได้สอนไป๋หลงมา สร้างความประทับใจให้กับเหล่าอสูรแถวนี้ไม่น้อยที่นายน้อยผู้นี้มีสัมมาคาราวะต่อผู้อาวุโสกว่า
"ข้าชื่อว่า เต้าจี้ เป็นองค์รักษ์ของท่านเทพอสูรไป๋หยาง"
อสูรตนนั้น บอกชื่อเสร็จ ไป๋หยาง ก็เริ่มประกาศให้เริ่มต่อสู้..
เริ่มการประลองได้!!
"ออมมือให้ข้าด้วยล่ะท่านเต้าจี้"
"เช่นกันนายน้อย"
เต้าจี้คิดไว้ว่าจะใช้พลัง1ใน10 ในการประลอง เพราะคิดว่านายน้อยยังเด็กอยู่และวิชาต่อสู้ยังอ่อนนัก เต้าจี้ ได้หายวับไปต่อหน้าต่อตาของไป๋หลง ทำให้เหล่าอสูรต่าง ตกตะลึงความเร็วของเต้าจี้ แต่ ไป๋หลง หาได้สนใจ...
เพียงแค่ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะหายวับไป ต่อหน้าต่อตา เต้าจี้ ซึ่งตามความเป็นจริง เต้าจี้จะเตะให้ไป๋หลง ออกนอกสนาม จะถือว่าแพ้ซึ่งตัวมันไม่ได้อยากทำให้นายน้อยบาดเจ็บเท่าใดนัก แต่ มันกลับคิดผิด ลูกเตะที่เตะออกไป เตะโดนแค่อากาศ จังหวะนั้นเองไป๋หลงก็มาอยู่ด้านหลังเต้าจี้ แล้วทำการใช้วิชาที่พึ่งฝึก ภายในชั้นที่1 ไป๋หลงเกือบเรียนรู้ครบหมดทุกวิชาในชั้น1!!
ลูกเตะทลายศิลา!!
ตึ้ม!
เกิดสูงดังขึ้นบนลานประลองลูกเตะทลายศิลาของไป๋หลงนั้นทำให้เต้าจี้เกือบตกสนาม สร้างความตกใจและตกตะลึงเป็นอย่างมากให้แก่เหล่าอสูรที่วิพากษ์วิจารณ์ ว่าไป๋หลงต้องแพ้ ตอนนี้พวกมันกลับคิดผิด มหันตผ์ รวมทั้ง ไป๋หยางที่ ตกตะลึงไม่คิดว่าไป๋หลงจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้...
"ฝีมือไม่เลวเลย นายน้อย" เต้าจี้กล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชม
" ท่านก็เหมือนกัน" ไป๋หลงชื่นชมเต้าจี้ที่สามารถรับลูกเตะของตนได้ทั้งที่ใส่ไปเต็มแรง หารู้ไม่ว่า เต้าจี้นั้นอยู่ถึงขั้นจักรพรรดิขั้นที่7 ซึ่งห่างกับตนเองอยู่มากส่วนใหญ่แล้ว ไป๋หลงไม่ค่อยสนเกี่ยวกับระดับพลังอยู่แล้ว
"เอาล่ะข้าจะเริ่มเอาจริงล่ะนะนายน้อยโปรด ระวังตัวด้วย" เต้าจี้กล่าวจบก็ปล่อยพลังเต็ม10 ส่วน เหล่าอสูรที่มองดูอยู่ถึงกับอ้าปากค้างตกตะลึงไม่นึกเลยว่า ไป๋หลงสามารถทำให้ เต้าจี้ใช้พลังเต็ม10ส่วนได้ ทางด้านไป๋หยางมองดูอย่างใจจดใจจ่อ..
"ข้าก็จะเอาจริงด้วยเช่นกัน" เมื่อไป๋หลงกล่วจบทั้งสอง เริ่มปะทะกันอีกครั้งผลัดกันลุกผลัดกันรับ เตาจี้ใช้ท่า
กระบองโลกันต์
ไฟทั่วตัวของเต้าจี้รวมกันเป็นกระบองขนาดใหญ่ ฟาดลงมาที่ ไป๋หลง ไป๋หยางคิ้วขมวดเตรียมที่จะเข้าไปช่วยแต่ ไป๋หลงส่งกระแสจิตมาบอกว่ายังไหว เลยต้องปล่อยไป เต้าจี้กระโดดหลบด้วยความเร็วที่มีทำให้เต้าจี้ ไม่สามารถตามความเร็วของไป๋หลงได้ทัน
"เอาล่ะใช้วิชานั้นเลยดีกว่า" ไป๋หลงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นนี้เป็นครั้งแรกที่ไป๋หลงจะใช้
ฝ่ามือสยบสรรพสิ่ง
ไป๋หลงได้กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าตั้งท่าใช้ฝ่ามือสยบสรรพสิ่ง ก่อเกิดเป็นรูปฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ราวกับฝ่ามือของพระเจ้า ฝ่ามือนั้นทำให้เหล่าอสูร ทั้งหลายตกตะลึง อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ในสมองมีแต่คำว่า นี้ใช่พลังของเด็กแนหรือ คนที่ตกใจที่สุดไม่ใช่เหล่าอสูรเพียงอย่างเดียว ตอนนี้เทพอสูรไป๋หยางก็ตกตะลึงเช่นกันซึ่งมันรู้จักวิชานี้ดี และรู้ระยะเวลาในการฝึก
ฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งตรงมายังสนาม เต้าจี้เริ่มเห็นว่าท่าจะไม่ดีเลยกระโดด ออกจากสนาม ผลก็คือ เต้าจี้แพ้ แต่ฝ่ามือมันไม่ได้หยุดเมื่อถูกปล่อยออกมาแล้ว มันมุ่งตรงไปที่สนาม เมื่อฝามือปะทะกับสนามก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น
ตู้มมมมม!!
เสียงระเบิดสร้างความตกใจให้กับเหล่าอสูรเป็นอย่างมากแต่เมื่อฝุ่นควันหายไปปรากฎรูปฝ่ามือลึก10เมตรเกือบจะได้ทำให้อสูรเหล่านั้นตกตะลึงอ้าปากค้างไปตามๆกัน เมื่อไป๋หยางตั้งสติได้ก็ประกาศชื่อผู้ชนะ
"ไป๋หลงเป็นฝ่ายชนะ"
จบ.....